“ประยุทธ์” เป็น ปธ. เปิดวันแรงงาน รับข้อเสนอบางอย่างทำไปแล้ว ลั่น วันข้างหน้าค่าแรงต้องสูงกว่า 500 หนุนเพิ่มรักษาฟันในสวัสดิการ แนะให้เข้าสู่ระบบประกันสังคม เล็ง ดันแม่บ้านไทยโกอินเตอร์ ย้ ำขอ 5 ปี ให้มั่นใจสิ่งที่ทำไม่ล้มเหลว กร้าวอยู่ใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่โกหก ย้ำ ทำตามโรดแมป ขออย่าต่อต้านมาก ปล่อยตามกระบวนการยุติธรรม ลั่นเสี่ยงเข้ามาตายก็ยอม วอนอย่าเป็นเครื่องมือ
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ปะรำพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2559 ภายใต้คำขวัญวันแรงงานแห่งชาติปี 2559 “แรงงานพัฒนา พาเศรษฐกิจมั่นคง ดำรงชาติ ศาสน์ กษัตริย์” โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ข้าราชการ สภาองค์การลูกจ้าง 17 องค์กร องค์กรรัฐวิสาหกิจ และเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ร่วมงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า สถานการณ์ปัจจุบันต้องเร่งสร้างความรับรู้ว่า รัฐบาลได้ทำอะไรแล้วบ้าง และอะไรที่ไม่ได้ทำ อะไรที่ยังอยู่ในกระบวนการ ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อ ที่ทางคณะกรรมการแรงงานเสนอมานั้น จำได้ว่าปีที่แล้วบางข้อก็ขอมา บางอย่างทำไปบ้างแล้ว ซึ่งจะมีการพิจารณาต่อไป แรงงานถือเป็นกลไกสำคัญของประเทศ ถือเป็นเครื่องจักรที่มีอยู่หลายส่วนทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย คุณธรรม เครื่องจักรทุกตัวต้องช่วยกันเพื่อเดินหน้าประเทศ ในส่วนรัฐบาลมีวัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า เราจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งหมดจะอยู่ในแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 - 15 ทุก 5 ปี เราจะต้องมีการพัฒนา ซึ่งแรงงานก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอร้องว่าเราอย่ามองวันนี้ หรือพรุ่งนี้เท่านั้น ต้องมองไปถึง 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยต้องพัฒนาไปเป็นประเทศ 4.0 ในส่วนของภาคแรงงาน รัฐบาลยืนยันว่า จะดูแลทุกภาคส่วน ทั้งแรงงานในระบบ และแรงงานอิสระ ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากกองทุนต่าง ๆ ที่มีอยู่ จะดูแลคุ้มครองคุณภาพของแรงงาน สิ่งสำคัญนอกจากแรงงานในประเทศแล้ว ต้องมองไปถึงแรงงานนอกประเทศด้วย เพื่อที่เราจะได้ส่งเสริมแรงงานต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการ เพราะอีกไม่กี่ปีเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกยุคใหม่ มีการใช้คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์มากขึ้น การใช้แรงงานไม่มีฝีมือจะลดลง เราต้องเตรียมความพร้อม ขณะเดียวกัน แม้จะมีแรงงานเป็นล้านคนแต่ความต้องการยังไม่เพียงพอกับบางกิจการ ดังนั้น ทุกคนจะต้องเพิ่มพูนความรู้ของตัวเอง วันข้างหน้าจะได้สามารถเลือกงาน หรือโรงงานได้
“15 ข้อที่ขอมานั้น พูดกันมาสองปีแล้ว แต่จะให้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือสักทีเดียวแล้วให้เกิดคงไม่ได้ เพราะมันพันกันหลายอย่าง ต้องมาดูว่าจะส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่หรือไม่ ขอให้เข้าใจด้วย ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประเทศมีความเข้มแข็ง ประชาชนมีรายได้ ขอให้แรงงานทุกคนพัฒนาตัวเองให้มีความพร้อมกับโรงงานที่เรียกว่าอุตสาหกรรมใหม่ ตนไม่ต้องการให้มีการลดคนงาน หรือเงินเดือนเหมือนที่ต่างประเทศทำกัน ไม่ต้องห่วงรัฐบาลเองได้สนับสนุนและเอื้ออำนวยให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มงาน อย่างปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ที่ผ่านมา มีปัญหามาก เราจำเป็นต้องแก้ทั้งระบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย กฎหมายที่เกี่ยวกับไอยูยูกว่า 90 ฉบับ ต้องออกใหม่ทั้งหมด ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ จนต้องมาเดือดร้อนทุกวันนี้ ถ้าทำให้ทุกอย่างดี มีมาตรฐาน รวมทั้งกฎหมายที่สร้างความชอบธรรมก็จะไม่เกิดปัญหาหรือผลกระทบต่าง ๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า 30 ข้อที่รัฐบาลทำอยู่ คือ การสนับสนุนให้ทุกคนมีงานและมีรายได้ ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกระบบ รวมถึงอาชีพอิสระ ทุกคนต้องมีค่าตอบแทนที่ดี และเป็นทำสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้แรงงานต้องมีหลักประกันความมั่นคง มีการจัดรัฐสวัสดิการเหมาะสม สร้างความเข้มแข็งในด้านทักษะแรงงาน วันหน้าค่าแรงจะต้องมากกว่า 400 - 500 บาท แต่เราต้องปรับปรุงตัวเองด้วย โดยในปี 60 จะเกิดโรงงานใหม่ ๆ 5 - 6 พันแห่ง เนื่องจากโรงงานเก่า ๆ ต้องปิดตัว โรงงานใหม่เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ขณะนี้เรากำลังมีการพัฒนาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จะมีการสร้างรถไฟเยอะแยะ ซึ่งต้องมีการจ้างแรงงาน หลังจากเราหยุดพัฒนาไประยะหนึ่ง วันนี้ต้องมาเร่งให้เร็วขึ้น สิ่งที่รัฐบาล และ คสช. ทำวันนี้เหมือนหัวขบวนที่คอยขับเคลื่อนประเทศ เพราะหยุดนิ่งมานาน แต่เวลานี้แรงแทบไม่พอ ต้องช่วยกันเข็น เพราะตนเหมือนคนขับหัวรถจักรที่แรงน้อยเต็มที ซึ่งต้องแก้ปัญหาเป็นชั้น ๆ จากอดีตที่ไม่ได้มองดูเลยว่าจะเอาเงินมาจากไหน ท่ามกลางการส่งออกที่ลดลงจากปัญหาเรื่องของคุณภาพ นวัตกรรมที่ไม่เพียงพอ อย่ามองว่าประเทศเราเป็นประเทศเล็ก แต่เป็นประเทศใหญ่ และแรงงานบ้านเรามีความขยัน ดังนั้น เราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอ
นายกฯระบุว่า อย่างเรื่องของการศึกษารัฐบาลก็พยายามปฏิรูปในเรื่องของ 5 แท่ง ใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ปัญหา ไม่เหมือนในอดีตที่งบประมาณแตกออกไปหมดจนรวมกันไม่ได้ ตนไม่อยากพูดปัญหาเก่า ๆ แต่ต้องพูดเพื่อเล่าถึงความเป็นมาของปัญหา ดังนั้น แรงงานต้องเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแรงงาน ผู้ประกอบการเองต้องมีส่วนช่วยให้แรงงานของตัวเองได้ศึกษาต่อ เพราะวันนี้โลกแข่งขันกันสูง และเราเองอยากให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อยอยู่แบบนี้เพื่อเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ไม่ใช่มาทะเลากัน ขอแค่ 5 ปี ให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ทำมาไม่ได้ล้มเหลว และที่ทำไม่ได้หวังแม้แต่คะแนนเสียงเดียว เพียงแต่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน ยืนยันรัฐบาลดูแลทุกภาคส่วนเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ตนกำลังขอความร่วมมือกับมิตรประเทศในเรื่องของการจ้างแรงงาน ที่ขณะนี้พบว่าต่างประเทศมีความต้องการแม่บ้านที่มีทักษะในการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ รวมถึงแม่ครัวร้านอาหารไทยจำนวนมาก ซึ่งแรงงานเหล่านี้ได้เงินมหาศาล