xs
xsm
sm
md
lg

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! รายงานความเห็น ป.ป.ช. ถึงมือ “บิ๊กตู่” ชงไล่“ธาริต เพ็งดิษฐ์”ออกจากราชการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“นายธาริต เพ็งดิษฐ์” ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! ป.ป.ช. ส่งสำนวนไต่สวน-รายงานความเห็น ถึงมือ “บิ๊กตู่” ชงไล่ออก “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ออกจากปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” เผย ป.ป.ช.ยกมาตรา 80 (4) กม.ปปช.ประกอบ รธน. -คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 8/2557 เหตุพ้น “อธิบดีดีเอสไอ”ไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว หลังถูกชี้มูลรวยผิดปกติ 346 ล้าน

วันนี้(22 มี.ค.) มีรายงานจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ภายหลัง ป.ป.ช.ลงมีมติเอกฉันท์ 7 : 0 ชี้มูลความผิด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ปัจจุบันปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ฐานความผิดร่ำรวยผิดปกติ โดยมีพฤติการณ์ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาท

อ่าน ชงยึดทรัพย์มูลค่า 346 ล้าน ถอดถอน “ธาริต-เมีย-น้องสาวเมีย-หลานชาย-บริวาร” สมัยนั่ง อธ.ดีเอสไอ ร่ำรวยผิดปกติ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000025470

วันเดียวกันนี้ เว็ปไซต์สำนักข่าวอิศรา อ้างแหล่งข่าวระดับสูงใน ป.ป.ช. ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวน และรายงานความเห็นคดีดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำเนินการลงโทษไล่ “นายธาริต” ออกจากราชการ

ทั้งนี้ รายงานความเห็นคดีดังกล่าว ระบุ ว่าเนื่องจากตามมาตรา 80 (4) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ระบุว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ใช่ นักการเมือง ประธานศาล และผู้บริหารระดับสูง ที่ถูกชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติ ให้ประธาน ป.ป.ช. แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา ซึ่งในที่นี้คือนายกรัฐมนตรีสั่งลงโทษ ดังนั้นปัจจุบันนายธาริตไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อธิบดีดีเอสไอ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว แต่ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกนิยามว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอื่น จึงเข้าข่ายมาตรา 80 (4) ดังกล่าว

ทั้งนี้ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 80 ระบุว่า ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวน ข้อเท็จจริงและมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา 66 ให้ประธานกรรมการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน

(2) ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาล ปกครองสูงสุด กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาตุลาการรัฐธรรมนูญ กรรมการตรวจเงิน แผ่นดิน รองประธานศาลฎีกา รองประธานศาลปกครองสูงสุด หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร รองอัยการสูงสุด หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ให้ประธานกรรมการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณา พิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน

(3) ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ให้ประธานกรรมการยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมี เขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน

(4) ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่บุคคลตาม (1) (2) และ (3)ให้ประธานกรรมการส่ง เรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดิน และให้ประธานกรรมการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาสั่งลงโทษ ไล่ออกหรือปลดออก โดยให้ถือว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่

เว้นแต่กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ ตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการตุลาการศาลปกครองตามกฎหมายว่า ด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง หรือข้าราชการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ให้ประธานกรรมการแจ้งไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการ ประธานคณะกรรมการ ตุลาการศาลปกครอง หรือประธานคณะกรรมการอัยการ แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่า ด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง หรือ กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

กรณีตาม (1) และ (2) เมื่ออัยการสูงสุดได้รับรายงานและเอกสาร พร้อมทั้งความเห็นจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว เห็นว่ารายงาน เอกสาร และความเห็นที่คณะกรรมการป.ป.ช. ส่งให้ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีได้ ให้อัยการสูงสุดแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยให้ระบุข้อที่ไม่สมบูรณ์นั้นให้ครบถ้วน ในคราวเดียวกัน ในกรณีนี้ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนจาก แต่ละฝ่ายจำนวนฝ่ายละเท่ากันเพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ แล้วส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อยื่น คำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี แล้วแต่กรณี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ในกรณีที่คณะทำงานดังกล่าวไม่อาจหาข้อยุติ เกี่ยวกับการดำเนินคดีได้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองหรือศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี แล้วแต่กรณี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตก เป็นของแผ่นดิน

กรณีตาม (2) (3) และ (4) ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม

ขณะที่ มาตรา 4 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. นิยามคำว่า ‘เจ้าหน้าที่ของรัฐ’ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมี ตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและ สมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ และให้ หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะ บุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางการปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ

มีรายงานด้วยว่า นายธาริต ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2557 โดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้นายธาริต มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน และให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) มาปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหน้าที่หนึ่งแทน.


คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2557
กำลังโหลดความคิดเห็น