อดีต สปช.หยันแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ไม่ประหลาดใจวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ระบุถ้าไม่โกงไม่ผิด ใครจะมาเอาผิดเอาโทษอะไรได้ ชี้ถ้าต้องเอาใจก็ร่างให้นักการเมืองชั่วเข้าสู่อำนาจโดยง่าย
วันนี้ (21 ก.พ.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ 4 ข้อถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ไม่เป็นประชาธิปไตย และเป็นร่างที่กีดกันพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ใช่เรื่องประหลาดใจ เพราะคนของพรรคเพื่อไทยไม่สามารถเข้าใจได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญใดๆ ในโลกล้วนไม่สามารถมุ่งกำจัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดเป็นการเฉพาะได้ แต่คนร่างสามารถร่างเพื่อกำจัดพฤติกรรมฉ้อฉลได้ ส่วนพฤติกรรมนั้นจะเข้าซองพรรคไหนหรือไม่ ย่อมขึ้นกับบุญกรรมของพรรคนั้นที่กระทำไว้ต่อแผ่นดิน ก็ถ้าไม่โกงไม่ผิด ใครจะมาเอาผิดเอาโทษอะไรได้เล่า
“ต่อร่างรัฐธรรมนูญที่จะนำไปสู่การลงประชามติ ไม่ว่าจะเป็นร่างของ อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ หรือแม้แต่ร่างฉบับ อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ หรือฉบับอื่นใดที่อาจจะนำมาปรับแก้จากร่างเก่า หรือแม้จะเขียนขึ้นใหม่อีก ล้วนแล้วแต่ต้องร่างขึ้นเพื่อแก้วิบากกรรมอันเป็นมรดกบาปจากฝีมือของฝ่ายการเมือง” นายประสารกล่าว
นายประสารกล่าวต่อว่า หากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องร่างเพื่อเอาใจนักการเมือง ก็จะต้องร่างให้นักการเมืองชั่วเข้าสู่อำนาจโดยง่าย ต้องร่างให้ถึงโกงแล้วยังไม่ถึงที่สุดของคำพิพากษาก็อย่ามาห้ามเข้าสู่วงการเมือง และถ้าโกงก็อย่ามาตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบก็ไม่ควรเข้มงวด ถ้าทำนโยบายประชานิยมก็ไม่ต้องมายุ่ง ถ้ารัฐบาลจะทำอะไรที่ประชาชนชอบก็อย่ามาขวางเพราะเขามาจากประชาชนแม้ว่าโครงการนั้นจะสามานย์ก็ตาม และเมื่อเขาอยู่ในอำนาจแล้ว ประชาชนควรอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เขาบริหารประเทศไป 4 ปีค่อยเลือกตั้งใหม่ เป็นโอกาสให้แก่การโกงรอบใหม่
ทั้งนี้ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญต้องยอมให้กับความสะดวกได้สบายดีของฝ่ายการเมืองแล้วละก็อย่ามีรัฐธรรมนูญเลย ดังนั้นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจึงไม่มีทางเลือกอื่นที่จะต้องทำให้รัฐธรรมนูญมีผลเปลี่ยนแปลงการเมืองเก่าไปสู่การเมืองโฉมหน้าใหม่ได้อย่างเป็นจริง กล่าวคือยืนหยัดทำให้รัฐธรรมนูญยึดโยงกับบทบัญญัติในมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2557 ที่สกัดคนชั่ว ต้อนรับคนดี ขณะเดียวกันให้มีหลักประกันในสิทธิเสรีภาพและสิทธิชุมชนของประชาชน เพื่อให้ชาวบ้านมีอำนาจต่อรองกับรัฐและทุนได้อย่างมั่นใจ