เดี๋ยวรัฐบาลจะเปิดช่องทางหาคนที่มีอาชีพเหล่านี้ไปทำงานต่างประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า แรงงานคนไหนยังไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคมให้เข้ามา วันหน้าต้องสนับสนุนภาคการรวมกลุ่มการผลิตให้ได้ สหพันธ์แรงงานก็ต้องไปดูผู้ที่ประกอบการอยู่ที่บ้านด้วย ประเทศไทยมีคนว่างงานไม่ถึงร้อยละ 1 ส่วนที่ไม่ว่างงาน เพราะขยันต่อสู้ รัฐบาลต้องเสริมตรงนี้ ป้องกันเรื่องการหลอกลวงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ หรือที่ยังไม่จดทะเบียนมักจะถูกรังแก รวมถึงต้องมีการปรับปรุงการพิสูจน์สัญชาติ เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจ ปัญหาการค้ามนุษย์ รัฐบาลนี้ไม่มีการปล่อยปละละเลยเหมือนเมื่อก่อน ใครเห็นสิ่งที่เป็นปัญหาหรือเดือดร้อนให้แจ้งมา ใครเรียกรับผลประโยชน์ หรือทุจริตจะตรวจสอบทันที สถานประกอบการที่ไม่ผ่านการตรวจแรงงานใน 5 ปี ต้องตรวจทั้งหมด ถ้าพบไม่ถูกต้องจะเล่นงานผู้ประกอบการ แต่ถ้าดีอยู่แล้วก็อย่าไปประท้วง ผู้ลงทุนที่มาประเทศไทยเขาขออย่างเดียวให้ประเทศไทยสงบสุขแบบที่ตนเข้ามา โดยสิ่งที่เรากำลังดำเนินการในการปฏิรูปทุกระยะ เขาเห็นด้วยทุกประการ วันนี้ไม่ได้กลัวตนที่ว่าตนเข้ามาแบบนี้เขาไม่ขายของ เขาขายทุกคนอยู่ที่ว่าจะขายอย่างไรเท่านั้น เราต้องใช้เวลาเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์
“สิ่งที่มีปัญหาวันนี้ คือ โครงการลงทุนของรัฐ 4 แสนกว่าล้าน ทำไม่ได้ เพราะมีแรงต้านจากหลายฝ่าย ถ้าปีหน้าทำไม่ได้เงินก็จะค้างท่อ และแรงงานก็ไม่มีงานทำ อยากให้แรงงานทุกคนเป็นเหมือนสมาชิกขององค์กร เพื่อสร้างจริยธรรม ถ้าเราเรียกร้องเกินไปบริษัทก็ต้องปิดตัว เดือดร้อนไปหมด แต่ถ้ามีสิ่งใดไม่เป็นไปตามกฎหมายให้บอกเราจะแก้ให้ ขณะที่การคุ้มครองลูกจ้างผู้ประกันตน เรากำลังทำอยู่ทั้งหมด รวมถึงครอบคลุมแรงงานที่ทำงานบ้าน วันนี้ก็มีค่ารักษาฟันเพิ่มขึ้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ นี่คือสิ่งที่เพิ่มมาจากค่าแรง 300 บาท ที่เราไม่รู้ตัว” นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกฯกำลังพูดอยู่บนเวทีได้มีแรงงานชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา นายกฯได้หยุดฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะคิดว่าจะมาตะโกนประท้วง จนทำให้นายทหารรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนเวทีต้องเข้ามายืนประชิดนายกฯ แต่เมื่อฟังข้อความแล้วรู้ว่าเป็นกองเชียร์ที่มาสนับสนุนนายกฯ เลยยิ้มได้ก่อนปล่อยมุขแล้วพูดต่อ จากนั้นระหว่างที่พูดมีตัวแทนสหภาพแรงงานคนหนึ่งเป็นลม เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว นายกฯจึงหยุดพูดแล้วหันหลังกลับไปกล่าวด้วยว่า “สงสัยร่างกายไม่แข็งแรง ต้องไปวิ่งรอบสนามหลวงสักรอบสองรอบก่อน” ก่อนจะอนุญาตให้ลงไปพักด้านล่างเวที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ศิริชัย เป็นประธานประกอบพิธีสงฆ์ เนื่องในวันแรงงาน ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นได้เคลื่อนขบวนเทิดพระเกียรติฯ นำโดย รมว.แรงงาน ข้าราชการ และผู้ใช้แรงงานไปตามถนนราชดำเนิน สู่ ท้องสนามหลวง
