xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ชงยึดทรัพย์ทั้งตระกูล 597 ล้าน อดีต ขรก.สรรพากร กทม.โกงแวต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมแถลงข่าว
5 วันชงยึดทรัพย์กว่า 600 ล้าน ป.ป.ช.ชง อสส.ยึดทรัพย์ 597 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน จากครอบครัว-ญาติ “สุวัฒน์ จารุมณีโรจน์” อดีต ขรก.สรรพากร กทม.เขต 27 ร่ำรวยผิดปกติ หลังพบปมโกงภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 26 บริษัทส่งออกที่ขอคืนภาษี เผย 4 วันก่อน ป.ป.ช.ชงยึดทรัพย์ 31 ล้าน กรณีเดียวกันจาก “ศุภกิจ ริยะการ” อดีตสรรพากร กทม.พื้นที่ 22

วันนี้ (1 มี.ค.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมแถลงข่าวชี้แจงการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากร ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพื้นที่กรุงเทพฯ เขต 27 ร่ำรวยผิดปกติ ว่าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายสุวัฒน์ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้งขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 597,728,229.48 บาท รวมถึงคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่นายสุวัฒน์พร้อมพวกได้กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จากการอนุมัติคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จให้กับกลุ่มบริษัทผู้ส่งออก จำนวน 26 บริษัท และเงินฝากในบัญชีที่ไม่สามารถชี้แจงที่มาได้

“พบว่ามีเงินจากกลุ่มทุนบริษัทผู้ประกอบการส่งออกที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ จำนวน 26 บริษัท ได้ฝากเข้าบัญชีเงินฝากของนายสุวัฒน์ และบุคคลใกล้ชิด เป็นเงิน 515,837,041.98 บาท และยังตรวจพบทรัพย์สินจำนวนมากของนายสุวัฒน์ ทั้งอยู่กับตัวเอง คู่สมรส บุตร และญาติพี่น้องของคู่สมรส รวมทั้งพฤติการณ์ที่นำทรัพย์สินไปไว้ในชื่อของนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายสุวัฒน์ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ ยังพบว่ามีการถอนปิดบัญชี หรือนำไปจำหน่าย จ่าย โอนหรือซื้อทรัพย์สินในชื่อตัวเอง คู่สมรส บุตร และบุคคลอื่นทื่ถือครองแทน ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 8 บัญชี, เงินฝากหลักประกัน ดอกผล และเงินลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 5 แห่ง, ที่ดิน 15 แปลง และรถยนต์ 3 คันที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ จึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติด้วย ป.ป.ช.จึงมีคำสั่งอายัดไว้ชั่วคราวแล้ว

โดย ป.ป.ช.ได้ดำเนินการอัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้ยึดทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 80 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

มีรายงานว่า เมื่อ 4 วันที่แล้ว (26 ก.พ.) คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายศุภกิจ ริยะการ หรือสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งให้นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตร ตามแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 79 รวมทั้งมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติของนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ อดีตคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 นั้น

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณารายงานผลการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ ที่อยู่ในชื่อนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ อดีตคู่สมรส และบุตร เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าทรัพย์สินที่แจ้งข้อกล่าวหามีที่มาจากการขายทองคำแท่ง การกู้ยืมเงินจากบุคคลใกล้ชิด หรือการได้รับคืนเงินให้กู้ยืมจากญาติพี่น้องของคู่สมรส และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้น จึงมีมติว่านายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้งในชื่อของนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ อดีตคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 31,754,337.38 บาท

แต่เนื่องจากเงินในบัญชีเงินฝาก รวมเป็นเงิน 11,883,000 บาท ที่นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ ได้มีการถอนไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากอื่น ซื้อที่ดิน และรถยนต์ ในชื่อของนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ และบุตร รวมเป็นเงิน 3,917,317.25 บาท จึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติด้วย ส่วนเงินคงเหลือ จำนวน 7,965,682.75 บาท ให้ดำเนินการกับทรัพย์สินอื่นของนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ อดีตคู่สมรส และบุตร ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จึงมีมติให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 80 และริบทรัพย์สิน ตามมาตรา 123/6 และมาตรา 123/8 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม


นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากร ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพื้นที่กรุงเทพฯ เขต 27


กำลังโหลดความคิดเห็น