“โคทม” ระบุ กม.ประชามติไม่มีจุดไหนห้ามรณรงค์ แต่ห้ามเผยแพร่ขอความอันเป็นเท็จ และไม่ให้ยุยงปลุกปั่น ฉะนั้นคนทั่วไปจึงพูดถึงเนื้อหาร่าง รธน.ได้ แนะผู้มีอำนาจต้องทำให้ประชามติเป็นไปอย่างเสรี และเที่ยงธรรม พร้อมให้ กกต.จัดเวทีให้สองฝ่ายแสดงความเห็นอย่างเท่าเทียม
นายโคทม อารียา อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายมองว่าหลักเกณฑ์ของ กกต.ในสิ่งที่ทำได้ และทำไม่ได้ตามกฎหมายประชามติ ยังกำกวมว่า ตนเข้าใจว่า กกต.อาจจะคิดว่า พ.ร.บ.การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มันก็ชัดอยู่แล้ว และหน้าที่ กกต.ไม่ใช่หน้าที่อธิบายกฎหมาย สุดท้ายขึ้นอยู่กับศาลพิจารณา ซึ่งก็ต้องอ้างคำกล่าวของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ว่า ต่อไปนี้สิ่งใดที่กฎหมายไม่ห้าม สามารถทำได้ ซึ่งก็เป็นหลักการนั้นอยู่แล้ว และเท่าที่อ่านกฎหมายการทำประชามติ อ่านแล้วไม่มีคำไหนบอกว่าห้ามรณรงค์ จึงตีความกฎหมายไม่ห้าม สามารถทำได้ และสิ่งที่ทำไม่ได้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว คือห้ามเผยแพร่ข้อความที่ไม่ตรงกับความจริง ห้ามยุยงปลุกปั่น
ส่วนกรณีพลั้งพลาดต้องดูที่เจตนา ทั้งนี้ การเขียนกฎหมายต้องมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ดีที่สุดคือไม่พูดความอันเป็นเท็จ ใช้คำพูดคำจาให้เป็นประโยชน์ แล้วทุกอย่างมันก็จะไปได้
นายโคทมกล่าวว่า ในส่วนที่ กกต.จัดเวที ก็ต้องจัดให้ทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จัดให้ฝ่ายเสนอ ฝ่ายค้านไม่ได้ ถ้าเป็นการจัดเวทีของ กกต.หรือของรัฐ ต้องให้พื้นที่เท่าๆ กัน การที่รัฐจะไประดมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) หรือกระทรวงมหาดไทย ที่ระดมเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ที่ถูกต้องของร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นไร ก็ต้องให้โอกาสคนทั่วไปด้วยที่จะกล่าวถึงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญว่าเมื่อกฎหมายเป็นอย่างนี้ ผลสืบเนื่องกฎหมายจะเป็นอย่างนี้ ต้องให้ทำอย่างเสรี และเที่ยงธรรม เพราะการเลือกตั้งและการลงประชามติมีอยู่ 2 คำ คือ เสรี และเที่ยงธรรม คือทุกคนมีเสียงมีส่วน และมีเสียงนั้นอย่างเท่าๆ กัน