สำหรับข้อเรียกร้องสภาองค์การลูกจ้างสภาลูกจ้างแห่งชาติ (สสช.) ในฐานะประธานจัดงานวันแรงงานชาติปี 2559 ยื่นข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ต่อนายกฯจำนวน 15 ข้อ ได้แก่ 1. ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง 2. ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเท่ากันทั่วประเทศ และควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค 3. ให้รัฐบาลปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกองทุนเงินทดแทนโดยแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับบัตรรับรองสิทธิให้ใช้ได้ทุกโรงพยาบาล ประกาศให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดจากการเป็นผู้ประกันตนเข้ามาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ใหม่ ตามระยะเวลาที่ สปส. กำหนด และเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 ยกระดับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุฉุกเฉินตามความเป็นจริง รวมถึงเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้จากอุบัติเหตุการทำงานจากเดิมร้อยละ 60 เพิ่มเป็นร้อยละ 100 ของค่าจ้าง
4. ให้รัฐบาลเร่งนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ… และร่าง พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ... ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของผู้ใช้แรงงานเข้าสู่สภานิติบัญญัติ (สนช.) 5. ให้รัฐบาลตรากฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่สถานประกอบกิจการปิดกิจการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย 6. ให้รัฐบาลยกเว้นเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยของลูกจ้างภาคเอกชนและเงินตอบแทนความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเงินได้อื่น ๆ ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายของลูกจ้าง 7. ให้รัฐบาลตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามบทบัญญัติว่าด้วยกองทุนเงินสงเคราะห์ในหมวด 13 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 8. ให้รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ และยุติการแปรรูป หรือแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทเอกชน 9. ให้รัฐบาลยกระดับสำนักความปลอดภัยแรงงานเป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน 10. ให้รัฐบาลจัดสรรงบสนับสนุนพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
11. ให้รัฐบาลบังคับให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1 กรณีแรงงานรับเหมาช่วง (ซับคอนแทรกต์) ให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างประจำโดยเคร่งครัด 12. ให้กระทรวงแรงงานเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของแรงงานนอกระบบ รวมทั้งจัดตั้งกรมคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ 13. ให้กระทรวงแรงงานจัดงบสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปฐมวัยที่ดูแลลูกหลานของผู้ใช้แรงงานที่จัดตั้งขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง 14. รัฐบาลต้องจัดให้มีระบบบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่ครอบคลุมประชากรทุกคนและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือสัดส่วนรายได้เฉลี่ยของประเทศไทย และ 15. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานชาติปี 2559
