xs
xsm
sm
md
lg

ตามดูธุรกิจ 4 คนดัง! ทำไมถึงถูกกล่าวหาว่าเป็น “ผู้มีอิทธิพลพื้นที่เมืองหลวง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธ.ไอซ์, นายการุณ โหสกุล หรือ เก่ง
ตามดูทรัพย์สิน-ธุรกิจ 4 คนดังที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลพื้นที่เมืองหลวง หลังจากกระแสข่าว คสช.เรียกถกหน่วยข่าว พร้อมเปิดแฟ้มเช็กความเคลื่อนไหว เปิดประวัติอีกรอบ “เสธ.ไอซ์-เก่ง การุณ-ร.อ.ธรรมนัส-ชัยสิทธิ์ งามทรัพย์” พบไม่ธรรมดา ทำไมถึงถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เมืองหลวง

วันนี้ (8 มี.ค.) จากกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 (กกล.รส.) ได้เตรียมติดตามเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รับผิดชอบของ กกล.รส.ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากสื่อหลายสำนักระบุถึงบัญชีผู้มีอิทธิพลจากข้อมูลของ กกล.รส.ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 ว่ามีชื่อ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธ.ไอซ์, นายการุณ โหสกุล หรือเก่ง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ ร.อ.มนัส (ผู้กองตุ๋ย) และนายชัยสิทธิ์ งามทรัพย์

“MGR Online” ได้ตรวจสอบธุรกิจและกิจการส่วนตัวของผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในข้อมูลของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 (กกล.รส.)

อันดับแรก นายการุณ โหสกุล หรือเก่ง การุณ หรือ “เสี่ยเก่ง” ที่คนในพื้นที่เรียก เป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง กว่า 10 สมัย ถูกจับตาในฐานะผู้กว้างขวางในเขตดอนเมือง และเมื่อครั้งเป็น ส.ส.ก็ถูกจดจำจากเหตุการณ์ปะทะกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในห้องประชุมสภา นอกจากนี้ยังมีเหตุกระทบกระทั่งในเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ตัวเอง อาทิ พังคันกั้นน้ำคลองประปา ปัจจุบันอยู่ระหว่างถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากกรณีหาเสียงเลือกตั้งปี 2554

คนโดยทั่วไปทราบว่า “เก่ง การุณ” มีธุรกิจรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจัดการ “ตลาดนัด” เช่น ตลาดนัดปิ่นเจริญ 1 ตลาดนัดบุญอนันต์ ตลาดนัดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง โดยนายการุณยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อ 2 ส.ค. 2554 (เลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554) ระบุว่า มีทรัพย์สิน 42,343,398.45 บาท ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน 22,401,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12,200,000 บาท ที่เหลือเป็นเงินสด เงินฝาก เงินลงทุน รถยนต์ และทรัพย์สินอื่น มีหนี้สิน 1,498,954.82 บาท นางพิมพ์ชนา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 19,732,052.17 บาท มีหนี้สิน 7,234,999.33 บาท

ขณะที่ข้อมูลจาก “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” พบว่า นายการุณยังทำกิจการชื่อบริษัท เค.โซน จำกัด ประกอบธุรกิจสถานออกกำลังกาย ที่ตั้งเลขที่ 159/161 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ มีนายการุณ โหสกุล และ น.ส.พัชณี เพ็ญวุฒิกุล เป็นกรรมการ

ส่วนคดีที่ความที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ปี 2548 อดีต ส.ส.ผู้นี้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายอดีตภรรยา (อดีต ส.ก.เขตดอนเมือง) ที่หย่าร้างกัน ในสนามบินดอนเมืองมาแล้ว เพราะความหึงหวงและต้องการขอคืนดี ถึงกลับให้ “นางปวีณา หงสกุล” อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคไทยรักไทย เข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างนายการุณกับอดีตภรรยาในประเด็นการเลี้ยงดูบุตร 2 คน ต่อมาอดีตภรรยาได้ถอนแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ปี 2549 ถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอกชน เหตุถูกนายการุณเตะเข้าที่กกหูข้างซ้าย 2 ครั้ง

ทั้งนี้ เก่ง การุณ ได้ออกมาโต้ข่าวดังกล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีชื่ออยู่ในลิสต์ ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลตามที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่มีลักษณะอยู่ในข่ายตาม 16 ฐานความผิด 8 กลุ่มหลักของ คสช. ซึ่งตนก็ไม่ได้จะออกมาเรียกร้องอะไร ขออยู่เฉยๆ เพื่อให้เห็นว่าตนไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ถ้าถูกกระทำมากเกินไปก็จะออกมาปกป้องสิทธิ และต่อสู้ตามขั้นตอนกฎหมาย

