xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” เมินใช้ พ.ร.ก.ให้ ปชช.ไปประชามติ ปัด “บิ๊กตู่” นั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์ชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
“ประวิตร” ประชุมสภากลาโหมเน้นดูแล ปชช.ภัยแล้ง สั่งแจกจ่ายน้ำ แย้มไม่ใช้ พ.ร.ก.ให้ ปชช.ไปประชามติ ใช้รณรงค์แทน ไม่ออก กม.พิเศษดูแล ย้ำข้อเสนอที่ 16 มุ่งปฏิรูป ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะดูแลช่วงเปลี่ยนผ่าน ปัดนายกฯ นั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์ชาติ ยันทหารเกาะติด “ปู” ไม่ได้ละเมิดสิทธิ แย้มไม่ชอบจะไม่ให้ใส่เครื่องแบบตาม ปัดมีขู่ รับโผทหารกลางปีตำแหน่งน้อย ขออย่ามโนมาจากสายไหน แจงคาร์บอมบ์ใต้ไม่เกี่ยวไอเอส

วันนี้ (29 ก.พ.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภากลาโหมว่า การประชุมครั้งนี้ตนจะเน้นย้ำผู้บัญชาการเหล่าทัพในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย และการดูแลความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งที่เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหมรับหน้าที่ในการแจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคทุกจังหวัดที่เกิดวิกฤตภัยแล้ง โดยให้ทุกเหล่าทัพในส่วนของทหารช่าง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการขุดบ่อบาดาล และแก้มลิง ซึ่งดำเนินการไปได้ 60% ตลอดจนการขุดลอกคูคลอง และกำจัดผักตบชวา ซึ่งทางกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกช่วยกันดำเนินการ

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงแนวคิดการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้ประชาชนไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่คิดว่าคงไม่ต้องออก พ.ร.ก. เพราะเราน่าจะใช้วิธีการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิผ่านสื่อ และหน่วยงานต่างๆ ที่จะต้องช่วยกัน ตนคิดว่าน่าจะยึดแนวทางนี้ดีกว่า ขณะนี้การเชิญชวนประชาชนให้ออกมาลงประชามติเราก็ดำเนินการโดยตลอด ซึ่งมีนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ดำเนินการอยู่ อีกทั้งหน่วยทหารทหารทั่วประเทศ และกระทรวงมหาดไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ก็ได้ช่วยกันรณรงค์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงมีการลงประชามติจะไม่มีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อมาดูแลความเรียบร้อย เพียงตนอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากๆ เพราะร่างรัฐธรรมนูญเป็นของทุกคน ไม่อยากให้นอนหลับทับสิทธิ์

เมื่อถามว่าทางรัฐบาล และคสช.ห่วงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นที่พอใจกับประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ดำเนินการอยู่เพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นที่สากล ส่วนข้อเสนอแนะของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้ง 16 นั้น ตนคิดว่าก็แล้วแต่ กรธ.ที่จะต้องรับไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่าน เรามีเพียงหน้าที่เสนอแนะ แล้วทางกรธ.ต้องดูข้อเสนอของทุกๆ ฝ่าย ไม่ใช่ข้อเสนอของ ครม.เท่านั้น

เมื่อถามว่าเป้าหมายข้อที่ 16 คืออะไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งร่างให้เป็นแบบสากลที่จะมีบทเฉพาะกาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ตามเจตนารมณ์คสช.ที่ต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศ ส่วนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็เป็นการวางกรอบกว้างๆ ไม่ได้เป็นการกำหนดเจาะจง เพียงแต่การดำเนินการดังกล่าวก็อยากให้มีหนทางการทำงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พยายามทำเรื่องนี้ ขณะเดียวกันที่ต่างประเทศก็มีเรื่องแบบนี้ที่ทำให้ประเทศของเขามีความเรียบร้อย อีกทั้งก็ไม่มีเรื่องตัดขากันแบบนี้ ซึ่งตนอยากให้ประเทศชาติมีความสงบ และอยากให้เดินหน้าต่อไปมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลในช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือไม่ รองนายกฯ ประวิตรกล่าวว่า คงไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งคณะอะไรขึ้นมา เพราะกลไกต่างๆ ก็จะอยู่ที่ ส.ว. ซึ่งจะเป็นแค่ช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้นที่จะทำให้การเลือกตั้ง ส่วน ส.ว.ก็แต่งตั้งกันไป เพื่อให้ทำงานด้วยกันได้ และในอนาคตจะมีการเลือกตั้งได้อย่างไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะเป็นประธานยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี อย่ามาถามแบบนี้ นายกฯ จะเสียหมด แล้วจะมีคนออกมาต่อต้าน ซึ่งขอให้เป็นหน้าที่ของ ส.ว.ดีกว่า นายกฯ จะไม่ยุ่ง เพราะเราตั้งใจที่จะทำให้ดี ผมขอให้ร่วมมือกันในเวลาปีกว่าที่เหลือ เพื่อให้ออกมาชัดเจนระหว่างฝ่ายที่เลือกตั้งกับฝ่ายที่แต่งตั้ง ส่วนจะเกิดวิกฤตในช่วงเปลี่ยนผ่านหรือไม่นั้น ผมคิดว่าถ้ากังวลเราคงไม่ทำแบบนี้ ซึ่งผมไม่กังวลว่าจะเกิดวิกฤตในช่วงเปลี่ยนผ่าน ในเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ดี ที่ผ่านมาเราทำมา 2 ปีแล้วก็ต้องช่วยกัน ผมหวังให้สื่อช่วยสร้างความรับรู้ให้ประชาชน เราไม่อยากไปตอบโต้ใคร อยากให้เห็นว่ารัฐบาล และคสช. รวมทั้งหน่วยงานต่างๆร่วมมือกัน ตลอดจนอดีตนักการเมืองก็ต้องช่วยกัน เราต้องค่อยๆ เปลี่ยน และค่อยๆ เดิน จะไปหักมุมทีเดียวคงไม่ได้”

