รองนายกฯ เตรียมฟังความเห็นวิธีการแก้ปมผ้าเหลือง ย้อนพูดแต่ปัญหา แจงคณะสงฆ์แค่ส่วนหนึ่งที่ขอเร่งตั้งสังฆราชใหม่ รับยังไม่ใกล้ถึงทางออก ชี้เรื่องที่ต้องกราบบังคมทูล รัฐนิ่งเฉยไม่ได้ เผยดีเอสไอกำลังสอบ “สมเด็จช่วง” ปมรถหรู เล็งฟัน ขรก.เอี่ยว แจง ครม.เสนอใช้ รธน.สองขยักป้องกันวิกฤต กรธ.ปรับหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องมีทางแก้ปัญหาช่วงเปลี่ยนผ่าน ยันไม่ใช่ใบสั่ง คสช. ไร้ คปป.แน่
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนและนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปรับฟังความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายว่าวิธีการจะทำตามข้อเสนอตัวเองต้องทำอย่างไรให้เรื่องสงบเรียบร้อย เนื่องจากส่วนใหญ่พูดแต่ปัญหาและผลของปัญหาโดยไม่บอกวิธีการ คนที่เสนอต้องช่วยคิด หากรัฐบาลคิดเองคงทำไปนานแล้ว วันนี้ข้อเสนอมีเยอะแต่เป็นไปไม่ได้ ส่วนผู้ที่ออกมาเรียกร้องให้เร่งตั้งพระสังฆราชพระองค์ใหม่ไม่อยากให้คำว่าคณะสงฆ์ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะมีคณะสงฆ์ส่งความเห็นมายังรัฐบาลและเสนอทางออกแบบครูบาอาจารย์อย่างสร้างสรรค์ก็มี บางท่านเป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่แนะนำมา ส่วนเนื้อหาไม่ควรพูดตรงนี้ รอไปพูดในสถานที่เวทีและบุคคลที่ควรจะต้องพูด ซึ่งนายสุวพันธุ์ทำอยู่ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 59
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ใกล้ถึงทางออกของปัญหาแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยัง เพราะไม่เหมือนเรื่องอื่นที่อยู่ในอำนาจรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งหมด แต่เกี่ยวพันหน่วยงานอื่น รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ยิ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามายิ่งกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องทำให้ยุติในระดับหนึ่ง ไม่ทำให้มีปัญหาที่ค้างคา เพราะเรื่องที่รัฐบาลต้องนำความกราบบังคมทูลฯ หากมีข้อโต้แย้งคัดค้านขึ้นมารัฐบาลต้องมีวิธีการดำเนินอีกแบบ ไม่เหมือนเรื่องปกติ จะส่งไปแล้วรัฐบาลจะนั่งนิ่งเฉยๆ แล้วรอไม่ได้
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เหตุใดสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์จึงไม่ออกมาชี้แจง หลังดีเอสไอแถลงผลตรวจสอบรถคลาสสิกยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น 300 บี ทะเบียน ขม 99 ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นำเข้าผิดกฎหมาย นายวิษณุกล่าวว่า ทราบว่าทางดีเอสไอจะสอบถามท่านอยู่ เพราะบางข้อคนอื่นตอบแทนไม่ได้ และปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้ารถนั้นตนกำลังเข้าไปดูในส่วนของข้าราชการที่ปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้น
นายวิษณุยังกล่าวถึงข้อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกลไกการแก้ปัญหาบ้านเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่า ไม่มีอะไรต้องสงสัย เพราะเป็นเพียงข้อเสนอไม่ใช่การแนะนำ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อมีการถกเถียงกันในเรื่องที่หลายคนเป็นห่วง รัฐบาลเองต้องการให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 มาเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหา โดยเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อตอบโจทย์ในปัญหาเหล่านั้นให้ได้ ให้ กรธ.คิดหาวิธีการปัญหาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาตรการเหล่านี้มาอยู่ในบทถาวรของรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อปัญหาไม่เกิดขึ้นบทบัญญัติดังกล่าวก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้