รายต่อมา “พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต” หรือ “เสธ.ไอซ์” อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นนายทหารที่มีบทบาททางการเมืองโดยเฉพาะช่วงรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มีตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นอกจากนี้ยังเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกพุ่งเป้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม นปช.ในปี 2553

ประวัติ เสธ.ไอซ์ บุคคลผู้ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับคดีความดังหลายคดี แต่ เสธ.ไอซ์ และนัการเมืองหลายคน ก็ออกมาปฏิเสธทุกคดีว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะเสธ.ไอซ์ “เป็นคนที่ไม่นิยมความรุนแรง เน้นการเจรจามากกว่า” โดยคดีที่ถูกอ้างไปโยง เช่น คดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง หรือคดีสังหารนายกรเทพ วิริยะ (ชิปปิ้งหมู) พยานปากเอกในคดีการทุจริตของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2546 เกี่ยวกับการเลี่ยงภาษีนำเข้าของบริษัท ชินแซทเทิลไลท์ ของตระกูลชินวัตร แม้กระทั่งเหตุการณ์การวางระเบิดและความรุนแรงในหลายจุดในการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ ปี 2553

คนที่ 3 “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หรือ “ผู้กองตุ๋ย” ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนสนิท เสธ.ไอซ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 และจบนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ รุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกันกับ “เสธ.เปา” พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และ “เสธ.หิ” พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ เป็นนายทหารได้ไม่นานก็ผันตัวเองมาทำธุรกิจรักษาความปลอดภัยชื่อ “บริษัท ธรรมนัส การ์ด” ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ

ไม่นานมานี้ถูกอ้างว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่ง “สี่แยกคอกวัว” หรือกองสลากในอดีต หลังจาการเข้าเทกโอเวอร์ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญฤดี ของ “เจ๊แดง ปลื้มจิตต์” กลายเป็น “ยี่ปั๊วสลาก” รายใหญ่ที่สุดในช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ประกาศใช้มาตรา 44 จัดการกับ “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล”

ด้านการเมือง เคยลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ปัจจุบัน “ผู้กองตุ๋ย” ยังมีตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า, นายกสมาคมชาวพะเยา, นายกสมาคมกีฬาพะเยา, ประธานสโมสรพะเยาเอฟซี และประธานที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพะเยา โดยมีคู่ชีวิต “นางจุฬาสินี พรหมเผ่า” เป็นนายกเทศบาลเมืองพะเยา และน้องชาย “นายอัครา พรหมเผ่า” เป็นรองนายก อบจ.พะเยา ที่ถูกจับตามองว่ามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในจังหวัดพะเยา

กรณี “พล.อ.ไตรรงค์ กับ ร.อ.ธรรมนัส” เคยร่วมหุ้นรักษาความปลอดภัยชื่อ บริษัท ธรรมนัส การ์ด จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท โทนี่คอสโมอิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด) ตั้งอยู่เลขที่ 888 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดย“เสธ.ไอซ์” เคยถือหุ้น 20% มีเพียง ร.อ.(นาย) ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นายสุธี พงษ์เพียรชอบ เป็นกรรมการ ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ขายกิจการต่อให้กลุ่มล็อกซเล่ย์แล้ว

นอกจากนี้ยังมีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้บริหาร บริษัท พะเยา เอฟซี จำกัด (สโมสรฟุตบอลพะเยา เอฟซี ในลีกภูมิภาค) มีนายทศพล อินทรทัต กรรมการบริษัท อินทัช กรุ๊ป จำกัด ร่วมเป็นกรรมการ, บริษัท กุ๊กยิ้ม จำกัด, บริษัท โกลเบิล ทราเวล เอเจนซี จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขวัญฤดี, บริษัท ไดมอนด์ ไฟว์ เอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด, บริษัท ที เอ เอ็ม (2011) เมเนจเมนท์ จำกัด เคยถูกพรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าเป็นผู้บริหารพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (กล่าวหา พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ขณะเป็น รมช.คมนาคม ปล่อยปละละเลย), บริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด, บริษัท พิกุล ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด และ บริษัท สินธุ์มนัส พรหมเผ่า จำกัด ในจำนวนนี้มีบริษัทตั้งขึ้นเพื่อขายสลากกินแบ่งจำนวน 2 แห่ง ที่เหลือเป็นธุรกิจให้คำปรึกษา ให้เช่าพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

