“ประวิช” เตรียมเผยแนวทางปฏิบัติประชามติ 3 ส่วน การใช้สิทธิผิด กม. สุ่มเสี่ยง ชี้ พ.ร.บ.ประชามติออกมาทำประชาชนสบายใจขึ้น เพราะมีมาตรการรองรับสิทธิแสดงออกตาม กม. ไม่บิดเบือน ก้าวร้าว
วันนี้ (22 เม.ย.) นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า หลังจาก พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติออกมาเราอาจจะมีแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ประชาชนได้เห็นง่ายๆ โดยจะบอกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคืออะไรที่ทำได้ และควรทำ เช่น การไปใช้สิทธิออกเสียง การไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง เป็นต้น ส่วนที่สองคืออะไรที่ทำไม่ได้เลยตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ขัดขวางการไปออกเสียงประชามติคนอื่น ใช้บัตรออกเสียงที่ไม่ถูกต้อง หรือการไปขนคน ไปจ้างวาน ไปหลอกลวง ข่มขู่ก้าวร้าว เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่กฎหมายห้ามไว้ชัดเจน และส่วนที่สามคือเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ซึ่งจะเป็นช่วงสีเทา แม้ในกฎหมายจะไม่ได้มีบอกว่าผิด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เห็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ อย่างการทำอะไรที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ เป็นการรณรงค์ ก็จะไม่แนะนำให้ก้าวไปในส่วนนั้น เพราะหากโดนร้องเรียนก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่าการที่ไม่มีการรณรงค์จะเป็นการตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชามติหรือไม่ นายประวิชกล่าวว่า ถ้า พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติออกมา จะทำให้ประชาชนสบายใจขึ้น เพราะจะมีมาตราหนึ่งที่เขียนรองรับสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็น บนข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมาย นั่นหมายถึงความเห็นส่วนตัวสามารถแสดงออกได้ว่าคิดเห็นอย่างไรต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยที่ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือปลุกระดมข่มขู่ ไม่ไปชี้ชวน ไม่ต้องไปรณรงค์กับใคร ขอให้อยู่บนพื้นฐานเหล่านี้ จะมีกฎหมายรองรับสิทธิเสรีภาพตรงนี้อยู่แน่นอน แม้ในสภาวการณ์ตอนนี้ที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน หากเรายึดหลักนี้ร่วมกัน ตามที่กฎหมายมีมาตราที่บัญญัติรองรับสิทธิเสรีภาพตรงนี้อยู่ หากเรายืนอยู่บนหลักการนี้คิดว่าเราสามารถเดินหน้าประชามติได้