เชือด! “ชายหมู” ไฟประดับ กทม. 39.5 ล้านไม่คุ้มค่า พบใช้ได้จริงแค่ 29 ล้าน “คตง.” ส่ง ป.ป.ช.-มท.ฟัน พร้อม 8 ข้าราชการ-คณะกรรมการทีโออาร์ยกชุด เผยเตรียมปูพรมเปิดข้อมูลฟัน “โครงการการจัดซื้อเครื่องดนตรี-โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี” ส่อไม่คุ้มค่า ไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ มีการทุจริต
วันนี้ (3 พ.ค.) มีรายงานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง.ได้แถลงเปิดเผยผลการตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) ของกรุงเทพมหานคร ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 40 ล้านบาท ตามโครงการ
ทั้งนี้ เป็นโครงการประดับตกแต่งไฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมืองของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในช่วงเทศกาลปีใหม่รวมระยะเวลา 1 เดือน ในวงเงินงบประมาณ 39.5 ล้านบาท โดยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ มีการทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 จึงมีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการเอาผิดต่อผู้กระทำความผิดทั้งหมด ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการมีจำนวน 9 ราย ได้แก่ 1. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. 2. นางปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว 3. นายธวัชชัย จันทร์งาม ผู้อำนวยการกองการท่องเที่ยว กทม. 4. นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กทม. 5. นายสิโรตม์ แสงเจริญ คกก.ทีโออาร์ 6. น.ส.วันทนา เตชะสุวรรณ คกก.ทีโออาร์ 7. นายพงษ์พันธ์ ธัญญเจริญ คกก.ทีโออาร์ 8. นายมรกต ภูมิพานิช คกก.ทีโออาร์ 9. นายสิทธิโชค อภิบาล คกก.ทีโออาร์
จากการตรวจสอบโครงการดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินโครงการที่ผิดปกติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้รับงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นประกวดราคา เพื่อดำเนินโครงการรวมถึง ความคุ้มค่าของโครงการ โดย กทม.มีการทำงานไม่ปฏิบัติตามแบบแผนราชการการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบส่งผลต่อความเสียหายต่อการเงิน การคลังของแผ่นดิน ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบที่สำคัญ คือ
1. กทม.ได้อนุมัติงบกลาง เพื่อดำเนินโครงการอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งงบกลางนั้นเป็นงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเท่านั้น แต่โครงการไฟประดับดังกล่าวเป็นโครงการที่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติงบประมาณจากสภา กทม. ดังนั้น การนำงบฉุกเฉินมาใช้งานจึงเป็นการปฏิบัติที่มิชอบด้วยระเบียบ
2. การจัดจ้างโครงการส่อพฤติการณ์ฮั้วประมูล เข้าข่าย เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยพบผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้รับงาน โดยการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวไม่เคยประกอบกิจการในลักษณะงานตามโครงการที่ กทม.กำหนดมาก่อนและได้จดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์ให้ตรงตามเงื่อนไขการประมูลราคาเพื่อเข้าเสนองาน อีกทั้งขอบเขตของงานตามทีโออาร์ที่ กทม.กำหนดนั้น มิได้มีการสืบราคาที่ถูกต้อง โดยเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อีกทั้งบริษัทบางบริษัทที่สนใจขอเอกสารการประมูลอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
ทั้งนี้ การตรวจสอบราคาไฟประดับของ กทม.พบว่า มีราคาอยู่ที่ประมาณ 29 ล้านบาทเท่านั้น แต่ กทม. ใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการจำนวน 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการดังกล่าวของ กทม. ยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากยังไม่ได้มีการตรวจรับงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งตนเห็นว่า การตรวจรับงานคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากไฟดับประดับจำนวน 5 ล้านดวง และมีข้อกัดการตรวจรับงานในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของแผ่นดิน แต่พฤติการณ์การดำเนินโครงการอย่างไม่ถูกต้อง ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความผิด ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นแล้ว
สำหรับโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) มีสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีบริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ด้วยวงเงิน 39,500,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2558 โดยโครงการดังกล่าว เริ่มประกาศร่างทีโออาร์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2558 ระบุเป้าหมายเพื่อ จัดประดับตกแต่งไฟฟ้าในรูปแบบและเทคนิคพิเศษ (Motif of Light) ที่นำเอารูปแบบของลวดลายประยุกต์ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำ ท้องฟ้า สวน และป่าไม้มาจัดแสดงด้วยระบบแสงสีที่สวยงาม ณ บริเวณลานคนเมืองศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ในระหว่างเดือนธันวาคม 2558 - มกราคม 2559 ระหว่างเวลา 18.00-24.00 น.
