ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ยันไม่เพิ่มงบประชามติ ใส่ 2 คำถามในบัตรเดียว ชี้ ม.62 พ.ร.บ. ประชามติเขียนแล้ว อะไรทำได้ไม่ได้ ระบุ แค่กันไม่ให้เกิดเหตุแบบอดีต ถ้าไม่ได้ทำผิดไม่ต้องกังวล ขอคุยก่อนกระทบงานสื่อหรือไม่ ยันไม่ยุ่งคำถามพ่วง เขาส่งมาก็ต้องไปจัดพิมพ์ กำลังคุยทำข้อดีข้อเสียสุ่มเสี่ยงหรือไม่
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.40 น. นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ก่อนหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่จะมีคำถามพ่วงในการลงประชามติ ว่า ไม่ต้องเพิ่มงบประมาณ จากที่เตรียมไว้ 2991 ล้านบาท เราเตรียมไว้สำหรับ 2 คำถาม ในบัตรเดียว เมื่อถามว่า เรื่องบทลงโทษจะชี้แจงให้สังคมรับทราบอย่างชัดเจนหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า รายละเอียดอยู่ในมาตรา 62 ของ พ.ร.บ. ว่าด้วยการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ส่วนมากจะห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ มาถึงมาตรา 65/1/2 ไม่ต้องกลัวว่าโทษที่บัญญัติไว้จะสูงหรือไม่สูง เพียงแต่กันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมา ถ้าไม่ทำผิดไม่ต้องกังวล ส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่สื่อมวลชนหรือไม่นั้นจะต้องคุยกันก่อน โดยหลักหน่วยงานของรัฐ หรือประชาชน สามารถให้ความเห็นโดยสุจริตได้ตามมาตรา 7 แต่อะไรทำได้ ทำไม่ได้ ต้องดูอีกที คนที่จะชี้ขาดผิดหรือไม่คือศาล เราจะให้คำแนะนำว่าอันไหนทำได้หรือไม่ แต่ถ้ามีคนฟ้องศาลก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
เมื่อถามว่า กกต. กังวลเรื่องคำถามพ่วงจะหยิบยกมาหารือหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า คำถามพ่วงมันจบแล้ว เป็นเรื่องของ สนช. เราไม่อาจแก้ไขได้ เมื่อเขาส่งมาให้เรา เราก็ต้องไปจัดพิมพ์ลงในบัตรออกเสียง และไม่สามารถวิจารณ์ คำถามได้ สนช. จะเป็นคนอธิบาย ส่วนว่าคำถามเป็นเชิงชี้นำหรือไม่ ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะ กกต. มีหน้าที่จัดพิมพ์ สรุปสาระสำคัญและเผยแพร่ เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. จะจัดทำข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า กำลังคุยรายละเอียดกันอยู่ว่าจะสุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยหลักก็ต้องมี 2 ฝ่าย เมื่อถามว่า กรธ. กังวลว่า อาจจะเป็นการชี้นำ ควรปล่อยให้ประชาชนพิจารณาเองว่าจะรับหรือไม่รับ นายศุภชัย กล่าวว่า จากการไปดูงานการแบ่งแยกสกอตแลนด์ออกจากอังกฤษ จะมีบุ๊กเล็ต แต่เรายังไม่มีข้อตกลงว่าจะมี เพียงแต่เป็นแนวทาง
เมื่อถามถึงความมั่นใจที่จะมีเลือกตั้ง นายศุภชัย กล่าวว่า มั่นใจหรือไม่มั่นใจ กกต. เป็นผู้ปฏิบัติ ถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน มีการเลือกตั้งเราก็ต้องทำ พนักงาน และผู้บริหารระดับสูงของ กกต. มีประสบการณ์ 18 ปีแล้ว ผ่านการเลือกตั้งมาหลายรูปแบบก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
