ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี ถกแก้ พ.ร.บ.ป.ป.ช.ให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญหากผ่านประชามติ รับคดีค้างเพียบอาจแก้กฎหมายทำให้มีประสิทธิภาพ ต้องเร่งวินิจฉัยหลังรัฐบาลไฟเขียวตั้งศาลทุจริต อ้างแนวคิดไต่ส่วนเฉพาะคดีอาญาหวังลดความล่าช้าหากต้องทำ 2 ส่วน
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือในการเตรียมแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 เพื่อให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญกรณีผ่านประชามติ
โดย พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวภายหลังเข้าพบว่า เนื่องจาก ป.ป.ช.ต้องเตรียมความพร้อมแก้ไขกฎหมายของตัวเองหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ทั้งยังได้หารือถึงแนวทางในการทำงาน เนื่องจากขณะนี้คดีที่ค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.มีจำนวนมาก จะทำอย่างไรให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ จึงอาจต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ยิ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งศาลทุจริตขึ้นจึงต้องดำเนินการเร่งรัดวินิจฉัยคดีของ ป.ป.ช.ให้รวดเร็ว นอกจากนี้ ในชั้นการแก้ไขกฎหมายยังจะเสนอเพิ่มอัตราเจ้าพนักงานไต่สวนอีกด้วย
ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า ส่วนแนวคิดที่จะให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเฉพาะคดีอาญา ส่วนวินัยมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาของบุคคลนั้นๆ ดำเนินการเองนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะแนวคิดดังกล่าวเกิดจากการที่เราไปทำเวิร์คชอปว่า ถ้าเราทำคดีทั้งสองส่วนจะต้องทำอย่างละเอียดและใช้เวลายาวนาน ส่งผลให้การไต่สวนของเราล่าช้า เลยต้องการทำเฉพาะคดีอาญาเป็นหลัก แต่หลังจากแนวคิดดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปหลายฝ่ายได้ให้ข้อคิดเห็นในสิ่งที่ ป.ป.ช.อยากลดอำนาจในการทำคดี แต่ทุกคน กระทรวง ทบวงต่างๆ บอกไม่ได้ต้องให้ ป.ป.ช.ทำต่อ เราก็ไม่มีปัญหา