xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย” เล็งปรับแก้ประเด็นให้ศาล รธน.วินิจฉัยประเพณีการปกครองฯ ตามข้อท้วงติง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

มีชัย ฤชุพันธุ์ (แฟ้มภาพ)
ประธาน กรธ.เตรียมปรับแก้ให้ศาล รธน.วินิจฉัยประเพณีการปกครอบในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามข้อท้วงติงนักวิชาการ แย้มยึด ม.5 ใน รธน.ชั่วคราวเป็นหลัก เป็นไปไม่ได้ใช้โมเดล สนช.แก้วิกฤต

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรธ.อยู่ในระหว่างการประมวลความคิดเห็นที่ส่งมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คณะรัฐมนตรี และประชาชน ก่อนที่จะพิจารณาว่าปรับปรุงเนื้อหาในส่วนใดได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ตามที่มีนักวิชาการห่วงใยว่าการนำบทบัญญัติเกี่ยวกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 207 ไม่มีความเหมาะสมนั้น ทางคณะ กรธ.กำลังจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไขให้เกิดความเหมาะสมต่อไป

สำหรับแนวทางการแก้ไขเนื้อหาดังกล่าว คณะ กรธ.จะนำมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาพิจารณา ทั้งนี้ เจตนารมณ์เดิมของคณะ กรธ.ที่บัญญัติไว้ในหมวดศาลรัฐธรรมนูญ คือ ต้องการให้มีองค์กรเข้ามาทำหน้าที่ชี้ขาด ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเป็นปัญหาเหมือนที่ผ่านมา แต่การย้ายกลับมาไว้ที่เดิมจะเป็นการบอกว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาหน่วยงานไหนจะมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำข้อเสนอของ สนช.ที่ให้รัฐสภาหรือวุฒิสภาลงมติว่ากรณีใดเป็นวิกฤตที่ต้องให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญเรียกผู้นำเหล่าทัพมาหารือเพื่อแก้ไขปัญหามาไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้าย นายมีชัยกล่าวว่า คงเป็นไปได้ยาก เพราะหากต้นตอของวิกฤตดังกล่าวเกิดมาจากที่รัฐสภาเองจะทำอย่างไร ในความเป็นจริงเคยปัญหาและมีการเชิญผู้นำเหล่าทัพมาแล้วแต่ต่างฝ่ายก็บอกว่าไม่ได้เป็นวิกฤติ จึงไม่รู้ว่าจะออกแบบอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้พยายามจะอุดช่องโหว่เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤต

ส่วนที่มีกระแสข่าวที่ระบุว่าคณะ กรธ.กำลังพิจารณาว่าจะให้ ส.ว.มาจากการสรรหาทั้งหมด นายมีชัยกล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณา เพราะตอนนี้กำลังพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในส่วนแรกอยู่ ยังไม่ถึงมาตราที่เกี่ยวกับวุฒิสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2557 ระบุว่า “เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทําการนั้นหรือวินิจฉัย กรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ประเพณีการปกครองดังกล่าวต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้”

“ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยกรณีใดตามความในวรรคหนึ่งเกิดขึ้นในวงงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด หรือเมื่อมีกรณีที่เกิดขึ้นนอกวงงานของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี ศาลฎีกา หรือศาลปกครองสูงสุด จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดก็ได้ แต่สําหรับศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดให้กระทําได้เฉพาะ เมื่อมีมติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาหรือที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด และเฉพาะในส่วน ที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี”


กำลังโหลดความคิดเห็น