นางพัชรา พรยุทธพงศ์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ถึงกรณีมีผู้โดยสารใช้บริการรถแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ถูกผู้ขับขี่รถแท็กซี่เรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 150 บาท โดยอ้างว่าเป็นรถแท็กซี่ขนาดใหญ่นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากรายละเอียดพบว่าในเวลาประมาณ 18.30 น. มีผู้โดยสารชาวไทยจำนวน 4 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ 5 ใบ ได้ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะที่บริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 โดยกดบัตรคิวได้รถแท็กซี่ที่ช่องจอดหมายเลข 47 ซึ่งผู้ขับขี่ที่ให้บริการที่ช่องจอดดังกล่าวชื่อนายนิวัฒน์ เรืองกิจฉายา รหัส 570166 ขับรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ รุ่น Innova สีฟ้าของ บจก. ไทยเอซลิซซิ่ง ทะเบียน ทษ 6780 ซึ่งเมื่อผู้โดยสารได้แจ้งให้ไปส่งปลายทางที่ถนนประชาอุทิศนั้น นายนิวัฒน์กลับแจ้งว่าต้องขอคิดค่าธรรมเนียมจาก 50 บาท เป็น 150 บาท โดยอ้างว่าผู้โดยสารมีสัมภาระหลายใบ
ทั้งนี้ ผู้โดยสารจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ทสภ.ที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณดังกล่าวทราบ เจ้าหน้าที่ ทสภ. จึงได้เข้าไปสอบถามนายนิวัฒน์ว่าได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจริงหรือไม่ ซึ่งนายนิวัฒน์ยอมรับว่าทำจริง และยอมที่จะยกเลิกการเก็บค่าบริการเพิ่ม แต่ผู้โดยสารได้ร้องขอใช้รถบริการคันใหม่ เจ้าหน้าที่ ทสภ.จึงเรียกรถแท็กซี่ขนาดใหญ่คันใหม่ให้ โดยได้รับการคิดค่าบริการตามการเปิดมิเตอร์และค่าธรรมเนียมการใช้บริการตามปกติ
นางพัชรากล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวฝ่ายบริหารการขนส่ง ทสภ.ได้ดำเนินการระงับรหัสรถแท็กซี่คันดังกล่าวไม่ให้สามารถเข้ามาให้บริการที่ ทสภ.เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. และได้ส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ทสภ.มีนโยบายเข้มงวดกวดขันให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ภายใน ทสภ.เปิดมิเตอร์บริการผู้โดยสารทุกคัน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากพบผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันใดไม่คิดค่าบริการตามที่กฎหมายกำหนด ทสภ.จะมีบทลงโทษโดยการสั่งระงับรหัสผู้ขับขี่ ทำให้ไม่สามารถเข้ามาให้บริการภายใน ทสภ. เป็นการชั่วคราวหรือเป็นการถาวรได้ และ ทสภ.ได้มีการลงโทษผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการกระทำไม่เหมาะสมทุกราย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่ใน ทสภ. โปรดเก็บสลิปการใช้บริการไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ในการติดตามข้อมูลสำคัญต่างๆ หากเกิดกรณีขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก ทสภ.มีระบบการลงทะเบียนและฐานข้อมูลประวัติของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทันที
ทั้งนี้ จากรายละเอียดพบว่าในเวลาประมาณ 18.30 น. มีผู้โดยสารชาวไทยจำนวน 4 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ 5 ใบ ได้ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะที่บริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 โดยกดบัตรคิวได้รถแท็กซี่ที่ช่องจอดหมายเลข 47 ซึ่งผู้ขับขี่ที่ให้บริการที่ช่องจอดดังกล่าวชื่อนายนิวัฒน์ เรืองกิจฉายา รหัส 570166 ขับรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ รุ่น Innova สีฟ้าของ บจก. ไทยเอซลิซซิ่ง ทะเบียน ทษ 6780 ซึ่งเมื่อผู้โดยสารได้แจ้งให้ไปส่งปลายทางที่ถนนประชาอุทิศนั้น นายนิวัฒน์กลับแจ้งว่าต้องขอคิดค่าธรรมเนียมจาก 50 บาท เป็น 150 บาท โดยอ้างว่าผู้โดยสารมีสัมภาระหลายใบ
ทั้งนี้ ผู้โดยสารจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ทสภ.ที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณดังกล่าวทราบ เจ้าหน้าที่ ทสภ. จึงได้เข้าไปสอบถามนายนิวัฒน์ว่าได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจริงหรือไม่ ซึ่งนายนิวัฒน์ยอมรับว่าทำจริง และยอมที่จะยกเลิกการเก็บค่าบริการเพิ่ม แต่ผู้โดยสารได้ร้องขอใช้รถบริการคันใหม่ เจ้าหน้าที่ ทสภ.จึงเรียกรถแท็กซี่ขนาดใหญ่คันใหม่ให้ โดยได้รับการคิดค่าบริการตามการเปิดมิเตอร์และค่าธรรมเนียมการใช้บริการตามปกติ
นางพัชรากล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวฝ่ายบริหารการขนส่ง ทสภ.ได้ดำเนินการระงับรหัสรถแท็กซี่คันดังกล่าวไม่ให้สามารถเข้ามาให้บริการที่ ทสภ.เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. และได้ส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ทสภ.มีนโยบายเข้มงวดกวดขันให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ภายใน ทสภ.เปิดมิเตอร์บริการผู้โดยสารทุกคัน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากพบผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันใดไม่คิดค่าบริการตามที่กฎหมายกำหนด ทสภ.จะมีบทลงโทษโดยการสั่งระงับรหัสผู้ขับขี่ ทำให้ไม่สามารถเข้ามาให้บริการภายใน ทสภ. เป็นการชั่วคราวหรือเป็นการถาวรได้ และ ทสภ.ได้มีการลงโทษผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการกระทำไม่เหมาะสมทุกราย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่ใน ทสภ. โปรดเก็บสลิปการใช้บริการไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ในการติดตามข้อมูลสำคัญต่างๆ หากเกิดกรณีขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก ทสภ.มีระบบการลงทะเบียนและฐานข้อมูลประวัติของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทันที
