กรมชลฯ ชง รบ.เดินหน้าเขื่อนแม่วงก์แก้ภัยแล้ง พร้อมของบฯ พัฒนาอ่างเก็บน้ำเสลา นายกฯ สั่ง ก.เกษตรฯ รวบรวมแนวคิดในอดีตมาศึกษา ส่วนงบฯ พัฒนาอ่างเก็บน้ำทับเสลา ให้กรมชลฯ รับไปดำเนินการ พร้อมวอนเอ็นจีโอร่วมมือรัฐศึกษาเขื่อนแม่วงก์ ขอนักการเมืองอย่าทำลายความหวัง ปชช. พ้อแค่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทำไมยอมกันไม่ได้ เหน็บคนบางคนไม่เคยนึกถึงประเทศ
วันนี้ (26 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุทัยธานี ต่อมาเมื่อเวลา 14.20 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและภัยแล้ง จ.อุทัยธานี โดยนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สภาพทั่วไปของ จ.อุทัยธานี มีพื้นที่โดยรวม 4.2 ล้านไร่ ครอบคลุม 4 ลุ่มแม่น้ำ คือ สะแกกรัง ท่าจีน แม่กลอง และเจ้าพระยา มีความต้องการใช้น้ำ 497 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และเพื่อให้เพียงพอต่อการเกษตรการอุปโภคบริโภค แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ อยากเสนอโครงการพัฒนาศักยภาพการพัฒนาโครงการเขื่อนแม่วงก์ ขนาดความจุเก็บกักน้ำ 258 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานในฤดูฝน 301,900 ไร่ ฤดูแล้ง 126,545 ไร่ คลอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด 6 อำเภอ 23 ตำบล 127 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับประโยชน์ 13,749 ครัวเรือน
พร้อมกันนี้ได้เสนอโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำทับเสลา โดยขอสนับสนุนงบประมาณขุดลอกลำน้ำห้วยทับเสลา และปรับปรุงอาคารผันน้ำ พร้อมเสริมคันสปริงเวย์อ่างเก็บน้ำทับเสลา โดยคาดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการชลประทานเมื่อการพัฒนาเต็มที่คิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ 284 ล้านบาท สามารถส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในเขต อ.ลานสัก อ.หนองฉาง อ.ทัพทัน อ.หนองขาหย่าง และ อ.เมืองฯ จ.อุทัยธานี รวมพื้นที่ได้รับประโยชน์ 166,957 ไร่ โดยนายกฯ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปรวบรวมแนวคิดทำเขื่อนแม่วงก์ที่ผ่านมานำมาศึกษา ส่วนโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำทับเสลาให้อธิบดีกรมชลประทานรับไปดำเนินการต่อไป
จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า กำลังให้ศึกษาอยู่ซึ่งมีส่วนหนี่งเป็นพื้นที่ป่าแต่อยู่รอบนอก ต้องไปดูว่าจะเกิดความเสียหายอะไรบ้าง และสิ่งที่เสียไปกับสิ่งที่ได้มาคือการเพิ่มพื้นที่กาาเกษตรและพื้นที่ชลประทานอีก 3 แสนไร่ มันคุ้มกันหรือไม่ ต้องหาข้อสรุปให้ได้ วันนี้ยังไม่มีคำตอบ เพียงแต่ให้ศึกษา และถ้าไม่ทำอย่างนี้จะมีวิธีการอื่น หรือพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ ในที่ประชุมได้พิจารณาทางเลือกที่ได้เสนอไปแล้ว โดยให้ไปศึกษาตามแนวทางที่เสนอมา แต่วันนี้ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่คัดสิน
