โฆษกกระทรวงกลาโหม แจงขั้นตอนการบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหาร ชี้ ลูกหลานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และข้าราชการอื่น ๆ สมัครจำนวนมากในแต่ละปีเป็นเรื่องปกติ วอนอย่ามองตัวบุคคลเป็นประเด็นการเมือง หลังปลัดกระทรวงกลาโหมจ่อตั้งลูกชายตัวเองเป็นทหารสัญญาบัตร
วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการบรรจุเข้ารับราชการของบุตรชายนายทหารชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ว่า กองทัพได้บรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหารเพื่อทดแทนกำลังพลที่เกษียณอายุราชการเป็นปกติในทุกปี ตามหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่กระทรวงกลาโหมกำหนด โดยยังคงพิจารณาสัดส่วนที่ลดลง เพื่อคงยอดกำลังพลรวมให้เป็นไปตามแผนปรับลดกำลังพล ให้กองทัพมีขนาดที่เหมาะสม ทันสมัย และมีความคล่องตัวที่จะสามารถตอบสนองการปกป้องผลประโยชน์ชาติได้อย่างทัดเทียมภูมิภาค กองทัพมีกำลังพลในทุกเหล่า ทั้งเหล่ารบ เหล่าสนับสนุนการรบ และช่วยรบ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญในสาขาวิชาและประสบการณ์ของบุคคลในแต่ละด้านร่วมกัน
สำหรับขั้นตอนการบรรจุบุคคลนั้น ผู้บังคับหน่วยแต่ละหน่วยจะอนุมัติบุคคลบรรจุทดแทนตามตำแหน่งและอัตราที่ว่าง ผ่านคณะกรรมการคัดสรรของแต่ละหน่วยที่ตั้งขึ้น โดยพิจารณาจากผู้สมัครทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์ ในสาขาที่ตรงกับความต้องในท้ายอัตราที่กำหนด ต่อจากนั้น จะเสนอเรื่องผ่านสายการบังคับบัญชาตามลำดับชั้น สำหรับการบรรจุและแต่งตั้งยศนายทหารสัญญาบัตร อยู่ในอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยปลัดกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบอำนาจให้ทำการแทนและสั่งการในนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากในแต่ละปี ทุกเหล่าทัพมีการบรรจุและแต่งตั้งยศทหารจำนวนมากทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมีลูกหลานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และข้าราชการอื่น ๆ สมัครเข้ารับการบรรจุเป็นทหารจำนวนมากในแต่ละปีนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่กองทัพเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่ประสงค์และสมัครใจรับใช้ชาติ ขออย่ามองตัวบุคคลเป็นประเด็นการเมือง กองทัพเป็นของประชาชน ทหารทุกคนคือประชาชน ที่ยังคงต้องการความร่วมมือและกำลังใจจากเพื่อนร่วมชาติ ในการทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ได้มีการเผยแพร่เอกสารลับจากเฟซบุ๊กเพจ “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวิตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา เรื่อง บรรจุทหารกองหนุนเข้ารับราชการและแต่งตั้งยศทหาร นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี เข้ารับราชการในตำแหน่งรักษาราชการนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3 อัตราพันตรี รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 18 (15,000 บาท) และแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรี เหล่าสารบรรณ (สบ.) ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม
อ่านประกอบ : “ปรีชา” รับแต่งตั้งลูกชายเป็นทหารสารบรรณ-ติดยศ “ว่าที่ร้อยตรี” ตามเอกสารลับกลุ่ม “ทักษิณ”