ในอดีต ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้กว้างขวางเคยเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ หนุ่มนักเรียนนอกเมื่อปลายปี 2541 คดีนี้ตำรวจออกหมายจับขณะนั้นใช้ชื่อ ร.อ.พชร หรือมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเจ้าของบ้านเกิดเหตุ กับพวกรวม 3 ต่อมาศาลมีคำพิพากษาวันที่ 27 ตุลาคม 2546 ยกฟ้อง ร.อ.ธรรมนัสกับลูกน้องที่เป็นทหาร

ระหว่างนั้น ร.อ.ธรรมนัสออกจากราชการ หันมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ปี 2542 จับมือกับนายเอกราช ช่างเหลา (อดีต ส.ว.ขอนแก่น นักธุรกิจอัสงหาริมทรัพย์ใน จ.ขอนแก่น อดีตแกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ล่าสุดเป็นประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมใน ลีกดิวิชัน 1) ร่วมทำธุรกิจอสังหาฯ สร้างบ้านหรูขายที่ขอนแก่น “เมืองแกรนด์วิลล์”

ปี 2551 ชนะการประมูลบริหารตลาดคลองเตย ในนามบริษัท “ลีเกิ้ล” จากกลุ่มเดิมที่บริหารตลาดมาต่อเนื่องหลายสิบปี แต่ก็เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมรับ ก่อม็อบประท้วงปิดถนนบริเวณแยกคลองเตย เกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายครั้งจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีการไปแจ้งความร้องทุกข์ แล้วเรื่องก็เงียบหาย

กระทั่งกลับมาสร้างความฮือฮา กรณีซื้อที่ดิน 616 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน จากบริษัท สินทรัพย์ไทย หรือ บสท. ในราคา 3,205 ล้านบาท โดยมีเจ้าของกิจการรถโดยสารประจำทาง และอีกรายเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังเข้าแข่งขัน และนำไปสู่เหตุการณ์ชายฉกรรจ์ 200 คนบุกเข้าเผาไล่ที่บ้านกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาค ที่ปลูกเพิงพักอาศัยอยู่บนที่ดินโรงงานไทยอเมริกัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด และโรงงานไทยเมล่อน เท็กซ์ไทล์ จำกัด ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2554

ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส ร่วมกับนายเอกราช ช่างเหลา ในนาม บริษัท เอเพ็กซ์ ริเวอร์ไซด์ จำกัด เข้าซื้อที่ดินบริษัท ไทยเมลอน โพลีเอสเตอร์ เนื้อที่รวม 616 ไร่ ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน ด้านหลังติดแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ระหว่างสถานีรังสิตและสถานีคลองหนึ่ง แปลงใหญ่ที่สุดของ บสท.ที่มีการประกาศขาย มูลค่า 3,205 ล้านบาท โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต

“หลังโอนที่เสร็จแล้ว สิ่งแรกที่จะเร่งดำเนินการ คือเข้าไปเจรจากับแกนนำ ผู้บุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวให้ย้ายออกไป ซึ่งจะต้องดูว่าแกนนำต้องการอะไร แต่มั่นใจว่าเคลียร์ปัญหาได้ เพราะส่วนตัวมีประสบการณ์ทำตลาดคลองเตยมาก่อน” ร.อ.มนัสกล่าวกับสื่อแห่งหนึ่ง และว่าโครงการนี้จะสร้างหมู่บ้าน วี.ไอ.พี.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท

ร.อ.ธรรมนัสถูกกล่าวหาว่ามีรายได้จากการดูแลแหล่งบันเทิงย่านถนนรัชดาภิเษก ชีวิตหลังออกจากราชการทหาร เข้ามาลุยทำธุรกิจหลายอย่าง ล่าสุดมีข่าวว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ “ร.อ.ธรรมนัส” ได้มาจากธุรกิจเครือข่ายอสังหาฯ ที่ทำมากว่า 20 ปี ที่ขอนแก่น และมีเงินสะสมส่วนหนึ่งจากธุรกิจสลากกินแบ่งฯ “ผมจะขายหุ้น (บางส่วน) ทิ้งในบริษัท ลีเกิ้ล และขายธุรกิจรถร่วม ขสมก.จำนวน 300 คัน หรือ 300 ล้านบาท” ร.อ.ธรรมนัส บอกกับสื่อแห่งหนึ่งไว้ไม่นานมานี้

คนสุดท้าย “นายชัยสิทธิ์ งามทรัพย์” ตามรายงานข่าวระบุว่า เป็นผู้มีอิทธิพลย่านหมอชิต ตามข้อมูลของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินการรถไฟที่ถูกบุกรุก กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พบว่า นายชัยสิทธิ์ เคยได้รับสัมปทาน ดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่ย่านหมอชิต (พื้นที่ใกล้เคียงสถานีขนส่งหมอชิต ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม.) จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2548 โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

