อดีต ส.ส. ปชป. มองข้อเสนอ คสช. เหมือนใบสั่ง ทำให้ กรธ. เป็นลูกไก่ในกำมือ ชี้ เป็นผู้ใหญ่ควรละมุนละไม ดักกลัวเจตนารมณ์ที่ดีจะพังจึงต้องสืบทอดอำนาจ จี้ เขียน รธน.ปชต. เลิกเขียนพิสดารหวังป้องกันซื้อเสียงแต่ทำลายสามัคคีผู้สมัครส.ส.ทำพรรคการเมืองอ่อนแอ่ แนะ พอแล้วแบบปธ.องคมนตรี
วันนี้ (16 มี.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรธน.ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ส่งถึงประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นั้น เปรียบดังใบสั่งที่มิอาจปฏิเสธได้ กำลังนำไปสู่ทางตันทางการเมืองและอาจนำบ้านเมืองไปสู่วิกฤต คสช.ได้ทำให้สังคมเห็นว่า กรธ. กลายเป็นลูกไก่ในกำมือซึ่งไม่เป็นผลดีใด ๆ เลย จริง ๆ แล้ว คสช. นับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อาสาเข้ามาจัดระเบียบปฏิรูปสังคมใหม่ ควรละมุนละไมแบบไทย ๆ ไม่ควรหักด้ามพร้าด้วยเข่า เพราะวัฒนธรรมของคนไทยไม่ชอบวิธีการแบบนี้
นายวัชระ กล่าวต่อว่า ในจดหมายของ คสช. ก็อ้างถึงกับดักทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองโดยท่านไม่ได้ดูว่าท่านเองก็คือกับดักประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน
ผมเชื่อว่า คสช. ทุกท่านล้วนมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองเกรงว่าเจตนารมณ์ของตนจะล้มครืนลงจึงต้องสืบทอดอำนาจในรูปแบบต่าง ๆ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเลย ถ้าเขียนรัฐธรรมนูญให้ชัด ไม่แสวงหาอำนาจต่อ ทำเพื่อประเทศอย่างแท้จริง ผู้คนจะแซ่ซร้องสรรเสริญไปสิบทิศ หากในอนาคตใครมาเล่นแร่แปรธาตุ ท่านก็ออกมาแอ่นแอ้นได้อีกอยู่แล้ว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นจึงควรเขียน รธน. ที่เป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ อย่าตึง หรือหย่อนเกินไป ประเภท ส.ว. ลากตั้ง 250 คน เอารายชื่อ ส.ว. ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 ทิ้งไปได้แล้ว หรือให้สมัครเขตใหญ่พรรคละ 3 คน แล้วให้ ปชช. เลือกได้คนเดียว มีที่ไหนในโลกความคิดพิสดารนี้ต้องถามนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา อดีต สปช. และ สปท. ที่เป็นต้นคิดคนแรกที่นำไปเสนอทหารใหญ่จนเชื่อกันทั้ง คสช. ว่า สามารถป้องกันการซื้อเสียงได้ แต่เป็นการทำลายความสามัคคีของผู้สมัคร ส.ส. ตั้งแต่วันแรกที่ลงสมัคร ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอลงสมดังเจตนาของผู้มีอำนาจบางคน คสช. ควรยึดพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นต้นแบบ ที่เอ่ยคำว่า “ผมพอแล้ว” เมื่อพรรคการเมืองพร้อมใจกันไปกราบเรียนเชิญให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี.
