นายกรัฐมนตรีรับมอบดอกป็อปปี้เนื่องในวันทหารผ่านศึก ชี้ต้องสร้างคนให้รู้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นพวกขยะมันเยอะ ฉุนสื่อสวนกองทัพขุดแหล่งน้ำในพื้นที่ไม่จำเป็น สั่งกรมชลฯ แยกพื้นที่แหล่งน้ำรายภูมิภาค บ่นถามอยู่ได้เลือกตั้ง เลือกแล้วได้ไอ้คนเฮงซวยมาอีกจะทำอย่างไร ลั่นต้องพัฒนาตัวเองเพราะมีคนยุแยงตะแคงรั่วเรื่อยๆ พอสื่อถามโมโหเรื่องอะไรก็ถูกสวนว่าโง่ เซ็งถูกล้วงมันทุกเรื่อง คิดอะไรผิดไปหมด ด้าน “บี้ เดอะสตาร์” ตกใจนายกฯ มาดโหด แหล่งข่าวบอกไม่พอใจข่าว รธน.-โยกย้ายทหาร
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมคุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เข้ามอบดอกป็อปปี้ สัญลักษณ์แสดงความระลึกถึงและเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก เนื่องใน “วันทหารผ่านศึก” แก่นายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า ยากให้ดูแลทหารให้มีเกียรติและศักดิ์ศรีเพราะเป็นผู้ปกป้องรักษาแผ่นดิน และทหารส่วนใหญ่เป็นลูกหลานคนจน นอกจากจะต้องมาตายฟรีและบาดเจ็บฟรีแล้ว ยังโดนคนเหยียบย่ำซึ่งใครก็รับไม่ได้ ดังนั้นต้องบอกให้ทหารมีศักดิ์ศรีเพื่อให้คนยอมรับ คนจนยังไงก็จนจะไปโทษเขาไม่ได้ แต่ต้องสร้างคนให้รู้หน้าที่อยู่ในกรอบกฎหมายและกติกาบ้านเมือง ทำตัวให้มีประโยชน์ ไม่เช่นนั้นพวกขยะมันเยอะ
หลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้รับฟังรายละเอียดโปรแกรมประยุกต์เคลื่อนที่ WMApp ให้ผลการพยากรณ์อากาศความละเอียดสูงผลงานจากบัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการ วิทยาศาสตร์ระบบโลกและการจัดการภัยธรรมชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ได้หันมาถามกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาวันนี้คือการชี้แจงให้ทุกคนได้รับรู้ โดยเฉพาะชาวบ้าน ปัญหาสำคัญคือแหล่งน้ำที่ไปขุดไว้ไม่ตรงกับพื้นที่การเกษตร น้ำมีในเขื่อนในอ่างเก็บน้ำ แต่พื้นที่ปลูกข้าวและทำการเกษตรอยู่ห่างไกล จะทำอย่างไรถึงจะให้มีน้ำไปถึงพื้นที่เหล่านั้น ถามว่าใครเป็นคนไปทำสิ่งเหล่านี้ ขุดในพื้นที่ไม่จำเป็น ถามว่าใครทำ
ผู้สื่อข่าวจึงได้ตอบกลับว่าทหารเป็นคนขุด พล.อ.ประยุทธ์แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวก็ทุบเลย หาว่าทหารทำ ไม่รู้เรื่อง ใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนบริหารประเทศ รัฐบาลไหนก็ไม่รู้ แต่รัฐบาลนี้ต้องมาแก้ไขทุกเรื่อง ผมบอกกรมชลประทานไปแล้ว ไม่ต้องมาพูดว่าน้ำตะวันตกหรือน้ำตะวันออก ชาวบ้านเขาไม่รู้เรื่อง มันต้องแยกพื้นที่ออกมาเป็นภูมิภาค ในแต่ละพื้นที่มีแหล่งน้ำอยู่ที่ไหน ทั้งในและนอกเขตชลประทาน แหล่งน้ำธรรมชาติ เขื่อน แหล่งน้ำในนา ต่อไประบบส่งน้ำอยู่ที่ไหนจะต้องทำและนำไปสู่การทำโซนนิ่ง ทำไมทหารทำผิดหรือ”
