xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปไม่คืบ-ระเริงอำนาจ นับถอยหลัง คสช.??

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ



“วาระการปฏิรูป” เป็นเหตุผลหนึ่งที่สร้างความชอบธรรมให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลเลือกตั้ง หลังยึดอำนาจ “ท่านผู้นำ” ได้ประกาศเสียงดังฟังชัดให้ความหวังประชาชนตาดำๆว่าจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เพื่อนำพาเมืองไทยไปสู่ความรุ่งโรจน์โชติชัชวาล แบบที่ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนทำมาก่อน

แต่ผ่านไปกว่า 2 ปี วาระการปฏิรูปกลับถูกห้อยแขวน “ค้างเติ่ง” ไม่คืบหน้าไปไหน มีก็แต่พวกจัดระเบียบหยุมหยิมที่ไม่ต้องพึ่งอำนาจ “รัฐฏาธิปัตย์” ด้วยซ้ำ ที่มีขยับให้เห็นก็คงเป็นการเปลี่ยนองค์กรที่รับผิดชอบวางกรอบปฏิรูปจาก สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาเป็น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเพียง “เศษกระดาษ” แต่ไม่มีแนวปฏิบัติหรือหลักการที่จับต้องได้ออกมาเลย

เมื่องานปฏิรูปประเทศไม่คืบหน้า จึงเริ่มมีคำถามว่า “รัฐบาล คสช.” จริงใจ-จริงจัง อยากที่จะปฏิรูปประเทศเหมือนอยากที่ปากได้พูดไว้หรือไม่ และยิ่งสงสัยขึ้นไปอีกเมื่อพฤติกรรมของ “บิ๊ก คสช.” และบริวารรอบกาย หนักไปทาง “หลงอำนาจ” แบบไม่ลืมหูลืมตา เห็นประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

หากไล่ดูข้อเสนอของหลายฝ่ายที่ต้องการให้ปฏิรูปในหลายด้าน แต่ “รัฐบาล คสช.” นิ่งเฉย และบางครั้งยังปฏิเสธอย่างไม่ใยดี โยนให้เป็นภาระของรัฐบาลชุดต่อไปเสียดื้อๆ โดยเฉพาะประเด็นการ “ปฏิรูปตำรวจ” ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากไม่ปฏิรูปกันในรัฐบาลชุดนี้ก็อย่าหวังว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะริอาจสังคายนา “อาณาจักรโล่เงิน” ได้

ซึ่งย่อมทำให้“องค์กรตำรวจ” ติดอยู่ในแดนสนธยาที่ไม่มีใครทำอะไรได้

ชั่วโมงนี้อย่าหวังให้ “รัฐบาล-คสช.” จะปฏิรูปองค์กรตำรวจเลย เพราะทุกวันนี้ยังมีข่าวลือหนาหูว่า เครือข่ายคนกันเองของ “บิ๊ก คสช.” ตั้งโต๊ะรับแป๊ะเจี๊ยะค่าเก้าอี้โยกย้ายบิ๊กตำรวจเริ่มต้นกันหลัก 50 ล้านบาท ถือว่า เก็บกันหนักกว่ารัฐบาลเลือกตั้งเสียอีก

อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวปล่อย-ข่าวลือหนาหูว่า ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ครอบครองอยู่ไม่มั่นคงเสียแล้ว ขนาด “บิ๊กแป๊ะ” ที่ว่าแน่สายตรง “พี่ใหญ่คสช.” ยังโดนปล่อยข่าวต่อรองปั่นค่าตั๋ว-ค่าต๋งกันเลย

ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่ง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ยังได้แค่รักษาการเก้าอี้ไปเรื่อยๆ นับวันรอเกษียณช่วงเดือนตุลาคมนี้ แต่ก็ยังโดนปล่อยข่าวแรงว่า คงหมดหวังนั่งเก้าอี้ ผบช.น.เต็มก้น เพราะแม้ผลงานจะเข้าตา แต่จ่ายน้อยเกินไป

เรียกได้ว่าสถานการณ์ของ “องค์กรตำรวจ” ไม่เพียงแต่ไม่ถูกปฏิรูปแล้ว ยังถูก “อำนาจมืด” ที่มี “มือสีเขียว” เป็นแบ็คอัพครอบงำแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากที่ “บิ๊กตุ้ม” พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิก สปท.และอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษและนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยว่าไว้เลย

ขนาด “สีกากี” ยังไม่แตะ ก็อย่าหวังว่า “ทีมสีเขียว” ที่เรืองอำนาจอยู่จะปฏิรูปตัวเอง สภาพกองทัพทุกวันนี้ที่เหมือนคนพิการ “หัวโตตัวลีบ” มีนายพลกลาดเกลื่อนอยู่ถึงเกือบ 1,500 คน เกือบครึ่งไปกระจุกกันเป็น "ผู้ทรงคุณวุฒิ" บ้าง "ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ" บ้าง เพราะตำแหน่งหลักไม่มีที่ลง คนกลู่มนี้บางคนว่างงาน หาเรื่องอบรม หรือตีกอล์ฟไปวันๆ หลายคนโต๊ะทำงานก็ยังไม่มี ติดยศนายพลรอเกษียณ เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล แต่ "เงินเดือน-เงินประจำตำแหน่ง-สวัสดิการ" เบิกเต็ม

เหลือเชื่อว่า “บิ๊ก คสช.” ยังคิดว่ามีความจำเป็น แตะต้องไม่ได้

ล่าสุดกับกรณี “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ชงเองเซ็นเองแต่งตั้ง “ลูกป๋อง” ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา ที่อีกสถานะหนึ่งเป็นหลานชาย “บิ๊กตู่” ติดยศเข้ารับราชการทหาร แล้วก็พูดในทำนองว่า “ใครๆก็ทำกัน” ยิ่งทำให้ประชาชนตาสว่าง เห็นธาตุแท้ “สีเขียว” ว่าหลงระเริงในอำนาจมากแค่ไหน

ปมตั้งลูกชาย “บิ๊กติ๊ก” หลานชาย “บิ๊กตู่” เปิดช่องให้ “ฝ่ายตรงข้าม” ย้อนศร “เครือข่ายทหาร” ที่ชอบอ้างความไม่ชอบธรรมในการแต่งตั้งพวกพ้องของ “นักเลือกตั้ง” มาตลอด ยกเป็นข้ออ้างในการ “ล้างบาง” แต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กข้าราชการ” ที่เป็นสายตรงฝ่ายการเมืองจนแทบสูญพันธุ์

แล้วก็ยิ่งหมดหวังกับ “รัฐบาล คสช.” ที่ปากบอกจะกวาดล้างเอาจริงเอาจังเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ในยุคนี้ที่นักการเมืองไม่มีอำนาจ ก็มีกระแสข่าว-เอกสารรั่วแฉพฤติกรรม “ขุนทหาร” ว่าโกงกินไม่แพ้กัน แถมกินแบบทื่อๆไร้ศิลปะอีกต่างหาก

ล่าสุดมีข่าวลือหนาว่า บรรดาลิสต์รายชื่อ “บิ๊กข้าราชการ” ที่ถูก ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มี “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน มีใครบางคนไปแอบอ้างเป็นว่าต่อสาย “ผู้มีอำนาจ” เพื่อขอลบรายชื่อ-คืนตำแหน่งให้ได้ แต่ขอเรียกเก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะกันก่อน ว่ากันว่าเรียกเก็บก่อนประกาศรายชื่อ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือหากไม่มีรายชื่อก็จะเก็บเพิ่ม ส่วนคนที่มีรายชื่ออยู่แล้ว แต่อยากให้คืนตำแหน่งก็ต้องจ่ายก่อนเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจ่ายทีหลัง

เตรียมดูมหกรรม “ปล่อยผี” ที่จะอ้างหน้าตาเฉยว่า สอบสวนแล้วไร้ความผิด

ซึ่งต้องทำใจว่า “ข้าราชการ” ที่มีรายชื่อหากไม่มีอะไรจะเสียก็หน้ามืดตามัวหลงเชื่อกันหมด จ่ายไปแล้วจะปลดล็อคตัวเองได้จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ขอให้เขียนแป๊ะฝาบ้านไว้เลยว่า “ข้าราชการ” ที่ทุจริตหากเสียเงินไปแล้ว ถ้ายังอยู่ในตำแหน่งก็ต้องเก็บทุนคืน ด้วยการโกงภาษีประชาชนในรูปแบบอื่นอีก

ฉะนั้นการปราบทุจริตตามคำชวนเชื่อของ “บิ๊กตู่-คสช.” ไม่มีทางสำเร็จ ตราบใดที่ “กองทัพ” ยังทำตัวใหญ่คับฟ้า รอให้ “ข้าราชการ-ประชาชน” วิ่งเข้าหาเพื่อต่อรองผลประโยชน์

แถมเรื่องเกมการเมือง “รัฐบาล คสช.” ยังหลงเกมไปสร้างราคาให้ระดับลิ่วล้ออย่าง “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข มีราคาค่างวดขึ้นมาราวกับเป็น “วีรบุรุษประชาธิปไตย” ทั้งที่คนในพรรคเพื่อไทยมองว่า “ไอ้ไก่” แค่ปั่นราคาของตัวเองหวังชนะใจ “นายใหญ่” เท่านั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปันใจไปให้ “บิ๊กทหาร” เข้านอกออกในฐานบัญชาการ ร.1 รอ. จน “นายใหญ่” ไม่ปลื้มอย่างแรง ก่อนจะถูกเฉดหัวขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าเขตทหาร เลยต้องกลับมาตายรัง

เป็นที่มาของความบ้าดีเดือดที่ “เสี่ยไก่” ยอมเอาตัวเองตายเดี่ยว ฟ้องโลกประจานประเทศ เพื่อลดความชอบธรรมของ “รัฐบาล คสช.” แถมยังดึงองค์กรระหว่างประเทศมากดดัน ในประเทศผลกระทบอาจจะน้อย แต่ในสายตาโลกแล้วถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตามแผน “โลกล้อมไทย” ที่ “นายใหญ่” ถนัดใช้

ละอ่อนทางการเมืองอย่าง “รัฐบาล คสช.” ไม่เพียงแต่เดินเกมสะเปะสะปะ ยังไปหลงเหลี่ยมเกมตื้นๆ ของ “ขั้วตรงข้าม” ที่ขุดบ่อล่อเอาไว้บะเร้อเทิ่ม เพียงเพราะคิดว่าตัวเองมีอำนาจใหญ่คับประเทศ จะทำอะไรก็ได้ จึงเลือกต้อง “เชือดไก่ให้ลิงดู” จนกลายเป็นว่าเข้าทางกองแช่ง

หาก “รัฐบาล คสช.” ยังเดินหลงทิศให้ความสำคัญกับปัญหาการเมืองและมัวแต่ฉวยโอกาสทำมาหากิน จะทำให้แก่นหลัก-เรื่องใหญ่ที่ต้องทำคือการ “ปฏิรูป” ต้องล่าช้าไป จะเป็น “รัฐบาล คสช.” เองที่จะเสียรังวัด-เสียแนวร่วม จนอาจจะต้องพังครืนได้

อย่าลืมว่า “อำนาจ” ที่ไม่ชอบธรรมมันไม่ยั่งยืนอย่างที่คิด และบทเรียนมีให้เห็นกันเยอะแล้ว อย่าลืมทบทวนบทเรียนกันบ้างแล้วกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น