“วันนี้ถ้าทุกคนยังบอกว่าไอ้นั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ มันก็จะไปไม่ได้ ต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่สั่งโครมๆ สร้างปลูก มันไม่ได้หรอก การศึกษาก็ต้องให้เอ็นจีโอมาร่วมศึกษาด้วย อย่าไปแยกอิสระ ต้องมาศึกษาร่วมกับกระทรวง จะได้เข้าใจกันเสียที ไม่อย่างนี้นก็ค้านกันนอกระบบอยู่อย่างนั้น ต้องเอาเข้าที่ประชุม ไม่ใช่ค้านกันเรื่อยไป ตัวเองไม่ได้อยู่ตรงนั้นแต่ก็ค้านกันไปเรื่อย แล้วคนในพื้นที่ก็ยากจนกันทุกวัน ไม่คิดกันบ้างหรือไง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า รัฐบาลทำทุกเรื่อง แก้ไขทุกปัญหา และไม่ได้มาอวดโอ้ว่าเก่งแต่อย่างใด แต่การแก้ปัญหาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ใน 1-2 ปีนี้ ทุกคนต้องช่วยกัน ทั้งประชาชน สื่อมวลชน คนระดับบน กลาง และล่าง ช่วยกันให้ความรู้แก่ประชาชน นักการเมืองเองก็ต้องช่วยกัน ขออย่ามาขัดแย้งกันอีกเลย ประเทศชาติย่อมสำคัญกว่าสิ่งอื่นเสมอ การพัฒนาประเทศด้วยยุทธศาสตร์ 20 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ยากจนเกินไป ใครจะทำก็ว่ามา เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า หากไม่มียุทธศาสตร์ดังกล่าวเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะเปลี่ยนแนวทางการเดินหน้าประเทศ ทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ นักการเมืองอยากทำให้คนรักอย่างไรก็ให้ไปทำ เรื่องของท่าน แต่ทำให้มันดี แต่เรื่องแค่นี้เหตุใดจึงยอมกันไม่ได้ ทำไมไม่ทำเพื่อประเทศชาติ รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเดินหน้าแบบนี้ ส.ส.ต้องนำปัญหาในพื้นที่ตัวเองเสนอต่อรัฐบาล นี่คือประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.ขึ้นไป โดยรัฐบาลจะเอาทุกปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข และวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้ดี มีความสอดคล้องกับความต้องการและปัญหาของประเทศ ถ้ามัวไปตีกันอยู่แบบนี้ทุกอย่างก็ไปไม่ได้
“ผมถามว่าเป็นอยู่แบบนี้ไม่สงสารประชาชนหรือ เห็นแววตาเขาหรือไม่ ทุกคนอาจจะเข้าใจว่าผมมีความสุขเพราะเห็นว่าชาวบ้านรัก ชอบ แต่นี่คือความกดดันที่ผมมี เพราะประชาชนคาดหวัง เราจะทำลายความหวังของเขาหรือไง เขาหวังมากี่รัฐบาลแล้ว เราอย่าไปทำลาย รัฐบาลนี้ไม่ได้มุ่งหวังอะไรจากเขาเลย มีแต่จะให้ แต่จะทำอย่างไรที่จะทำให้ทุกคนพอใจและมีความสุข เมื่องบประมาณมีเท่านี้ต้องแบ่งปัน จัดระเบียบ ทุกประเทศต้องเป็นแบบนี้ ไม่มีประเทศไหนจะมาตีกัน ประชาธิปไตยต้องไม่เป็นแบบนี้หรอก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ตนเดินทางไปต่างประเทศได้พบเจอกับคนไทยที่นั่นซึ่งเป็นคนเก่งและเขาบอกว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศไทย ทุกคนพร้อมช่วยเหลือประเทศอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับใครบางคนที่ไม่เคยนึกถึงประเทศ อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของบ้านเมือง ไม่มีข้อยกเว้น และขอประชาชนอย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะหากทุกคนท้อแท้ตนจะยิ่งท้อแท้ยิ่งกว่า ที่ยังทำงานได้ทุกวันนี้เพราะได้กำลังใจจากประชาชน ถ้าไม่มีกำลังใจเลย มีแต่ความขัดแย้งก็คงจะหมดกำลังใจที่จะทำงานต่อไป แต่ถึงอย่างไรกำลังใจก็จะไม่มีวันหมด เพราะตนทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง การทำเพื่อคนอื่นนั้นสามารถทำได้ร้อยแปดพันเรื่อง แต่ถ้าทำเพื่อตัวเองไม่นานก็จบ