xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ชี้กิจกรรมการค้าสหราชอาณาจักรเดินหน้า สวนทางข้อจำกัดทางการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รองโฆษกรัฐบาลเผยผู้แทนพิเศษการค้านายกฯ สหราชอาณาจักร พบปะเอกชนภาคธุรกิจ สะท้อนความเชื่อมั่นการค้าลงทุน แม้ไทยมีข้อจำกัดการเมือง แต่เชิงธุรกิจมีกิจกรรมต่อเนื่อง ก่อนพบนายกฯ หวังรื้อฟื้นปฏิสัมพันธ์ระดับสูง ย้ำมุ่งคืน ปชต. เชิญลงทุนโครงการขนาดใหญ่รัฐ ขอรัฐบาลสหราชอาณาจักรหนุนเอกชนไทยลงทุนในประเทศ หวังร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการบิน การศึกษา

วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายมาร์ก การ์นิเยร์ ผู้แทนพิเศษด้านการค้าการลงทุนของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นอกจากเป็นการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ทางผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ ยังได้พบปะกับตัวแทนภาคเอกชนของไทยและตัวแทนภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักรที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อการค้าและการลงทุนรวมถึงยังเชื่อมั่นต่อศักยภาพด้านเศรษฐกิจของไทยที่โดดเด่นในอาเซียน อีกทั้งยังเกื้อกูลสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือระหว่างกันให้ครอบคลุมในธุรกิจหลากหลายสาขามากยิ่งขึ้น และแสดงให้เห็นว่าแม้เวลานี้ไทยจะมีข้อจำกัดทางด้านการเมือง แต่ในเชิงธุรกิจการค้าการลงทุนยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด

ทั้งนี้ นายมาร์ก การ์นิเยร์ (Mark Garnier) ผู้แทนพิเศษด้านการค้าของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้แต่งตั้งผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ ที่มีความรู้และประสบการณ์สูงเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-สหราชอาณาจักรมีพลวัตเชิงบวก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังให้สหราชอาณาจักรรื้อฟื้นการแลกเปลี่ยนและปฏิสัมพันธ์ระดับสูง พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่ด้านเศรษฐกิจนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยยังคงเข้มแข็ง และมีพัฒนาการทางบวกอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการส่งเสริมการลงทุน และมีมาตรการจูงใจด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ โอกาสนี้ทางผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ เห็นว่าไทยยังคงมีศักยภาพ และมีข้อได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนักลงทุนสหราชอาณาจักรสนใจที่จะขยายการลงทุนในไทย และใช้ไทยเป็นประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีถือโอกาสเชิญชวนให้ภาคเอกชนสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล อาทิ การพัฒนาระบบราง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ หวังให้รัฐบาลไทยผลักดันการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชนสหราชอาณาจักร เช่น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (Foreign Business Act) และประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงกรณีสัมปทานการก่อสร้างคลังน้ำมัน พร้อมบอกไปว่ารัฐบาลรับทราบข้อห่วงใยดังกล่าว และไม่ได้เพิกเฉยต่อข้อกังวลของภาคเอกชนในเรื่องนี้ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคต่อบรรยากาศทางธุรกิจ

ส่วนด้านการลงทุน นายกรัฐมนตรีระบุว่าการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรขยายตัวทั้งสองทิศทาง โดยมูลค่าการลงทุนของไทยในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างมาก พร้อมขอให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในสหราชอาณาจักร ขณะที่ผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ แสดงความ ยินดีต่อการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในสหราชอาณาจักรมากขึ้น โดยเฉพาะนอกกรุงลอนดอนตามนโยบาย Northern Powerhouse ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหวังให้มีความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน ซึ่งเป็นสาขาที่ไทยและสหราชอาณาจักรสามารถเพิ่มพูนการค้าการลงทุนเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ บอกว่า บริษัท Roll Royce สนใจที่จะมาลงทุนในไทย โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางฐานซ่อมบำรุงและทดสอบอากาศยานในภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่การศึกษาระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยยินดีที่กระทรวงศึกษาธิการกำลังจะลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมหุ้นส่วนกับฝ่ายสหราชอาณาจักรในเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้แทนพิเศษด้านการค้าฯ ยินดีสนับสนุนความร่วมมือในด้านการศึกษา ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความขอบคุณที่ฝ่ายสหราชอาณาจักรที่สนับสนุนให้ EU กลับมาเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (Thai-EU FTA) กับไทย ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมจะประสานกับคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า (DG Trade) และฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเจรจาฯ ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น