รมต.สำนักนายกฯ แจงถกร่วมวิป 3 ฝ่ายปมปฏิรูป ทยอยส่งกลับความเห็นทุกกระทรวง เน้นเชื่อมงาน สปท.-รองนายกฯ เร่งลดเหลื่อมล้ำ จี้หน่วยงานรัฐเบิกจ่ายงบประมาณ ปรับ กม.แก้ยาเสพติด รับโดยรวมดีขึ้น เผย พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติยังไม่ถึงมือ รบ. ย้ำเป็นเรื่องที่ดี เป็นครั้งแรกที่แผนสมดุลกัน ขอเว้นวรรคไม่พูดปมร้อนผ้าเหลือง แย้มคุยสื่อภาพกว้างปัญหา
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ร่วมวิป 3 ฝ่าย ได้แก่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวได้ทยอยผ่านวิป 3 ฝ่ายแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะทยอยส่งกลับไปในแต่ละกระทรวงทุกสัปดาห์ ต่อจากนี้จะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างการปฏิรูปที่ สปท.เสนอมา และการขับเคลื่อนงานของรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน
นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นการเชื่อมโยงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการฯ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดขับเคลื่อนในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ บ้านประชารัฐ การจัดหาที่อยู่อาศัย การใช้จ่ายงบประมาณ การบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รายงานว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2559 ต้องการเร่งรัด โดยมีตัวเลขการเบิกจ่ายงบประมาณถือว่ากระทรวงมหาดไทยประสบความสำเร็จการเบิกจ่าย โดยได้เบิกจ่ายงบประมาณโครงการตำบละ 5 ล้านบาท ผูกพันแล้ว 19,000ล้านบาท จากงบฯ36,000ล้าน โครงการราย่อยหรือโครงการละ 1 ล้านบาท ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 80 โครงการกองทุนหมู่บ้าน ยื่นโครงการมาแล้ว 5 หมื่นล้านบาท จากงบฯ 6 หมื่นล้านบาท ทยอยอนุมัติไป 4.3หมื่นล้านบาทแล้ว สำหรับภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณ งบฯลงทุนต่างๆ ได้ขอความร่วมมือทุกส่วนราชการเร่งรัดเรื่องงบลงทุน เป้าหมายงบฯดำเนินงานปีนี้ต้องไปที่ร้อยละ 98 เป็นอย่างน้อย ส่วนงบฯลงทุนมีการใช้จ่ายน้อยเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น จึงได้กำชับในที่ประชุมให้เร่งรัดการใช้จ่าย
นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า ยังมีการหารืองานด้านบริหารราชการแผ่นดินกับงานด้านการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากประเด็นปฏิรูปจะทยอยผ่านวิป 3 ฝ่าย ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะมีทุกสัปดาห์จะถูกส่งกลับไปที่กระทรวง จะเชื่อมโยงกันระหว่างประเด็นปฏิรูปที่สปท.เสนอมา กับการขับเคลื่อนงานของรองนายกฯทั้ง 6 คน จึงได้ทำความเข้าใจในที่ประชุมเพื่อให้ไปช่วยเร่งรัดขับเคลื่อน เพราะมติครม.ให้กขร.เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนให้รองนายกฯด้วย รวมทั้งมีการชี้แจงการปรับปรุงกฎหมายยาเสพติด 7 ฉบับที่จะมารวมให้เหลือฉบับเดียวซึ่งอยู่ในแผนกฎหมายกลุ่มที่ 1 ต้องทำให้เสร็จภายในโรดแม็ปรัฐบาล สำหรับร่างพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ขณะนี้สปท. ยังไม่ส่งมาถึงรัฐบาล แต่เร็วๆนี้สปท.จะส่งพ.ร.บ.มาให้รัฐบาล 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.พ.ร.บ.การพัฒนาการท่องเที่ยว และ 3.ร่างพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ และเมื่อได้รับมาแล้วจะนำเข้าที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายต่อไป
นายสุวพันธุ์ ยังกล่าวว่าได้มีการพูดคุยการเชื่อมโยงปฏิรูปประเทศ รวมทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีประเด็นสำคัญกำลังแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ฉบับ ถ้าเป็นไปได้จะนำมารวมกันให้เหลือเป็นฉบับเดียว โดยจะอยู่แผนกฎหมายกลุ่มที่ 1 ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จตามโรดแมปของรัฐบาล ขณะนี้ร่างฯ เสร็จแล้ว กำลังอยู่ในการพิจารณาของกระทรวงยุติธรรม คิดว่าโดยรวมการจับกุมยาเสพติดถือว่าการค้าลดลง เพราะกลไกความร่วมมือการทำงานเชิงรุก และบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในมิติเชิงป้องกัน ปราบปราม และบำบัดมีมากขึ้น
นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ขณะนี้สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ยังไม่ส่งมาถึงรัฐบาล แต่เร็วๆ นี้ สปท.จะส่ง พ.ร.บ.มาให้รัฐบาล 3 ฉบับ คือ 1. พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2. พ.ร.บ.การพัฒนาการท่องเที่ยว และ 3. ร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ และเมื่อได้รับมาแล้วจะนำเข้าที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายต่อไป
“ผมคิดว่าเรื่องยุทธศาสตร์ชาติเรื่องที่ดีที่การทำงานจะได้เดินตามกรอบกว้างๆ โดยแผนทุกๆ 5 ปีจะสอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผน 5 ปีของสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย ผมคิดว่าข้อดีของยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญคือ เดิมแผนต่างๆที่มีเกี่ยวกับประเทศไม่เลยลงใน พ.ศ.เดียวกันได้ แผนบางอัน 4 ปี 5 ปี และ 6 ปี แผนการทำงานจะเหลื่อมกันไปมาตลอด แต่รัฐบาลนี้จะทำให้ทุกอย่างลงล็อคได้ ถือเป็นครั้งแรกที่ทุกแผนจะสมดุลกัน คือเริ่มต้นและจบในปีเดียวกัน ซึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติทุกแผนต้องไปด้วยกัน ที่สำคัญมีแผนปฏิรูปประเทศเข้ามาเชื่อมโยงด้วยถือเป็นสิ่งที่ดี”
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดสรรคลื่นความถี่ของ กสทช.
นายสุวพันธุ์ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีความวุ่นทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการชุมนุมของพระสงฆ์ว่า ขอไม่พูดเรื่องนี้ไปสักระยะหนึ่งจนกว่าจะมีประเด็นที่จะให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนได้ ซึ่งมีแนวคิดว่าจะจัดพูดคุยกับสื่อมวลชนถึงภาพกว้างทุกเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทั้งหมดทางพระพุทธศาสนา