ทั้งนี้ ทีโออาร์โครงการดังกล่าวกำหนดราคากลาง 40 ล้านบาท โดยมีเอกชนสนใจเข้าซื้อเอกสารการประมูล จำนวน 9 ราย แต่มีผู้สนใจ ยื่นซองเอกสาร 2 ราย คือ บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด และ บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด ซึ่งผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและเทคนิคทั้งคู่
ส่วนผลการเสนอราคา บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เสนอราคาอยู่ที่ 39,619,990 บาท บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด 39,749,999.75 บาท (ห่างกัน 130,009 บาท) บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 380,010 บาท ทำให้เป็นผู้ชนะไป และต่อรองราคาเพิ่มช่วงทำสัญญาเหลือ 39,500,000 บาท
ทั้งนี้ การตรวจสอบพบว่า บริษัท คิวริโอ ได้นำเข้าโคมไฟฟ้าแอลอีดีครบเซตจากประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 58 ก่อนที่จะ มีการประมูลโครงการและเซ็นสัญญาเพื่อดำเนินโครงการกว่า 10 วัน อีกทั้งบริษัท คิวริโอยังได้นำอุปกรณ์เข้าพื้นที่บริเวณลานคนเมืองได้ดำเนินการติดตั้งแผงไฟในโครงการตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 58 จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีที่แสดงให้เห็นถึงพิรุธในการดำเนินโครงการดังกล่าว
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ส่วนรองผู้ว่าฯ กทม.ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงนั้น ได้มีการชี้แจงต่อ สตง.ว่าดำเนินโครงการตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. จึงเป็นการปฏิบัติงานตามหน้าที่
“ในส่วนของผู้ว่าฯ กทม.นั้น ที่ผ่านมาในการตรวจสอบโครงการดังกล่าว สตง.ได้มีหนังสือเชิญให้เข้าชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่สะดวกในการเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ สตง.ก็ยืนยันว่าการตรวจสอบโครงการเป็นไปตามหน้าที่ ซึ่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับ กทม.ในโครงการอื่นที่มีผู้ร้องเรียน อาทิ โครงการการจัดซื้อเครื่องดนตรี โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี สตง.ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการดำเนินโครงการเช่นกัน แต่ด้วยโครงการไฟประดับดังกล่าวเป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก จึงได้เร่งดำเนินการตรวจสอบติดตามผลก่อน” ผู้ว่าการ สตง.ระบุ
จากนี้ สตง.จะดำเนินการแจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้ว่าฯ กทม. รวมทั้งดำเนินการทางวินัยและอาญาแก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับความเสียหายที่จำเป็นจำนวนเงินนั้น ให้ดำเนินการหาผู้รับผิดชอบชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่กรุงเทพมหานคร
โดย สตง.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ความผิดกรณีดังกล่าวเบื้องต้นผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดตามคดีอาญา มีโทษปรับไม่เกิน 400,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 5 ปี แต่ขณะนี้ในส่วนของผู้ว่าฯ กทม.จะหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้นตนไม่อาจก้าวล่วง แต่หาก ป.ป.ช.มีการไต่สวนจนมีการชี้มูลว่าผู้ว่าฯ กทม.มีความผิดจริงก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ก่อน สตง.เข้ามาตรวจสอบนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า “โครงการดังกล่าวคุ้มค่า เพื่อให้บางคนได้เห็นความสวยงามของไฟประดับครั้งหนึ่งของชีวิต และยืนยันว่า กทม.ได้จัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม มีแนวคิดแปลกใหม่ในการทำงาน และพร้อมให้ทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบ”