ประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-รัสเซีย อย่างไม่เป็นทางการ ร่วมพัฒนาการดุลยภาพอาเซียน สู่สันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ร่วมรับมือภัยพิบัติขนาดใหญ่ พม่าแชร์ประสบการณ์ภายใน ส่วนหนึ่งเกิดจากการแทรกแซงจากภายนอก “ไทย-รัสเซีย” เตรียมลง MOU ความร่วมมือทางทหาร “ประวิตร” สนอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยรัสเซีย ชวนจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศหรือศูนย์ซ่อมอากาศยานในไทย
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม อาเซียน-รัสเซีย อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย. 2559 ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ในวาระเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ครบรอบ 20 ปี อาเซียน-รัสเซีย โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมปลัดกลาโหมและคณะ โดย พล.อ.เซอร์เกย์ โชย์กุย (Sergie Shoigu) รมว.กลาโหมรัสเซีย กล่าวต่อที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีรัสเซียให้ความสำคัญในการกระชับความร่วมมือกับอาเซียนในโอกาสครบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซีย โดยถือว่าอาเซียนเป็นมิตรและเพื่อนบ้านที่พร้อมจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค รัสเซียให้ความสำคัญต่อภัยคุกคามจากการก่อการร้าย การรักษาความมั่นคงทางทะเล การแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างสันติร่วมกันตามหลักกฎหมายสากล และขอบคุณไทยที่ร่วมมือจัดตั้งศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ทั้งนี้ รัสเซียพร้อมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านต่างๆ ให้แก่สมาชิกอาเซียน ผ่านทางคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญที่รัสเซียเป็นประธานร่วม
พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ในโอกาสนี้ พล.อ.ประวิตรได้กล่าวถึงท่าทีของไทยในที่ประชุมโดยสรุปว่า พัฒนาการและบทบาทของอาเซียน-รัสเซียที่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประชาคมความมั่นคงอาเซียนให้มีดุลยภาพในภูมิภาค อาเซียนและรัสเซียจำเป็นต้องร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ภูมิภาคต่อไป ร่วมกันส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลางซึ่งนำไปสู่ศักยภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ประเทศไทยสนับสนุนแนวคิดการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับรัสเซีย พร้อมทั้งให้ความสำคัญและสนับสนุนความร่วมมืออย่างจริงจังในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาคโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยทุกฝ่ายควรมีความยับยั้งชั่งใจและใช้กระบวนการเจรจาอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานการไว้เนื้อเชื่อใจและการมีผลประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างฝ่ายทหารของอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพื่อสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคง รวมทั้งขยายความร่วมมือกับหน่วยงานพลเรือนและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคร่วมกัน พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนรัสเซียและประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมสนับสนุนการดำเนินการต่างๆในการทดสอบศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน จากการฝึกร่วมในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติที่จะจัดขึ้น ก.ย. 2559 ในไทย และกล่าวถึงความพร้อมของไทยในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาคในทุกมิติ
“ที่ประชุมเห็นร่วมกันโดยสรุปว่าภัยคุกคามรูปแบบเดิมยังคงมีอยู่และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจากภาวะโลกร้อนมีความรุนแรงขึ้น และมีความจำเป็นที่สมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาต้องร่วมมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สมาชิกอาเซียนขอขอบคุณบทบาทที่สร้างสรรค์ของรัสเซียที่ผ่านมาและเห็นถึงความจำเป็นที่รัสเซียต้องคงบทบาทที่สร้างสรรค์ต่อไป เพื่อความสงบสุขของภูมิภาค”
พล.ต.คงชีพกล่าวอีกว่า รมว.กลาโหมพม่าได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจถึงประสบการณ์จากสถานการณ์ภายในประเทศที่ผ่านมาว่า ความขัดแย้งที่มีภายในประเทศจะขยายเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่ หากยังคงขยายเชื้อจากภายในโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและมีการแทรกแซงจากภายนอกประเทศ ซึ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้กำลังและความรุนแรงที่ผ่านมาจะยังความเสียใจมาให้แก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้ จึงจำเป็นที่ประชาชนในชาติต้องเรียนรู้ร่วมกันและไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมปลัดกลาโหมและคณะได้เข้าร่วมประชุมนานาชาติมอสโกว่าด้วยความมั่นคง ครั้งที่ 5 (Moscow International Security Conference) ซึ่งรัสเซียจัดขึ้นและเชิญประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุมกว่า 50 ประเทศ โดยได้หารือร่วมกันถึงปัญหาความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่และปัญหาการก่อการร้ายซึ่งเป็นภัยคุกคามหลักระหว่างประเทศ โอกาสความร่วมมือและกลไกการรักษาความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคยุโรป เพื่อแก้ปัญหาสงครามและเสริมสร้างสันติภาพรวมทั้งแนวทางความร่วมมือกันด้านต่างๆ ต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงของภูมิภาค
ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตรได้เข้าพบและหารือทวิภาคีกับ พล.อ.เซอร์เกย์ โชย์กุย รมว.กลาโหมรัสเซีย โดยได้หารือสานต่อความร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการทหารที่ผ่านมา ได้แก่ การจัดตั้งกลไกแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การริเริ่มความร่วมมือด้านการฝึก การแลกเปลี่ยนการศึกษาดูงาน ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และการขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่รัสเซียสนับสนุนจัดตั้ง สำหรับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนั้นไทยสนใจในยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียเพื่อการบรรเทาสาธารณภัยและการพัฒนาประเทศ พร้อมกับเชิญชวนและเสนอให้รัสเซียเข้ามาลงทุนจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศหรือศูนย์ซ่อมอากาศยานในไทย ซึ่งรัสเซียพร้อมให้การสนับสนุน และจะได้จัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหารให้มีการลงนามร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ สองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าพัฒนาการการทำงานร่วมกันที่แน่นแฟ้น จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบทวิภาคีของทั้งสองประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นต่อไป