พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีการบรรจุเข้ารับราชการของลูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่บางท่านที่ผ่านมา ว่ากองทัพได้บรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทหารเพื่อทดแทนกำลังพลที่เกษียณอายุราชการเป็นปกติในทุกปี ตามหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่กระทรวงกลาโหมกำหนด โดยยังคงพิจารณาสัดส่วนที่ลดลง เพื่อคงยอดกำลังพลรวมให้เป็นไปตามแผนปรับลดกำลังพล ให้กองทัพมีขนาดที่เหมาะสม ทันสมัย และมีความคล่องตัว ที่จะสามารถตอบสนองการปกป้องผลประโยชน์ชาติได้อย่างทัดเทียมภูมิภาค โดยความชำนาญในสาขาวิชาและประสบการณ์ของบุคคลในแต่ละด้านร่วมกัน สำหรับขั้นตอนการบรรจุบุคคลนั้น ผู้บังคับหน่วยแต่ละหน่วยจะอนุมัติบุคคลบรรจุทดแทนตามตำแหน่งและอัตราที่ว่างผ่านคณะกรรมการคัดสรรของแต่ละหน่วยที่ตั้งขึ้น โดยพิจารณาจากผู้สมัครทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์ในสาขาที่ตรงกับความต้องในท้ายอัตราที่กำหนด ต่อจากนั้นจะเสนอเรื่องผ่านสายการบังคับบัญชาตามลำดับชั้น สำหรับการบรรจุและแต่งตั้งยศนายทหารสัญญาบัตร อยู่ในอำนาจ รมว.กลาโหมโดยปลัดกลาโหม ได้รับมอบอำนาจให้ทำการแทน และสั่งการในนามของ รมว.กลาโหม เนื่องจากในแต่ละปี ทุกเหล่าทัพมีการบรรจุและแต่งตั้งยศทหารจำนวนมากทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ
นอกจากนี้ พล.ต.คงชีพกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมีลูกหลานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และข้าราชการอื่นๆ สมัครเข้ารับการบรรจุเป็นทหารจำนวนมากในแต่ละปีนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่กองทัพเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่ประสงค์และสมัครใจรับใช้ชาติ ขออย่ามองตัวบุคคลเป็นประเด็นการเมือง กองทัพเป็นของประชาชน ทหารทุกคนคือประชาชนที่ยังคงต้องการความร่วมมือและกำลังใจจากเพื่อนร่วมชาติ ในการทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม
นอกจากนี้ พล.ต.คงชีพกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมีลูกหลานพลเรือน ตำรวจ ทหาร และข้าราชการอื่นๆ สมัครเข้ารับการบรรจุเป็นทหารจำนวนมากในแต่ละปีนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่กองทัพเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่ประสงค์และสมัครใจรับใช้ชาติ ขออย่ามองตัวบุคคลเป็นประเด็นการเมือง กองทัพเป็นของประชาชน ทหารทุกคนคือประชาชนที่ยังคงต้องการความร่วมมือและกำลังใจจากเพื่อนร่วมชาติ ในการทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม