กรมขนส่งทางบก แจง ประมูลโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง 400 กว่าล้านบาท โปร่งใส ขยายเวลาโครงการ 2 ครั้ง เพราะสถานการณ์ทางการเมือง ล่าสุดคืบหน้าตามแผน 90% พร้อมส่งมอบงาน มิ.ย. นี้ พร้อมเผยเหตุผ่อนปรนไม่ยกเลิกสัญญา เพราะบริษัทยอมจ่ายค่าปรับโดยไม่มีเงื่นไข และไม่ทิ้งงาน
วันนี้ (10 พ.ค.) นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ทำหนังสือถึง “ผู้จัดการออนไลน์” เพื่อชี้แจงข่าว กรมการขนส่งทางบกปล่อยให้โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อการบูรณาการข้อมูลสนับสนุนการให้บริการ ยืดเยื้อมาถึง 4 ปียังไม่เสร็จ และมีกระแสข่าวการเรียกเงินใต้โต๊ะ 40% ว่ากรมการขนส่งทางบกได้รับอนุมัติงบประมาณปี 2555 - 2557 ในโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อการบูรณาการข้อมูลสนับสนุนการให้บริการ (Master Data Management) ของกรมการขนส่งทางบก วงเงิน 423,083,700 บาท และได้ดำเนินการจัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ซึ่งบริษัท ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ในวงเงิน 412,900,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ คค 0408/2114/2555 ลงวันที่ 28 กันยายน 2555 ระยะเวลา 780 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งการจัดจ้างดังกล่าวได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสตามระเบียบพัสดุฯ และมีรายละเอียดการดำเนินการ ดังนี้
1. การขยายเวลา
กรมฯ ได้ขยายระยะเวลาโครงการจำนวน 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 244 วัน เป็นสิ้นสุดสัญญาวันที่ 19 กรกฎาคม 2558
- ครั้งที่ 1 สถานการณ์ทางการเมืองจำนวน 31 วัน (2 ธันวาคม 2557 ลงนามขยายเวลา ครั้งที่ 1)
- ครั้งที่ 2 สถานการณ์ทางการเมือง (เพิ่มเติม) การเพิ่มขอบเขตงานนอกเหนือจากข้อกำหนด และปัญหาจากการปรับเปลี่ยนคณะทำงาน จำนวน 213 วัน (20 กุมภาพันธ์ 2558 ลงนามขยายเวลาครั้งที่ 2) การให้ขยายสัญญา 213 วัน ในครั้งที่ 2 ตามรายละเอียด ดังนี้
1.1 ผลกระทบจากการขยายและเพิ่มขอบเขต ขยายจำนวน 94 วัน
1.2 ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนบุคลากรที่รับผิดชอบระบบบัญชีการเงิน ขยายจำนวน 46 วัน
1.3 เหตุจากไม่สงบทางการเมือง ขยายจำนวน 4 วัน
1.4 ขยายเวลาเพิ่มเนื้องาน จำนวน 69 วัน ระยะเวลาครั้งที่ 3
2. สิ่งที่จัดทำตามโครงการ
2.1 จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายทดแทนเครื่องเดิม
2.2 ปรับปรุงระบบเครือข่ายการสื่อสารหลักในส่วนกลาง
2.3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง (Master Data)
2.4 พัฒนาระบบสารสนเทศโดยใช้สถาปัตยกรรม SOA (Service Oriented Architecture)
3. การบริหารโครงการ
3.1 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุฯ โดยมีรองอธิบดีฝ่ายวิชาการเป็นประธาน
3.2 แต่งตั้งคณะทำงาน 12 คณะ ประกอบด้วย
3.2.1 คณะทำงานกำกับด้านการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงาน (Change Agent)
จำนวน 1 คณะ
3.2.2คณะทำงานด้านระบบสารสนเทศ จำนวน 11 คณะ
3.3 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยงานเจ้าของโครงการ
3.4 จ้างที่ปรึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อให้คำแนะนำในการ
บริหารโครงการและตรวจสอบคุณภาพของงาน
4. สถานะโครงการปัจจุบัน
หมายเหตุ งานงวดที่ 5 และงวดที่ 6 บริษัทได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วประมาณ 90% และตามแผนงานที่บริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงแผนงานมาใหม่จะแล้วเสร็จและสามารถส่งมอบงานได้เสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนมิถุนายน 2559
5. สาเหตุที่ไม่ยกเลิกสัญญา
