ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ค้านข้อเสนอคณะรัฐมนตรีแบ่งการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง ชี้ชัดต้องการสืบทอดอำนาจ เตือนสติไม่ควรใช้วิธีไม่สง่างาม ให้ดูบทเรียนพฤษภา 35 หวั่นซ้ำรอยรุ่นพี่ ชี้ที่ให้อยู่ต่อเพราะต้องการแก้ปัญหาแต่กลับหลงทาง แถมการปฏิรูปประเทศถอยหลังลงคลอง แนะพูดกับประชาชนตรงไปตรงมาอย่าให้มีโกง และแก้ไขความขัดแย้งภายใน 1 ปี
วันนี้ (21 ก.พ.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงข้อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยเฉพาะข้อ 16 ที่ให้แบ่งการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ว่า ข้อเสนอของ ครม.ดังกล่าวสร้างความกังขา เคลือบแคลงให้สังคมไทยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการสืบทอดอำนาจ ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถแปรเจตนาเป็นอื่นไปได้ จึงใคร่เตือนสติว่า หาก คสช.ต้องการอำนาจในการบริหารประเทศต่อไปก็ไม่สมควรใช้วิธีการไม่สง่างามแบบนี้ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ โดยประชาชนต้องมีส่วนร่วมคิดเห็นและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และโดยหลักการแล้วรัฐธรรมนูญไม่สามารถเขียนขยักขย่อนเพื่อการรื้อหรือฉีกทิ้งอีก นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญต้องกำหนดการอยู่ร่วมกันของประชาชนทุกภาคส่วนได้อยู่อย่างสันติ มีสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค
“จึงเห็นชัดว่า คสช.ไม่สุจริตใจที่จะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนคนไทย อยากเตือนสำนึกว่า การไม่พูดความจริงต่อประชาชนด้วยเหตุผลที่มโนเอาเอง อย่าคิดว่าประชาชนโง่ ให้ดูบทเรียนเปรียบเทียบในปี 2535 หลังการรัฐประหารของ รสช. บุคคลที่ให้คำแนะนำ วางแผน คนร่างรัฐธรรมนูญ ล้วนเป็นตัวละครเดียวกัน สถานการณ์การยึดอำนาจเช่นเดียวกัน เริ่มไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชน เฉกเช่นกัน ความกังขาและกังวลว่าคณะรัฐประหารชุดนี้มีโอกาสจะเดินซ้ำรอยเดิมรุ่นพี่ที่ประสบชะตากรรมอย่างน่าสมเพช” นายอดุลย์กล่าว
นายอดุลย์กล่าวว่า หลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 คสช.อยู่ในอำนาจเกือบ 2 ปีกว่า หากเดินตามโรดแมปก็ 3 ปีกว่า ถือว่าเป็นการใช้อำนาจพิเศษที่นานเกินพอ ที่อยู่ได้นานขนาดนี้ก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังให้โอกาส คสช.ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและปฏิรูปประเทศ แต่ความจริงแล้ว คสช.กำลังหลงทาง ส่วนภารกิจสำคัญก็ยังทำไม่สำเร็จ โดยปฏิเสธข้อเสนอคณะกรรมการศึกษาแนวทางทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่าจะสร้างความปรองดองคนในชาติได้
ขณะที่การปฏิรูปประเทศที่ทุกฝ่ายคาดหวังก็กำลังถอยหลังลงคลอง ที่ไปเพิ่มอำนาจรัฐเหนืออำนาจประชาชน และยังสร้างกลไกคุมประเทศอีก 20 ปี โดยที่เรื่องสำคัญๆ ที่สามารถทำได้เลยกลับไม่นำพา อย่างไรก็ตาม หาก คสช.อยากจะอยู่ในอำนาจต่ออีกกี่ปีก็ใช้วิธีที่ถูกต้อง โดยต้องบอกประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศอย่างตรงไปตรงมาเพื่อความสง่างาม และต้องอย่าให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น แล้วรับผิดรับชอบแก้ไขความขัดแย้งของสังคมไทยให้หมดไปภายใน 1 ปี โดยจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลช่วยชาติขึ้นมาก็ได้ ซึ่งต้องเปลี่ยน ครม.ทั้งคณะ ดึงมืออาชีพจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันช่วยชาติ เมื่อภารกิจเสร็จแล้วจึงมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนกลับสู่ภาวะปกติ คสช.จะได้ลงจากอำนาจอย่างสมศักดิ์ศรี