ผู้ตรวจฯ ลุยเช็กราคาอาหาร-เครื่องดื่มสนามบินสุวรรณภูมิ พอใจคุมราคาได้ดี ขู่ ผอ.การท่าฯ ดอนเมืองทำลิงหลอกเจ้า หลังพบยังปล่อยร้านค้าขายน้ำดื่มขวดละ 40 ระบุเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปชช.เดือดร้อนแจ้งได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน นำโดย พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการขายอาหารและเครื่องดื่มภายในอาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีราคาสูงกว่าปกติ และได้มีการประชุมร่วมกับนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ประณุดา ธีระวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์และการเงิน ท่าอากาศยานดอนเมือง นายวิสิฎฐ์ บาลี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายสนับสนุนธุรกิจ) นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และ น.ส.ทรงศิริ จุมพล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.วิทวัสกล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจราคาอาหารและเครื่องดื่มว่า การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการเอาใจใส่ในเรื่องของราคาอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างดี จากที่ตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ราคาน้ำดื่มอยู่ที่ 7-10 บาท และสินค้าก็มีวางจำหน่ายจำนวนมาก ไม่เหมือนที่สนามบินดอนเมืองที่ติดป้ายราคาขายน้ำดื่มที่ 10 บาท แต่ไม่มีสินค้าวางขาย มีแต่น้ำดื่มที่เป็นน้ำแร่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่รัฐบาลยังถือหุ้นร้อยละ 70 จึงถือเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจที่ต้องทำประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชนด้วย จากการหารือในวันนี้มีการกำหนดมาตรการไว้ 2 ระยะ โดยระยะแรกให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควบคุมให้ผู้ประกอบการกำหนดราคาอาหารตามที่ได้ทำสัญญาไว้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ และไปปรับปรุงรายละเอียดของสัญญาในเรื่องกฎระเบียบที่ระบุว่าหากมีการขายเกินราคาจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้รัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่งตัวแทนแทนกรมการค้าภายในได้ยืนยันว่า ทางกรมฯ จะจัดทำราคาสินค้าที่เป็นมาตราฐานจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งให้บริษัทการท่าอากาศยานไทย ยึดราคาตามมาตรฐานนี้เป็นหลัก ในการกำหนดราคาขาย 10-25 เปอร์เซ็นต์ของราคามาตรฐาน ตามสัญญาที่ผู้ประกอบการได้ทำไว้กับท่าอากาศยานไทย ซึ่งผู้ประกอบการจะหมดสัญญาในช่วงปี 2561-2563
อย่างไรก็ตาม ทางการท่าอากาศยานไทยรับปากว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน สำหรับระยะที่ 2 เมื่อผู้ประกอบการครบสัญญาหมดแล้ว ให้กรมการค้าภายในควบคุมราคาสินค้าให้ใกล้เคียงกับราคาที่ขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อสะท้อนความซื่อสัตย์ของคนไทยที่ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
“การลงพื้นที่วันนี้เมื่อเทียบอากาศยานดอนเมืองถือว่าแตกต่างกันมาก ราคาน้ำดื่มที่สุวรรณภูมิขายในราคา 7-10 บาท แต่ที่ดอนเมืองผู้ประกอบการขายในราคา 40 บาท ได้ตักเตือนตัวแทนท่าอากาศยานดอนเมืองที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ด้วยว่าขอให้ไปปรับปรุงแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะราคาน้ำดื่ม 500-600 ซีซี เป็นสินค้าควบคุมราคาของกรมการค้าภายในที่ให้ขายไม่เกิน 7-10 บาท หากสนามบินดอนเมืองยังละเลยปล่อยให้ผู้ประกอบการขายในราคาที่สูงเกินไป ผอ.การท่าดอนเมืองก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนก็สามารถร้องมายังผู้ตรวจการแผ่นดินได้”
ด้านนายศิโรตม์กล่าวว่า การท่าอากาศยานฯ จะมีมาตรการสุ่มตรวจราคาสินค้าเป็นระยะ หากพบว่ามีการขายสินค้าเกินราคา จะมีการแจ้งไปยังผู้ประกอบการ ซึ่งหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายใน 90 วัน สามารถยกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ พล.อ.วิทวัส และคณะจะเดินทางมาถึงฟูดคอร์ต food stop ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศนั้น ไม่ถึง 5 นาที ร้านค้าอาหารฟาสต์ฟูดชื่อดังรายหนึ่งมีการปลดป้ายและเปลี่ยนป้ายราคาสินค้าทันทีต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ทางเจ้าหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินระบุว่าเป็นการตอบสนองนโยบายผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะป้ายราคาเพิ่งจะทำเสร็จเมื่อสักครู่
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพนักงานขายภายในร้านอาหารในฟูดคอร์ตเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาอาหารและน้ำดื่มลงในวันนี้ อีกทั้งเมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาอาหารพบว่า อาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว เช่น เมนูข้าวผัดเจ ราคาจานละ 200 บาท ผัดไทยกุ้งสดจานละ 280 บาท ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นชามละ 250 บาท ส่วนอาหารฟาสต์ฟูด เบอร์เกอร์ต่อชิ้นอยู่ที่ 300-500 บาท สำหรับราคาน้ำดื่ม น้ำแร่ราคาขวดละ 45 บาท น้ำอัดลมกระป๋องเล็ก 100 บาท