บริษัทได้มีหนังสือที่ จ. 1907/2558 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 แจ้งหัวหน้าส่วนพัสดุและแผ่นป้ายทะเบียนรถ เรื่องการเรียกค่าปรับตามสัญญา จากหนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค 0416.6/12752 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ได้แจ้งเรียกค่าปรับในอัตราวันละ 412,900 บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยบาท) นับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบ ซึ่งจำนวนค่าปรับเกินร้อยละ 10 ของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง บริษัทฯ ยินยอมเสียค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ในกรณีที่เป็นความผิดของ บริษัทฯ และขอให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาการบอกเลิกสัญญา และมติที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุฯ ในการประชุมครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ได้มีมติเห็นควรผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญา เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ละเลยในการปฏิบัติงาน ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานให้แล้วเสร็จ แต่ทั้งนี้ เมื่อกรมฯ ผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญา ขอให้บริษัทฯ จัดทำแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนเสนอให้กรมฯ โดยเร็ว พร้อมระบุปัจจัยความสำเร็จ เช่น จำนวนเจ้าหน้าที่ และโปรไฟล์ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลาต่อไป เพื่อให้กรมฯ เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีจำนวนบุคลากรที่เพียงพอ และ มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถดำเนินงาน
วันนี้ (10 พ.ค.) นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ทำหนังสือถึง “ผู้จัดการออนไลน์” เพื่อชี้แจงข่าว กรมการขนส่งทางบกปล่อยให้โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อการบูรณาการข้อมูลสนับสนุนการให้บริการ ยืดเยื้อมาถึง 4 ปียังไม่เสร็จ และมีกระแสข่าวการเรียกเงินใต้โต๊ะ 40% ว่ากรมการขนส่งทางบกได้รับอนุมัติงบประมาณปี 2555 - 2557 ในโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อการบูรณาการข้อมูลสนับสนุนการให้บริการ (Master Data Management) ของกรมการขนส่งทางบก วงเงิน 423,083,700 บาท และได้ดำเนินการจัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ซึ่งบริษัท ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ในวงเงิน 412,900,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ คค 0408/2114/2555 ลงวันที่ 28 กันยายน 2555 ระยะเวลา 780 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งการจัดจ้างดังกล่าวได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสตามระเบียบพัสดุฯ และมีรายละเอียดการดำเนินการ ดังนี้
1. การขยายเวลา
กรมฯ ได้ขยายระยะเวลาโครงการจำนวน 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 244 วัน เป็นสิ้นสุดสัญญาวันที่ 19 กรกฎาคม 2558
- ครั้งที่ 1 สถานการณ์ทางการเมืองจำนวน 31 วัน (2 ธันวาคม 2557 ลงนามขยายเวลา ครั้งที่ 1)
- ครั้งที่ 2 สถานการณ์ทางการเมือง (เพิ่มเติม) การเพิ่มขอบเขตงานนอกเหนือจากข้อกำหนด และปัญหาจากการปรับเปลี่ยนคณะทำงาน จำนวน 213 วัน (20 กุมภาพันธ์ 2558 ลงนามขยายเวลาครั้งที่ 2) การให้ขยายสัญญา 213 วัน ในครั้งที่ 2 ตามรายละเอียด ดังนี้
1.1 ผลกระทบจากการขยายและเพิ่มขอบเขต ขยายจำนวน 94 วัน
1.2 ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนบุคลากรที่รับผิดชอบระบบบัญชีการเงิน ขยายจำนวน 46 วัน
1.3 เหตุจากไม่สงบทางการเมือง ขยายจำนวน 4 วัน
1.4 ขยายเวลาเพิ่มเนื้องาน จำนวน 69 วัน ระยะเวลาครั้งที่ 3
2. สิ่งที่จัดทำตามโครงการ
2.1 จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายทดแทนเครื่องเดิม
2.2 ปรับปรุงระบบเครือข่ายการสื่อสารหลักในส่วนกลาง
2.3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง (Master Data)
2.4 พัฒนาระบบสารสนเทศโดยใช้สถาปัตยกรรม SOA (Service Oriented Architecture)
3. การบริหารโครงการ
3.1 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุฯ โดยมีรองอธิบดีฝ่ายวิชาการเป็นประธาน
3.2 แต่งตั้งคณะทำงาน 12 คณะ ประกอบด้วย
3.2.1 คณะทำงานกำกับด้านการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงาน (Change Agent)
จำนวน 1 คณะ
3.2.2คณะทำงานด้านระบบสารสนเทศ จำนวน 11 คณะ