มีข้อมูลระบุว่าปัญหา “ที่ดินการรถไฟที่ถูกบุกรุก” คาราคาซังมากกว่า 10 ปี หลังจากมีชุมชนเกิดใหม่ถึง 358 ชุมชน โดยเฉพาะที่ดิน 35 ไร่ข้าง “หมอชิต 2” ที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินการรถไฟที่ถูกบุกรุก กระทรวงคมนาคมระบุว่าเป็นพื้นที่ที่ “มาเฟียมีสี” จับมือกับ “นักข่าวนอกแถว” เข้าทำมาหากินทั้งหักหัวคิว ทำร้านเหล้า โกยเงินเป็นกอบเป็นกำ ล่าสุดได้ถูกไล่รื้อเพื่อสร้าง “โรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเส้นทางรถไฟสายสีแดง” ในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีความพยายามทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลตลอดเวลา

ข้อมูลจาก ร.ฟ.ท.ระบุว่า ได้มีการเอาผิด พนักงาน ร.ฟ.ท.ที่แอบอ้างรับรองการเข้าพัฒนาพื้นที่ 35 ไร่ ให้กับมาเฟียกลุ่มนี้แล้ว โดยเฉพาะในปี 2552 นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมสมัยนั้นถึงกับออกนโยบาย “ขับไล่มาเฟียที่อาศัยช่องทางที่ดินการรถไฟมาทำมาหากินโดยผิดกฎหมาย” โดยมีนายประกิจ พลเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสมัยนั้นดำเนินการ

ส่วนคดีความที่เคยมีข้อมูล พบว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2549 สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน อาวุธครบมือจะยกพวกเข้าทําร้ายร่างกายกัน เหตุเกิดบริเวณใต้ทางด่วนหน้าสถานีขนส่งหมอชิต มีการจับกุมมาได้ทั้งหมด 19 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 9 ลูก ปืนพกขนาด 9 มม.1 กระบอก กระสุนปืน 17 ลูก ไม้เบสบอล ท่อแป๊ปยาว 1 เมตร อาวุธมีด 9 เล่ม และสนับมือ 1 อัน

จากการสอบสวนทราบว่า นายชัยสิทธิ์ งามทรัพย์ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 204/21 บ้านพักกรมเสมียนตรา (บ้านพักทหาร กรมเสมียนตรา สุขุมวิท 64 บ้านพักทหารในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม) แขวงและเขตบางนา กทม. ซึ่งเป็นผู้นํากลุ่มชายฉกรรจ์ให้การว่า ตนเองได้รับมอบอํานาจจากนางปิยพร ชาวน่าน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจํากัด ปิยะ คาร์ปาร์ค ตั้งอยู่เลขที่ 999/8 ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร เพื่อให้เข้ามาดําเนินการขับไล่ผู้ที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ของทางบริษัทฯ ซึ่งมีสัญญาเช่ากับทางการรถไฟฯ ไว้ เมื่อมาถึงได้ถูกกลุ่มที่เข้าครอบครองอยู่ล้อมกรอบจะทําร้าย แต่กลุ่มเพื่อนตนรู้ข่าวจึงพาพวกมาช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาต่อกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 19 คน ข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ใช้กำลังข่มขู่ประทุษร้าย ก่อความเดือดร้อนรําคาญแก่ประชาชน และพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

อีกคดีเมื่อปี 2552 (20 พ.ค.) สน.บางซื่อ ได้แจ้งดำเนินคดีต่อกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 40 คนที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ร้านมินิมาร์ทไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งหมอชิต 2 ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วนกำแพงเพชร 2 เพื่อทำร้ายร่างกายกลุ่ม รปภ.ซึ่งดูแลร้านด้วยอาวุธนานาชนิด แล้วลักทรัพย์ภายในร้านก่อนพากันหลบหนีไป โดยในคำฟ้องระบุว่ามินิมาร์ทดังกล่าวเป็นของนายชัยสิทธิ์ งามทรัพย์ ซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่

ตามข้อมูลแล้วสาเหตุที่เกิดขึ้นในหลายครั้ง เกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มเอกชนสองฝ่ายที่พยายามเข้าครอบครองพื้นที่จอดรถ จนเกิดการระหองระแหงมีปัญหาขัดแย้งกันมานาน

ทั้งนี้ 4 บุคคลนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ คสช.เปิดมาคร่าวๆ เท่านั้น จากตัวเลขจริง 6,000 รายทั่วประเทศ ที่ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ระบุเอาไว้


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ ร.อ.มนัส (ผู้กองตุ๋ย)
กำลังโหลดความคิดเห็น