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่องการเมือง ว่า วันนี้มีคนอยู่หลายคนมาแกว่ง พี่น้องแรงงานต้องช่วยกันตรงนี้ อย่าให้เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือบิดเบือนต่าง ๆ มันคนละเรื่อง การเมืองก็ว่าไป แต่มันทำให้การทำงานของตนยากขึ้นทุกวัน เสร็จแล้วก็มีการบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจก็โดนด่า วนกันอยู่อย่างนี้ กลับที่เดิมตลอด เราต้องอดทนมองไปข้างหน้าด้วยกัน ถ้าใครมีคำถามอะไรให้ไปถามในทีวีวันศุกร์ เพราะเอาคำถามของท่านมาพูด จะฟังไม่ฟังไม่รู้ แต่สิ่งที่มุ่งหวังคือ หนังสือพิมพ์เอาไปลงอยู่แล้ว ไปอ่านเอาตรงนั้นได้ ถ้าไม่พูดก็ไม่มีหนังสือพิมพ์ ใครจะฟังก็แล้วแต่
“วันนี้เราอยู่ใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่พูดอะไรที่โกหกหลอกลวงท่าน ผมเป็นทหารถวายสัตย์ปฏิญาณทุกปี ฉะนั้น คงไม่ทำอะไรผิด ๆ ผมจะทำตามโรดแมปถึงปี 2560 อะไรที่ทำได้ก็จะทำเลย อะไรที่ส่งต่อก็ต้องส่งรัฐบาลหน้า ถึงจำเป็นต้องมีบทเฉพาะกาล ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อพวกท่าน เพื่อให้ทุกคนทำงานให้ท่านได้ แต่แค่นี้ยังไม่รับเลย ผมจะเชื่อมั่นได้อย่างไร ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน วันนี้กำลังดำเนินการอยู่ อย่าต่อต้านมากนัก ที่ผ่านมา อยากทำอะไรก็ทำ เขาเขียนกฎหมายมายังไม่รู้เลยว่าการพูดจาเป็นเท็จคืออะไร การใช้ความรุนแรง การพูดจาหยาบคายไม่รู้ไม่เข้าใจหรือ ต้องมาแปลอีกหรือ ถ้าแปลอย่างนี้เป็นอย่างนี้ แสดงว่าการเรียนรู้ทำไม่ได้ เรียนมาสูงเสียเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า เราต้องทำให้ต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยมีแต่รอยยิ้ม ที่ผ่านมา มีแต่แยกเขี้ยวตีใส่กันทุกวัน หลายคนจะกลับไปที่เก่าอีก ต้องช่วยกันอย่าให้มันเกิดขึ้น บอกประชาชนว่าอย่าไปรวมมือแบบนี้ เรื่องประชาธิปไตยก็ว่าไป ตนไม่ขัดแย้งด้วย อยากให้เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง ไม่ใช่เอียงไปเอียงมา จนเกือบจะล้ม และล้มไปแล้ว ที่ตนเข้ามาไม่ได้ยึดอำนาจนายกฯ แต่เพราะไม่มีนายกฯ ไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ใช้งบประมาณไม่ได้ จึงต้องเข้ามาไม่เช่นนั้นวันนี้จะล้มทั้งหมด เข้าใจหรือยัง รวมถึงมีการยิงโน้น ยิงนี้ วัดพระแก้ว ยังโดน ใครทำ มันทำได้อย่างไร ศาสนาพุทธเป็นหัวใจคนไทยทั้งชาติ ใครทำไปหามา ก็บิดเบือนกันอยู่นั่นทุกวัน แล้วจะให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการทั้งหมด ตนไม่ทะเลาะด้วย
“ต่อให้ตายก็ยอม เพราะผมให้ไปแล้ว พวกผมอุทิศไปแล้วทั้งตัวและหัวใจ ผมเสี่ยงอันตรายเข้ามา วันหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ผมต้องทำ เพราะเห็นพวกท่านไม่มีความสุขไม่ได้ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ วันนี้ปรับตัวทั้งหมด ทั้งหมดต้องปรับตัวเข้าหากัน จะได้เป็นสังคมที่ไม่มีความรุนแรง ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายมากเกินจำเป็น ทุกคนต้องการกฎหมาย แต่ของเก่าที่ออกมายังไม่เชื่อ วันหน้าคอยดูแล้วกัน จากวันนี้จนถึง 7 ส.ค. ต้องช่วยผมนะ อย่าให้วุ่นวาย อย่าไปเป็นเครื่องมือเขา อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวเขาเข้ามาแล้วจะปรับค่าแรงเป็น 400 - 500 บาท มันเป็นไปไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหน ข้าวเกวียนละเท่าไรไม่รู้ เดี๋ยวก็มาอีกเชื่อผมสิ วันนี้อยู่ในคลังขายไม่ออก ขายไม่ได้ มีข้าวปลอมปนเยอะแยะถูกผิดผมไม่รู้ พูดไปก็โดนด่าอีก แต่ผมไม่กลัว” นายกฯ กล่าว