xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร-ธีรชัย” แท็กทีม “ขุมพลังใหม่” ความหมายถึง 5 ปีข้างหน้า!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

ต้องกล่าวกันแบบตรงไปตรงมากันว่านาทีนี้ “สองเสือพี่น้องบูรพาพยัคฆ์” ทั้งพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ “น้องเล็ก” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สามารถสะสมบารมีจนเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะที่ออกมาจะเป็นแบบส่งเสริมเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และหากกล่าวว่าคนที่ “กุมอำนาจแท้จริง” น่าจะเป็นคู่นี้ก็คงไม่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงมากนัก

ส่วนจะได้รับความรักและความศรัทธาจากชาวบ้านข้างนอกด้วยหรือไม่นั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังไม่อาจพิสูจน์ความจริงกันได้มากนัก แต่ถ้าพูดกันถึงอำนาจตามสายการบังคับบัญชาและเครือข่ายก็ต้องบอกว่าใช่เลย คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ขณะเดียวกัน เมื่อหันไปพิจารณากันอีกด้านหนึ่ง ภาพที่เห็นหากสังเกตให้ดีในช่วงที่ผ่านมากลับมองเห็นบางคนกลับดู “ฝ่อลง” หรืออย่างน้อยก็ไม่ค่อยคึกคักเหมือนเดิม บางคนถึงขนาดไม่ค่อยพบเห็นผ่านสื่อ โดยเฉพาะไม่ค่อยได้เห็นการแสดงความคิดเห็นแสดงบทบาทอะไรให้เห็นเลย ใช่แล้วกำลังเพ่งมองแบบตั้งข้อสังเกตไปยัง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่ระยะหลังเก็บตัวเงียบ หลังจากเจอพิษโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์เข้าไปจนอ่วม แม้ว่ามีการยืนยันออกมาจากหน่วยงานตรวจสอบจนเคลียร์กันไปแล้ว แต่ในความรู้สึกของสังคมจะยังมีใครข้องใจมากน้อยแค่ไหนไม่รู้ แต่เอาเป็นว่าจากกรณีดังกล่าวได้สร้างแรงสั่นทะเทือนให้กับ พล.อ.อุดมเดช เข้าอย่างจัง จนแทบจะเรียกว่า “เสียศูนย์” กันไปเลย

ส่วนอีกคนหนึ่ง แม้ว่าภาพภายนอกยังมองไม่ชัด ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่ก็พอสังเกตเห็นได้ว่าระยะหลังไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นเท่าใดนัก ผิดกับช่วงตอนเข้ามาควบคุมอำนาจใหม่ๆ ที่ตอนนั้นสังเกตเห็นถึง “ความมุ่งมั่น” แบบไฟแรง มีเป้าหมายในเรื่องใหญ่ๆ ยากๆ มากมาย ซึ่งในการแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์แทบทุกครั้งมักจะพูดถึง “ผลสัมฤทธิ์” ที่ต้องออกมา แต่ในปัจจุบันไม่ได้ยินมานานหลายเดือนแล้ว อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขาสั่งให้ทำมันไม่มีผลสัมฤทธิ์ออกมาให้เห็นสักเรื่องเดียวเลยก็ได้ โดยเฉพาะการปฏิรูปเรื่องสำคัญตามความต้องการของชาวบ้านก็เป็นได้ เช่น การปฏิรูปตำรวจ เป็นต้น

นอกจากนี้ สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นก็คือ การผลักดันในการ “แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ที่ร้อนแรงแหลมคอมยู่ในเวลานี้ในประเด็น ส.ว.สรรหา ประเด็นไม่กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอชื่อว่าที่นายกฯ ล่วงหน้า และให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และให้เลือกตั้ง ส.ส.เขตแบบแบ่งเขตละคน ก็ล้วนเป็นความเคลื่อนไหวที่ออกมาจาก “สองพี่น้อง” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช โดยคนแรกเคยยอมรับว่าเป็นคนเสนอให้ มี ส.ว.สรรหา (แต่งตั้ง) โดยเปิดทางให้ คสช.เข้าไปดำรงตำแหน่งได้ อ้างว่าเข้าไปสานต่อภารกิจปฏิรูปในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี จากนั้นก็นำมาสู่ข้อเสนออย่างเป็นทางการจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ลงนามโดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ในฐานะเลขาฯ คสช.ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เปิดทางให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพโดยเข้าไปเป็น ส.ว.โดยตำแหน่งแบบอัตโนมัติ

ล่าสุดเมื่อพิจารณาจากโผรายชื่อโยกย้ายนายทหารนอกฤดูกาลจำนวน 251 ตำแหน่ง กลับพบว่านายทหารในสายของ “ประวิตร-ธีรชัย” ล้วนถูกโยกเข้ามานั่งในตำแหน่งที่มีความหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ที่เป็น พล.ท.วิชัย แชจอหอ ตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ.เป็นของ พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ตำแหน่งรองเสนาธิการทหารบก ผบ.มทบ.11 เป็นต้น ล้วนมองออกว่าเป็นคนในสายนี้ทั้งสิ้น

ขณะที่ “ในวงการ” ที่ติดตามเส้นทางสายทหารมานานกลับมองออกว่า ในสายของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ถูกโยกไปพ้นทางทั้งหมด ซึ่งในที่นี้อาจหมายรวมไปถึงในกลุ่มของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยก็ได้

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากเส้นทางและวัฏจักรอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครขึ้นมาก็ต้องมีมือไม้ที่ไว้ใจได้ ทำงานเข้าขากันแบบมองตารู้ใจตามประสา “นายกับลูกน้อง” เพราะในยุคสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อเนื่องมาจนถึงยุค พล.อ.อุดมเดช ที่คุมอำนาจสูงสุดในกองทัพบกก็เคยมีการถูกตั้งข้อสังเกตในการโยกย้าย “เตะโด่ง” แบบนี้มาแล้วเหมือนกัน

เพียงแต่ว่าหากวัดกันถึงพลังอำนาจและเครือข่ายอำนาจที่เปรียบเทียบกันแบบยุคต่อยุค สะสมกันมาแบบต่อเนื่อง ก็ต้องยอมรับว่าสองพี่น้อง “ประวิตร-ธีรชัย” แพกกันแน่น ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากอารมณ์ความกระตือรือร้นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดูเหมือนลดน้อยลง และบทบาทของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่ถูกกันออกนอกเส้นทาง ทำให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า นับจากนี้อย่างน้อยต่อเนื่องไปอีก 5 ปี พลังที่แท้จริงอยู่ในมือใคร!
กำลังโหลดความคิดเห็น