รองโฆษก ทบ. โวยผู้ไม่หวังดีจัดทำเอกสารปลอม สั่งธนาคารพาณิชย์ปกปิดบัญชี “ประยุทธ์” ห้ามให้ข้อมูลองค์กรอิสระและสื่อ อ้างภาพพจน์ไม่ดี โวยทำประชาชนสับสน ขอสังคมอย่าหลงเชื่อ วอนหยุดการกระทำ ถือว่าผิดกฎหมาย
วันนี้ (8 ก.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ในโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่เอกสารคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับพิเศษ ให้ธนาคารพาณิชย์ปิดข้อมูลบัญชีเงินฝากประจำพิเศษเป็นความลับ โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้า คสช. และ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดบัญชีเงินฝากประจำพิเศษร่วมกัน มียอดเงินในบัญชีประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท และขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ปิดข้อมูลบัญชีฝากประจำพิเศษในขั้นลับที่สุดนั้น เป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดี ได้จัดทำเอกสารปลอมขึ้นมา เป็นคำสั่งของ คสช. เพื่อหลอกลวงทำให้ประชาชนสับสน และมีการนำมาเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยในเอกสารได้มีการปั้นแต่งตัวเลขยอดเงินฝากขึ้นมาเอง จึงขอเรียนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขอสังคมอย่าได้หลงเชื่อ พร้อมขอให้ผู้ที่ไม่หวังดีได้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะการกระทำในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากตรวจพบจะต้องถูกดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
อนึ่ง จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” โดยได้รับเอกสารจากโซเชียลมีเดีย พบว่าคำสั่งปลอมดังกล่าวมีการประทับตราลับที่สุด และด่วนที่สุด ส่งไปยังกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รวม 2 ฉบับ โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ท.ปรีชา ได้เปิดบัญชีเงินฝากประจำพิเศษร่วมกัน กับธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 000-5-25677-3 ซึ่งมียอดรวมในปัจจุบันอยู่ที่ 26,531,553742.35 บาท และธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 000-4-15484-9 ซึ่งมียอดรวมในปัจจุบันอยู่ที่ 13,948,278,752.53 บาท ซึ่งข้อมูลบัญชีฝากประจำพิเศษดังกล่าวอาจจะได้รับการขอเพื่อตรวจสอบจากหน่วยงาน หรือองค์กรอิสระ หรือสำนักข่าวต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ภาพพจน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ท.ปรีชา เสื่อมเสียไปในทางที่ไม่ดี
“ดังนั้น เพื่อความมั่นคง และความสงบของชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งพิเศษดังกล่าวให้ธนาคารปิดข้อมูลบัญชีฝากประจำพิเศษนี้ในชั้นลับที่สุด และห้ามเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่ผู้ใด หรือหน่วยงานใดๆ ที่อาจจะมาขอดู หรือขอตรวจสอบข้อมูลนี้ ยกเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยตรง การขัดคำสั่งนี้ หรือไม่ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด และรัดกุมจะมีโทษขั้นสูงสุด” เอกสารปลอมดังกล่าว ระบุ โดยมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” พบว่า เอกสารปลอมฉบับดังกล่าวมีลักษณะพิรุธ โดยไม่ใช่รูปแบบเอกสารทางราชการที่แท้จริง และมีการเขียนคำผิดอยู่บ่อยครั้ง เช่น การใช้เลขอารบิกในส่วนของที่อยู่สลับกับเลขไทย ซึ่งในส่วนของ เรียน ไม่จำเป็นต้องใส่ที่อยู่ทางไปรษณีย์ลงในคำสั่ง รวมทั้งมีคำผิดในส่วนของตัวย่อ เช่น “พล.โท ปรีชา” ทั้งที่จริงยศพลโทต้องใช้ตัวย่อ “พล.ท.” และเป็นที่น่าสังเกตว่า ยศพลเอกของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเขียนผิดบ่อยครั้ง เช่น พอ.อ.ประยุทธ์ หรือ พอ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ ลายมือชื่อยังมีลักษณะลายเส้นที่เหมือนกันทั้งสองฉบับ และมีลักษณะเหมือนเป็นการคัดลอกลายมือชื่อตามสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาแปะอีกครั้ง และการใช้แบบอักษรยังคงเป็นแบบอักษร Angsana New (อังสนา นิว) ทั้งที่แบบอักษรของทางราชการได้เปลี่ยนมาใช้แบบอักษร TH Sarabun (ทีเอช สารบรรณ) แล้วตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น