3.3 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยงานเจ้าของโครงการ
3.4 จ้างที่ปรึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อให้คำแนะนำในการ
บริหารโครงการและตรวจสอบคุณภาพของงาน
4. สถานะโครงการปัจจุบัน
งวดที่ | จำนวนเงิน | จำนวนเงินที่ตรวจรับแล้ว | ยอดเงินที่ยังไม่เบิกจ่าย | สถานะ | หมายเหตุ |
1 | 61,935,000 | 61,935,000 | ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว | ||
2 | 66,064,000 | 66,064,000 | ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว | ||
3 | 16,516,000 | 16,516,000 | ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว | ||
4 | 8,258,000 | 8,258,000 | บ. ส่งมอบงานแล้ว (22 ธ.ค. 57) | 1) ตรวจรับไม่ผ่าน (แจ้ง บ. 25 ม.ค. 59) 2) ตรวจรับแล้วเรียบร้อยแล้วเมื่อ 7 เม.ย. 59 | |
5 | 20,233,833 | 20,233,833 | บ. ส่งมอบงานแล้ว (17 ก.ค. 58) | - กรรมการตรวจรับ มีหนังสือที่ คค 0420/12421 ลว 6 ส.ค. 58 แจ้งผลพิจารณาให้ บ. ทราบแล้วว่างานที่ส่งมอบยังไม่แล้วเสร็จตาม TOR ให้ บ. ดำเนินการให้แล้วเสร็จ จึงส่งมอบงานมาใหม่ - บ. มีหนังสือที่ จ 1435/2558 ลว 3 ก.ย. 58 แจ้งยืนยันส่งมอบงานครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว - อยู่ระหว่างตรวจรับ | |
6 | 102,611,160 | 102,611,160 | บ. ส่งมอบงานแล้ว (17 ก.ค. 58) | - กรรมการตรวจรับ มีหนังสือที่ คค 0420/12421 ลว 6 ส.ค. 58 แจ้งผลพิจารณาให้ บ. ทราบแล้วว่างานที่ส่งมอบยังไม่แล้วเสร็จตาม TOR ให้ บ. ดำเนินการให้แล้วเสร็จ จึงส่งมอบงานมาใหม่ - บ. มีหนังสือที่ จ 1435/2558 ลว 3 ก.ย. 58 แจ้งยืนยันส่งมอบงานครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว - อยู่ระหว่างตรวจรับ | |
7 | 137,282,007 | 137,282,007 | ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว | ||
412,900,000 | 281,797,007 | 131,102,993 |
หมายเหตุ งานงวดที่ 5 และงวดที่ 6 บริษัทได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วประมาณ 90% และตามแผนงานที่บริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงแผนงานมาใหม่จะแล้วเสร็จและสามารถส่งมอบงานได้เสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนมิถุนายน 2559
5. สาเหตุที่ไม่ยกเลิกสัญญา
บริษัทได้มีหนังสือที่ จ. 1907/2558 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 แจ้งหัวหน้าส่วนพัสดุและแผ่นป้ายทะเบียนรถ เรื่องการเรียกค่าปรับตามสัญญา จากหนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค 0416.6/12752 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ได้แจ้งเรียกค่าปรับในอัตราวันละ 412,900 บาท (สี่แสนหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยบาท) นับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบ ซึ่งจำนวนค่าปรับเกินร้อยละ 10 ของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง บริษัทฯ ยินยอมเสียค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ในกรณีที่เป็นความผิดของ บริษัทฯ และขอให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาการบอกเลิกสัญญา และมติที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุฯ ในการประชุมครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ได้มีมติเห็นควรผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญา เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ละเลยในการปฏิบัติงาน ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานให้แล้วเสร็จ แต่ทั้งนี้ เมื่อกรมฯ ผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญา ขอให้บริษัทฯ จัดทำแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนเสนอให้กรมฯ โดยเร็ว พร้อมระบุปัจจัยความสำเร็จ เช่น จำนวนเจ้าหน้าที่ และโปรไฟล์ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลาต่อไป เพื่อให้กรมฯ เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีจำนวนบุคลากรที่เพียงพอ และ มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถดำเนินงาน