“สมชัย” เผยนัดหารือ “วิษณุ” บ่ายวันนี้ เกี่ยวกับบทบาทของ กกต.-กรธ.-ข้าราชการ-ประชาชน ในการเคลื่อนไหวประชามติร่าง รธน.ที่ไม่ขัดกฎหมาย พร้อมคุยงบประมาณในการดำเนินการก่อนนำเข้า ครม.พรุ่งนี้ ขณะเดียวกันยังติดใจคำถามพ่วง ยาวไป แต่หากรัฐบาลไม่ปรับเปลี่ยนก็พร้อมปฏิบัติตาม
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ในการประชุมหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติช่วงบ่ายวันนี้ เบื้องต้นมีประเด็นที่จะนำไปหารือ คือ บทบาทของแต่ละฝ่ายหลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ว่า สิ่งไหนทำได้และทำไม่ได้ เรื่องไหนเป็นบทบาทของใครโดยจะต้องมีความชัดเจนในคน 4 กลุ่ม คือ บทบาทของ กกต., กรธ., กลไกข้าราชการ และภาคเอกชนหรือประชาชนทั่วไป ว่าใครจะทำอะไรได้แค่ไหน ถ้าคนที่กำกับดูแลและมีส่วนในการออกกฎหมายยังไม่รู้แปลว่าอะไรก็จะเดือดร้อนและลำบากจึงต้องคุยกันก่อน กกต.เป็นฝ่ายปฏิบัติจึงต้องคุยให้รู้เรื่องเพื่อให้เห็นพ้องต้องกัน
สำหรับภาคประชาชนจะทำอะไรได้บ้างนั้น นายสมชัยกล่าวว่า ในเรื่องบทบาทที่จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจ ภาคเอกชนและประชาชนสามารถตั้งวงถกแถลงเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนรูปแบบในการรณรงค์เพื่อให้คนมาใช้สิทธิ หรือทำให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาสาระต้องตีความข้อกฎหมายเพราะมีการตัดคำว่ารณรงค์ออกไป อาจทำให้เกิดความเข้าใจว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำไม่ได้ แม้กระทั่งการเผยแพร่ความรู้ในแง่เหตุผลว่าควรรับหรือไม่รับจะมีรูปแบบอย่างไร อภิปรายได้หรือไม่ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ หรือไลน์ได้หรือไม่ ใส่เสื้อที่มีข้อความให้ความรู้ได้หรือเปล่า ต้องทำความเข้าใจให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพราะบ้านเมืองเราค่อนข้างจะอยู่ยาก
“ผมอยากให้สบายๆ มากกว่า ใครอยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าให้เดือดร้อน อย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าใช้ข้อความเป็นเท็จหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย หลักการเท่านี้พอ ส่วนคนจะตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิดเป็นเรื่องของศาล กกต.มีหน้าที่บอกว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำ เมื่อทำแล้วกระบวนการพิจารณาว่าผิดมั้ยศาลจะเป็นฝ่ายตัดสินว่าผิดหรือไม่ ติกคุกหรือเปล่า กกต.จะไม่พูดให้แค่คำแนะนำเท่านั้นเช่นเดียวกับที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งสำนักเลขาญ ครม.จะมีหนังสือเวียนถึง ครม.ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ”
นายสมชัยกล่าวถึงตัวเลขงบประมาณ 2,991 ล้านบาทว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มหรือลดลงได้ ตามภารกิจที่ต้องปฏิบัติหลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ซึ่งในวันนี้จะต้องชัดเจนและนิ่งในเรื่องงบประมาณโดยนายวิษณุจะได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ เพราะขณะนี้งานกำลังจะเริ่มแล้วแต่เงินยังไม่มา กกต.ไม่ได้เป็นเสี่ยด้วย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ กรธ.ก็จะร่วมประชุมด้วย จึงต้องดูว่าจะพอใจกับงบประมาณที่ กกต.ตั้งไว้ทำร่วมกับกระทรวงมหาดไทยหรือเปล่า ต้องเติมงบหรือไม่
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ในฐานะเป็นฝ่ายดำเนินการออกเสียงประชามติอยากให้มีความหมายชัดเจนและเป็นที่เข้าใจของประชาชน เพราะจากการศึกษาการทำประชามติของประเทศต่างๆ พบว่าคำถามจะมีความชัดเจนสั้นกระชับในบรรทัดเดียวแต่คำถามพ่วงของ สนช.ยาวถึง 4 บรรทัด จึงต้องถามรัฐบาลว่าเห็นชอบที่จะดำเนินการตามนี้แล้วงงๆ กันไปทั้งประเทศหรือไม่ ถ้าต้องการอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้าเห็นว่าสามารถทำให้ดีขึ้น สั้นกระชับ ใช้ภาษาง่ายให้ประชาชนเข้าใจ แต่เนื้อหาสาระยังคงเดิม เช่น ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเปลี่ยนเป็น ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกันลงมติเลือกนายกฯ ก็จะเข้าใจง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการแก้ไข กกต.ก็พร้อมดำเนินการโดยไม่มีข้ออุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในวันนี้ได้เตรียมตัวอย่างบัตรประชามติไปให้ดูด้วย