“แต่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน จึงเสนอให้ กรธ.เขียนให้เป็น 2 ภาค คือ 1. ส่วนที่จะต้องใช้ต่อไปอีกยาวนานแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเวลาเท่าใด 2. ส่วนที่จะใช้เป็นการเฉพาะกิจ ชั่วคราว ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ฉะนั้น จึงกำหนดกฎเกณฑ์เหล่านี้ไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ แต่กลไกจะออกมารูปแบบใดยังคิดไม่ออก เพราะเบื้องต้นได้ให้กรธ.รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ซึ่งมาตรการนี้จะเขียนเพื่อล็อกไว้เป็นระยะยาวไม่ได้ แต่ยืนยันว่า ครม.ไม่ได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการหรือหน่วยงานใดเป็นพิเศษเพื่อเข้ามาดูเรื่องนี้ หากเสนอเช่นนั้น ครม.ก็จะบอก กรธ.ไปตรงๆ ก็ได้ โดยข้อเสนอดังกล่าว กรธ.จะดำเนินการหรือไม่ก็ได้ และดูเหมือนว่า กรธ.จะไม่ทำด้วยซ้ำไป” นายวิษณุกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า ข้อเสนอของ ครม.ทั้ง 16 ข้อ กรธ.จะแก้ไขปรับปรุงตามหรือไม่ก็ได้ แต่เชื่อว่า 13 ข้อแรกที่เสนอไปนั้น กรธ.จะแก้ไขตาม เพราะจะทำให้รัฐธรรมนูญออกมาดูดีขึ้น เนื่องจาก ครม.เห็นปัญหาจริงทั้งเรื่องการเพิ่มเติมสิทธิเสรีภาพ การแก้ไขถ้อยคำที่ไม่มีความชัดเจนในการบริหารราชการแผ่นดิน เติมเรื่องการพัฒนาให้กับทหาร แต่ในข้อเสนอที่ 14-16 นั้นเป็นเพียงคำแนะนำ หาก กรธ.เห็นว่าเนื้อหาในร่างฯครอบคลุมอยู่แล้วอาจไม่แก้ตามก็ได้ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบแนวคิด กรธ.ว่าเป็นอย่างไร ครม.เองก็ไม่มีการส่งสัญญาณว่าต้องปรับแก้ตาม อย่างไรก็ตามจะให้รัฐธรรมนูญถูกใจทุกคนคงไม่ได้ รัฐธรรมนูญร่างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนใช้ ประชาชนเองก็มีหลายกลุ่ม ที่ทั้งค้านและเห็นด้วย และมีนักการเมืองทั้งที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ต่างออกมา ใครพูดเสียงดังก็จะทำให้คนเชื่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอ ครม.ในการแก้วิกฤตช่วงเปลี่ยนผ่านกลัวจะถูกมองว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวหากจะมีจริง กรธ.ต้องชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ซึ่งช่วงเวลาแก้ไขปัญหาที่แบ่งเป็น 2 ช่วงนั้นยังไม่รู้ว่าจะยาวนานเพียงใด เราแค่เสนอให้แก้ไขปัญหาตามเหตุการณ์และโอกาส ไม่มีใครคิดออกว่าปัญหาจะมีหรือไม่ ที่เสนอเช่นนั้นเพราะเรามองว่าในร่างฯ ไม่มีกลไกแก้ปัญหาในช่วงวิกฤต เราเองก็ไม่ไว้ใจเหตุการณ์ แต่ไม่ใช่ไม่ไว้ใจนักการเมือง แต่เมื่อเป็นห่วงก็ต้องทำ ต้องดูว่าเราเคยมีปัญหาเช่นไรในอดีต ข้อเสนอดังกล่าวเป็นความห่วงใยของรัฐบาล ขณะที่นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงมาหลายครั้งแล้ว
รองนายกฯ ย้ำว่า นี่ไม่ใช่ข้อเสนอของ คสช. ถ้า คสช.จะสั่งก็จะพูดกันตรงๆ ไม่จำเป็นต้องออกข่าว ยืนยันว่า คสช.ไม่ได้เสนอ สื่อมวลชน ณ ขณะนี้ เขียนอยู่ 2 แนว คือ 1. บอกว่าเป็นใบสั่งและ 2. ประมาณว่ายุให้ คสช.สั่ง ตนบอกเลยเราไม่ได้เสนอว่าจะให้มีองค์กรเช่น คปป. เพราะถ้าใช่ ครม.คงเขียนให้ชัดไปแล้ว ไม่มีการแอบอ้อมใดๆ ทั้งสิ้น เราเสนอเพื่อแก้ปัญหาซึ่งมีหลายวิธี โดยไม่จะเป็นต้องมี คปป.หรืออะไรทั้งนั้น