120 ล้าน ช่วย กปปส. ไม่พอ พม. เล็งชง ครม. ของบเพิ่ม จ่ายเงินเยียวยาเหยื่อความรุนแรงการเมืองปี 56 - 57 คาดเหยื่อม็อบพุ่งเกิน 868 ราย เปิดลงทะเบียน 17 ก.พ.- 17 มี.ค. “อดุลย์” แจง 3 เกณฑ์ ให้อำนาจอนุกรรมการฯตรวจสอบเอกสาร ว่า มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ คาด เมษายนนี้ได้เงินชุดแรก เผย กระทรวงศึกษาธิการ มีแผนจ่าย “เงินทุนการศึกษารายปี” แก่บุตรผู้เสียชีวิต - ผู้ทุพพลภาพ
วันนี้ (15 ก.พ.) มีรายงานว่า ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. แถลงข่าวโครงการช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี 2556 - 2557 (ชีวิตและร่างกาย) มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ และครอบครัว รวมทั้งประชาชนได้รับรู้ถึงนโยบายรัฐบาลในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในสังคมไทย กระบวนการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล และเพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ และครอบครัว สามารถเข้าถึงสิทธิและโอกาสในการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐได้โดยทั่วถึง
พล.ต.อ.อดุลย์ แถลงว่า พม. จะเปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงปี 2556 - 2557 ประกอบด้วย เหตุการณ์การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2556 เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเหตุการณ์ทางการเมืองอื่น ๆ จนกระทั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าปกครองประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 โดยเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 17 ก.พ.- 17 มี.ค. นี้ ที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เวลา 09.00 - 16.00 น. เว้นวันหยุดราชการ
โดยในกรุงเทพมหานครสามารถรับคำร้องลงทะเบียนได้ที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนกรุงเกษม แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ส่วนภูมิภาคสามารถรับคำร้องลงทะเบียนได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด (สนง.พมจ.) ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนก่อนมายื่นเอกสารลงทะเบียนผู้มีสิทธิ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dsdw.go.th และ www.psc.opm.go.th หรือสอบถามรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม oscc โทร. 1300 ตลอด 24 ชม. สำหรับกรณีญาติผู้เสียชีวิต และกรณีผู้ทุพพลภาพ สามารถติดต่อแจ้งความจำนงให้เจ้าหน้าที่จัดบริการพาหนะไปรับ - ส่ง ณ ที่พักอาศัยได้ เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร
“เบื้องต้นได้ประมาณการผู้ได้รับผลกระทบมี 868 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 28 ราย บาดเจ็บ 840 ราย ซึ่งได้ขออนุมัติกรณีใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน 120 ล้านบาท โดยผู้ยื่นคำร้องจะต้องยื่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาใบมรณบัตร ใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น เอกสารแสดงว่าผู้มีสิทธิมีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต และรายงานประจำวัน ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิรับเงินเยียวยานั้น จะต้องไม่มีคดีทางการเมือง ยกเว้นแต่คดีสิ้นสุดแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะจ่ายเงินก้อนแรกได้วันที่ 1 เม.ย. นี้” รมว.พม. กล่าว และว่า สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ นั้น แบ่งเป็น
1. กรณีการเสียชีวิต จะได้รับเงินเยียวยา 4 แสนบาท เงินยังชีพรายเดือนให้แก่บุตรของผู้เสียชีวิตที่กำลังศึกษาอยู่ โดยอนุบาลและประถมศึกษารับ 1,000 บาทต่อเดือน เด็กเล็ก กศน. มัธยมศึกษารับ 1,500 บาทต่อเดือน และอุดมศึกษา 2,500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินทุนการศึกษารายปีแก่บุตรผู้เสียชีวิตจะเป็นส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ
2. กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินเยียวยา 2 แสนบาท เงินยังชีพรายเดือนให้แก่ผู้พิการจนกว่าจะเสียชีวิตเดือนละ 3,000 บาท เงินยังชีพรายเดือนแก่บุตรของผู้ทุพพลภาพที่กำลังศึกษาอยู่ โดยได้รับในอัตราเดียวกับกรณีเสียชีวิต แต่หากใบรับรองแพทย์ระบุว่าต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยก็จะได้รับเงินฟื้นฟูสมรรถภาพอีก 2 แสนบาท ส่วนเงินทุนการศึกษารายปีของบุตรผู้ทุพพลภาพเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ
3. กรณีบาดเจ็บ แบ่งเป็นบาดเจ็บสาหัส คือ ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ในฐานะผู้ป่วยในนานเกิน 20 วัน หรือแพทย์ลงความเห็นว่าจะต้องได้รับการรักษาตามปกติเกินกว่า 20 วัน ได้รับเงินเยียวยา 1 แสนบาท บาดเจ็บเป็นผู้ป่วยในไม่เกิน 20 วัน รับเงินเยียวยา 6 หมื่นบาท และบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ต้องนอนใน รพ. รับเงินเยียวยา 2 หมื่นบาท
โดยการพิจารณาให้เงินเยียวยาต่าง ๆ แก่ผู้มียื่นคำร้องนั้นจะมีคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี 2556 - 2557 เป็นผู้พิจารณาเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ว่ามีสิทธิได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ทั้งนี้ คาดว่า หลังจากเปิดรับลงทะเบียนจำนวนผู้มีสิทธิรับเงินเยียวยาอาจเพิ่มจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งหากเงินเยียวยาไม่พอก็จะขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป สำหรับผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจะมีการนัดหมายให้มารับเช็คเงินเยียวยาต่อไป