โฆษกกลาโหมเผย “ประวิตร” สั่งปลัดกระทรวงตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงอุทยานราชภักดิ์เพิ่ม ขออย่าเพิ่งพาดพิงใคร ไม่ต้องห่วงต้องโปร่งใส ดูทุกเรื่องที่เป็นประเด็นสังคม แต่โบ้ยหักหัวคิวเรื่องเอกชน ใครเสียหายให้แจ้งตำรวจฟัน ยังไม่ระบุเสร็จเมื่อไหร่ โวไม่มีช่วยกันแน่ ปัดดึงเกม อ้างคำนายกฯ ทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมาย โยน รมช.กห.แสดงสปิริตหรือไม่ ไม่มีปัญหา ป.ป.ช.แจม ด้าน “อุดมเดช” ย้ำทุกอย่างเรียบร้อย โปร่งใส
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงโครงการอุทยานราชภักดิ์ว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. ยังไม่ขอพูดอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการสอบสวนของกองทัพบก โดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่ผ่านมาในภาพรวมไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่ในภาพรวมอาจมีความเข้าใจที่หลากหลายตามที่มีกระแสข่าวในสังคม เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเพื่อความโปร่งใสจึงได้สั่งการให้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
“หากมีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้องโดยให้ดูผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่าเพิ่งไปพาดพิงหรือกล่าวหาบุคคลใด ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลเพราะทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ขอความกรุณาในการนำเสนอข่าวว่าอย่าไปพาดพิงองค์กร เพราะจะเป็นการทำลายกำลังใจของผู้ที่มีความตั้งใจทำงาน ซึ่งอุทยานราชภักดิ์สร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจ ความศรัทธา และความจงรักภักดีของประชาชนทุกคน ดังนั้นขอให้รอฟังผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ขออย่าไปขยายความจนทำร้ายความศรัทธาของประชาชนต่ออุทยานราชภักดิ์ให้ลดลง” พล.ต.คงชีพกล่าว
เมื่อถามคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมต้องใช้เวลาดำเนินการเท่าไหร่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า เมื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วก็ต้องรอการทำงานของคณะกรรมการก่อน โดยจะลงไปดูทุกเรื่องที่เป็นประเด็นทางสังคม ไม่ปล่อยให้เป็นประเด็นทางสังคมทิ้งไว้ค้างคาใจ ซึ่งจะลงไปตรวจสอบทั้งหมด ส่วนประเด็นการหักหัวคิวของโรงหล่อองค์บูรพกษัตริย์นั้นเป็นเรื่องของภาคเอกชน หากมีผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนและข้อกฎหมายได้
เมื่อถามว่า ถ้ามีข้าราชการหรือคนใกล้ชิดอดีต ผบ.ทบ.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวไว้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะทุกคนอยู่ภายใต้ของกฎหมาย กระทรวงกลาโหมพยายามดำเนินการให้โปร่งใสที่สุด ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของกระทรวงกลาโหม เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะตรวจสอบไปถึงอดีตผบ.ทบ.ด้วยหรือไม่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ต้องรอระยะเวลา เพราะตนไม่สามารถตอบแทนคณะกรรมการได้ เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการได้ทำงานก่อน ส่วนใครจะเป็นประธานคณะกรรมการในการตรวจสอบจะมีการแถลงให้ทราบอีกครั้ง
“ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วซึ่งกันและกัน เพราะการดำเนินการทุกอย่างพยายามทำให้ประเด็นต่างเกิดความคลี่คลาย อีกทั้งกองทัพมีระบบสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ไม่มีการปกป้องและช่วยเหลือกันแน่นอน เรื่องนี้ยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการดึงเกมของกระทรวงกลาโหม แต่จะไปห้ามความคิดของใครก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นขอความกรุณาสื่อมวลชนรอผลการสอบสวน ไม่ไปขยายความเพราะเกรงว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิดจนประชาชนขาดความศรัทธาต่อองค์กรและอุทยานราชภักดิ์ที่เราร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความศรัทธาและความตั้งใจจริง ใครที่ถูกกล่าวหาเขาจะเสียกำลังใจ ถ้ายังไม่มีหมายศาลก็อย่าเพิ่งไปพาดพิง” พล.ต.คงชีพกล่าว
เมื่อถามว่าในส่วนของโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จจะดำเนินการต่อหรือหยุดไว้ก่อน เพื่อรอคณะกรรมกรรตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จก่อนหรือไม่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า โครงการนี้ต้องเดินต่อให้เสร็จสมบูรณ์ เพียงแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ในการทำงาน
เมื่อถามว่า ทำไมอดีต ผบ.ทบ.ที่เกี่ยวข้องกับโครงการมาโดยตลอดไม่ออกมาชี้แจงต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ พล.ตงคงชีพกล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอดีต ผบ.ทบ.และต้องให้เกียรติท่านด้วย เมื่อถามย้ำว่าสมมติว่าผลการตรวจสอบออกมาแล้วมีการพาดพิงถึงใคร หรือใครเป็นผู้ต้องหาจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.คงชีพกล่าวว่า เรื่องนี้มีสองประเด็น คือ หากผลสอบอออกมาขั้นต้นออกมาว่ามีความผิดทางวินัยก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายหรือผิดกฎหมายอาญาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอาญาโดยไม่มีการละเว้น ดังนั้น ขอให้ทุกคนสบายใจอย่าได้กังวล ขอให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวตามทิศทางของข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า หากโยงใยไปถึงบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีและมีความเกี่ยวข้องจะต้องแสดงสปริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่าน แต่นายกรัฐมนตรีได้บอกแล้วว่าทุกคนอยู่ภายใต้ของกฎหมายฉบับเดียวกัน
เมื่อถามว่าจะเปิดโอกาสให้องค์กรอิสระหรือองค์กรภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเข้ามาร่วมตรวจสอบนั้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหา หากมีการชี้มูลใดๆ ตนเชื่อว่ากระทรวงกลาโหมมีความโปร่งใสพอที่จะให้ทุกองค์กรของรัฐเข้ามาตรวจสอบ ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล
ด้าน พล.อ.อุดมเดชกล่าวภายหลังการต้อนรับ ผบ.ทบ.อาเซียนที่เข้ามาเยี่ยมคารวะถึงกรณีโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่าทุกอย่างเรียบร้อยโปร่งใส ส่วนขั้นตอนต่อไปจะมีคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกต้องรอคณะกรรมการดำเนินการตามขั้นตอนก่อน แต่ในส่วนการตรวจสอบของกองทัพบกที่มี พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะเป็นประธานตรวจสอบนั้นเรียบร้อยไปแล้ว ส่วนการดำเนินการโครงการที่ยังค้างคาอยู่ได้มอบให้โฆษกกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ชี้แจง ยืนยันว่าโครงการนี้มีความโปร่งใสและเป็นไปตามการดำเนินการของทางคณะกรรมการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยกองบัญชาการกองทัพบก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานต้อนรับคณะผบ.ทบ.อาเชียนที่มาเยี่ยมคารวะที่กระทรวงกลาโหม โดยระหว่างรอคณะเดินทางมาถึงพล.อ.อุดมเดช พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ได้มายืนรอต้อนรับบริเวณหน้าห้องสุรศักดิ์มนตรี ทั้งสามคนได้พูดกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม