อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ชี้การตั้งคณะกรรมการปรองดอง สันติสุข ไม่มีประโยชน์ เพราะตั้งขึ้นมา 5-6 ชุดแล้ว ประชุมเป็นพัน ใช้งบประมาณไปมาก แนะนายกฯ ใช้มาตรา 44 นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมปราศจากอาวุธ ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา คดีทุจริต เผาบ้านเผาเมือง ปล้นและทำลายทรัพย์
วันนี้ (11 ม.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมตั้งคณะกรรมการปรองดองหรือสันติสุขว่า ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการด้านการปรองดองขึ้นมา 5-6 ชุดแล้ว ประชุมกันไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง ใช้งบประมาณไปมากมาย เรียกว่าคุยกันจนหมดไส้หมดพุง คุยเรื่องซ้ำซากจนไม่รู้จะคุยอะไรกันแล้ว กรรมการชุดใหม่ก็หนีไม่พ้นที่จะขุดเรื่องเก่ามาคุยกันอีก บทสรุปที่ทุกคณะเห็นตรงกันก็คือต้องยึดหลักยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ กล่าวคือจะดำเนินการอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงหลักนิติรัฐนิติธรรมที่จะนำมาใช้ในระยะเปลี่ยนผ่านไปสู่ความปรองดอง จะกระโดดข้ามหลักกฏหมายไม่ได้ ดังที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งให้บทเรียนนำสู่วิกฤตให้เห็นมาแล้วเมื่อปี 2556
ทั้งนี้ บทสรุปที่ตรงกันของทุกภาคส่วน ณ เวลานี้ก็คือ การนิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนคนเล็กคนน้อยที่เข้าร่วมชุมนุมอย่างบริสุทธิ์ใจโดยปราศจากอาวุธที่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา ไม่เกี่ยวคดีทุจริต ไม่เกี่ยวคดีเผาบ้านเผาเมือง ไม่เกี่ยวคดีปล้นและทำลายทรัพย์ ในขอบเขตนี้หากจะมีการนิรโทษกรรม ก็เชื่อว่าทุกพรรคการเมือง, กปปส., นปช. และภาคส่วนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เห็นด้วยที่จะให้เกิดขึ้นได้ในเวลานี้ เป็นนิรโทษกรรมต้นซอยที่ทำได้ทันทีโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2557 นี่เป็นการวางอิฐก้อนแรกแห่งบ้านสันติภาพ อย่าลืมว่าสิ่งที่ปรารถนาในวันนี้ไม่ใช่การสนทนาซ้ำซากเรื่องการปรองดอง แต่เป็นการปรองดองภาคปฏิบัติต่างหาก