เมื่อถามว่าหนักใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือเปล่า พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่หนักใจ และไม่กังวล เพราะรู้ว่านักการเมืองอยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามโรดแมป จะต้องยึดตามนี้จะไปย้อนกลับไปกลับมาไม่ได้

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่พอใจที่มีทหารติดตามไปทุกที่ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลว่า คงไม่ใช่ เพราะเจตนาของ คสช.ที่ส่งทหารไปเพื่อดูแลความคุ้มครองให้เกิดความสงบเรียบร้อย หากมีอะไรเกิดขึ้น คสช.ที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นตนย้ำว่าไม่ใช่เป็นการไปละเมิดสิทธิ ส่วนที่ทหารไปถ่ายรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น อาจเห็นว่าท่านสวย ก็ไม่เป็นไร อย่าไปคิดมากหรือวิตกกังวล ขอให้ใจเย็นๆ คสช.ไม่ได้ไปทำอะไร เราดูแลรักษาความปลอดภัย แม้แต่สื่อยังเข้าใจ คงจะมีแต่นายวรชัย ที่ไม่รู้ แต่ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ชอบ ต่อไปตนจะเปลี่ยนใหม่ไม่ใช้ทหารแต่งเครื่องแบบ เพราะท่านไม่ชอบ

เมื่อถามว่ากรณีที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ออกมาระบุว่ามีทหารไปข่มขู่ครอบครัว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมยืนยันว่าไม่มีการไปข่มขู่ และผมไม่ได้สั่งการ ขอรับรองได้ว่าจะไปทำไม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ไปละเมิดสิทธิ และไปคุกคาม เพราะไม่ใช่หน้าที่”

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลช่วงกลางปีว่า ขณะนี้ยังไม่เห็น แต่คาดว่าทางเหล่าทัพจะส่งรายชื่อมาช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ส่วนนโยบายในในการโยกย้ายก็เป็นปกติ ไม่มีอะไร เพราะช่วงกลางปีตำแหน่งน้อย และไม่ค่อยมีที่ว่าง อีกทั้งแต่ละเหล่าทัพมีการโยกย้ายเพียงไม่กี่คน ซึ่งตนคาดว่ามีตำแหน่งว่าง 6-7 ตำแหน่ง และไม่มีตำแหน่งสำคัญ อย่างไรก็ตามการโยกย้ายครั้งนี้ไม่มีความจำเป็นวางตำแหน่งผู้ที่จะมาเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพไว้ล่วงหน้า

“อย่าไปมโนว่าคนนั้น คนนี้เป็นลูกน้องบิ๊กป้อม เป็นลูกน้องบิ๊กตู่ หรือมาจากบูรพาพยัคฆ์ หรือวงษ์เทวัญ เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาทุกคนจะเลือกคนที่ไว้ใจ ไม่ได้เลือกว่าใครมาจากไหน ทุกคนเหมือนกันหมด เข้ามาแล้วต้องทำงานให้ประชาชน และประเทศชาติ ส่วนที่มองว่าอาจจะแต่งตั้งมารองรับสถานการณ์การเมืองช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั้น ผมคิดว่าต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถความอาวุโส มีความเหมาะสม และผลงานในอดีต แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดวง และวาสนา” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่อำเภอเมือง จ.ปัตตานี ว่าที่ผ่านมาเหตุการณ์คาร์บอมบ์ก็เคยเกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส เพราะรถที่นำไปใช้เป็นรถที่ถูกขโมยมา ถือเป็นความรุนแรงที่เกี่ยวกับการปกครอง เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำความเข้าใจต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแบล็คสวอน หรือหงส์ดำตามที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ระบุถึง


กำลังโหลดความคิดเห็น