xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอลงชุมพรแล้วตรวจสอบเหตุชาวบ้านร้องเงินกลุ่มออมทรัพย์หาย 20-30 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ชุมพร หลังชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนเงินฝากกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน 20-30 ล้านบาท ถูกโกงจนหมดไม่สามารถเบิกจ่ายได้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นำโดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.ศันทนะ แก้วทับทิม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 และนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 ได้มอบหมายให้ นายคมกริช สินพูนภักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 ลงพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ 97/2555 ที่มีนางวรรณา ภู่เจริญ และชาวบ้านร้องเรียนกรณีถูกหลอกให้นำเงินเข้าฝากกับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านบางเกตุ หมู่ 16 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งมีประชาชนผู้เสียหายประมาณ 100 คน มาให้ข้อมูล ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

โดยชาวบ้านที่มาทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีอาชีพเกษตรกรชาวสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน สวนกาแฟ ได้มาให้ปากคำ และนำสมุดบัญชีเงินฝากสัจจะสะสมทรัพย์กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และสมุดเงินฝากกองทุนหมุนเวียนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านบางเกตุ ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งมีเงินฝากจำนวนตั้งแต่หลักหมื่น จนถึงเกือบล้านบาท ซึ่งฝากกันมานานนับ 10 ปี แต่ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

นางบุญช่วย อรัญตุด อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 16 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า กลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวมีอดีต ส.อบต.เป็นประธานกรมการ และเป็นผู้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2543 มีชาวบ้านสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมาก ซึ่งสมาชิกทุกคนจะต้องฝากเงินเข้าบัญชีสมุดเงินฝากสัจจะสะสมทรัพย์เดือนละ 100 บาท และอีกบัญชีเป็นสมุดเงินฝากกองทุนหมุนเวียนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ที่สามารถฝากได้ไม่จำกัดจำนวน เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มสามารถกู้ยืมไปลงทุนได้ ซึ่งของตนมียอดเงินฝากรวมทั้งหมดกล่าว 2 แสนบาท จนทุกวันนี้ไม่สามารถเบิกถอนได้เนื่องจากเงินไม่มี ทั้งประธานกรรมการคณะกรรมการ และผู้เกี่ยวข้องต่างปัดความรับผิดชอบกันวุ่นไปหมด

ด้านนางราตรี เทพดนตรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 16 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ตน และสามี รวมทั้งลูกชายได้ฝากเงินกับสมุดบัญชีเงินฝากทั้ง 2 ประเภท รวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาท ไม่สามารถเบิกถอนได้เช่นกัน โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เงินกองทุนกลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวเริ่มมีปัญหาเรื่อยมา เนื่องจากไม่มีเงินให้ชาวบ้านเบิกถอนได้ มีชาวบ้านหลายรายไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ท่าแซะ แต่นานนับปีคดีก็ไม่มีความคืบหน้า จนต้องรวมตัวกันร้องเรียนไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว

ขณะที่นายคมกริช สินพูนภักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นคดีพิเศษที่มีผู้กระทำความผิดหลายคนร่วมกันเป็นขบวนการ คดีมีความซับซ้อน และเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวมี นายนิกร พลวิจิตรโท เป็นประธานกรรมการ ร่วมกับพวกรวม 25 คน ในฐานะกรรมการผู้บริหาร และกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่หมู่ 16 ตำรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยเปิดให้สมาชิกนำเงินเข้าฝากได้ทุกวันที่ 1 ของเดือน มีทั้งบุคคลภายในภายหมู่บ้าน นอกหมู่บ้าน และตำบลข้างเคียงร่วมเข้าเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 500 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 20-30 ล้านบาท

แต่เมื่อชาวบ้านจะเบิกถอน และรับผลประโยชน์กลับไม่สามารถทำได้ โดยชาวบ้านผู้ร้องเรียนได้ระบุว่า ทางกรรมการได้มีการเบิกเงินไปใช้กันเองจนหมด ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนทั้งสองฝ่าย ส่วนผู้บริหารคณะกรรมการคนใดจะมีความผิดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรก็ต้องรอผลการสอบสวน และพยานหลักฐาน จึงจะแจ้งข้อกล่าวหา และจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น