โฆษกรัฐบาลชี้มาตรการ “ชอปช่วยชาติ” ช่วงส่งท้ายปี สร้างบรรยากาศดีกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยยอดผู้เสียภาษีใช้สิทธิ์ทะลุ 6 แสนราย เล็งพิจารณาใช้อีกในช่วงหยุดยาว แนะผู้ประกอบการร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
วันนี้ (29 มี.ค.) พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติในช่วงส่งท้ายปีที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้ผู้เสียภาษีนำใบเสร็จจากการซื้อสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาทต่อคน ถือเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยสร้างบรรยากาศการค้าขายให้คึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และมีผลทางจิตวิทยาในการสร้างความสุขให้แก่พี่น้องประชาชน
“ข้อมูลจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่า ณ วันที่ 21 มีนาคม มีผู้เสียภาษีที่ใช้สิทธิจากมาตรการดังกล่าวจำนวน 630,581 ราย โดยมีมูลค่าการซื้อสินค้าและบริการจำนวน 5,756 ล้านบาท หรือใช้จ่ายเฉลี่ยรายละ 9,129 บาท ทั้งนี้ คาดว่ายังมีผู้เสียภาษีอีกจำนวนมากที่ใช้สิทธิจากมาตรการดังกล่าว แต่ยังมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เนื่องจากการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม และสำหรับผู้ที่ยื่นทางอินเทอร์เน็ตสามารถยื่นแบบได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2559”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า มาตรการนี้ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจพิจารณานำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะที่นำค่าใช้จ่ายของบุคคลที่มีส่วนช่วยการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ มาหักลดหย่อนภาษีกลับมาใช้อีกในช่วงเทศกาลหยุดยาว จึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการร้านค้าจดทะเบียนการค้าอย่างเป็นระบบ มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อสามารถออกใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์ให้ลูกค้าได้ และจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ร่วมกัน โดยรัฐบาลได้ออกแนวปฏิบัติที่ผ่อนปรนในการจดทะเบียนการค้าแก่ผู้ประกอบกิจการทุกราย เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่รัฐได้ทุกพื้นที่