เมื่อผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า คิดว่านายกฯ ถามว่าใครเป็นคนขุดแหล่งนี้ต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบโต้อย่างดุเดือดว่า “ผมไม่ถามแบบนั้นหรอก ถามอย่างนี้อย่ามาเป็นนายกฯ ไม่ต้องเป็น ใครก็เป็นได้ พวกเธอเป็นแบบนี้ทำให้ฉันโมโห นึกถึงสมองฉันบ้างสิ พวกเธอไม่พัฒนาและให้ฉันพัฒนาอยู่คนเดียว มันจะรู้เรื่องไหม ฉันไม่ได้เก่งกว่าเธอ พวกเธอเก่งกว่าฉันอยู่แล้ว เพราะพวกเธอบริหารประเทศมาทุกรัฐบาล”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมชุดตรวจวัณโรค และวัณโรคดื้อยา ซึ่งนายกรัฐมนตรียังคงมีอารมณ์ฉุนเฉียวต่อเนื่อง โดยกล่าวว่า “การพัฒนาต่างๆ จะต้องทำให้เป็นขั้นตอนไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเหยื่อจากเรื่องอื่นไปหมด วันนี้ผมต้องขอโทษที่อารมณ์เสีย” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้หันมายังกลุ่มผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวต่อว่า “ไอ้พวกดื้อยา ไอ้พวกดื้อตาใส เจตนาดื้อ ดื้อแบบไม่บริสุทธิ์ นักวิชาการก็ต้องรีบทำ รีบพัฒนา หลังจากรัฐบาลนี้ก็คงไม่มีใครทำแล้ว อยากถามใครจะทำ ไปถาม ไปบังคับเขากันบ้าง” ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่าก็ต้องเป็นรัฐบาลชุดหน้าทำ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างดุเดือดว่า “ไปถามเขาเลย ไม่ต้องมาถ้าไปบังคับให้เขาทำเหมือนอย่างที่คุณบังคับผม” ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงว่า ก็ต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วเขียนไว้มันได้หรือไม่ล่ะ รัฐธรรมนูญไม่เป็นสากล แล้วช่วยอะไรกันบ้างอธิบายกันบ้างมั้ย”
ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงว่า ทุกวันนี้สื่อก็ทำความเข้าใจกับสาธารณะอยู่แล้วตามหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ๋อเหรอ เห็นถามฉันอยู่ทุกวันจะเลือกตั้งหรือเปล่า จะทำได้ทันในปี 60 หรือเปล่า ถามอยู่แค่นี้ จะเลือกอะไรก็เลือกไป จะเลือกพรุ่งนี้ก็เลือกไป ไปเลือกมา แล้วก็ได้ไอ้คนเฮงซวยเข้ามาอีก จะทำอย่างไรไปจัดการซะ ถ้าไม่เฮงซวยก็ไม่ต้องไปเดือดร้อน” เมื่อพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ได้โยนกล่องชุดตรวจวัณโรค และวัณโรคดื้อยา ใส่กลุ่มผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะหันไปชิมน้ำจิ้มสุกี้จากน้ำส้มสับปะรด ซึ่งเป็นผลงานวิจัยด้านอาหาร และบรรจุภัณฑ์ ก่อนจะหันมาใส่อารมณ์กับผู้สื่อข่าวอีกว่า “ต้องทำงานและพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่เรื่อยๆ เพราะมีพวกยุแยงตะแคงรั่วอยู่เรื่อยๆ รำคาญ เอาสิ ด่าผมมาเลย ไม่กลัวอยู่แล้ว ด่ามา ว่ามา แล้ววันข้างหน้าก็คอยดูแล้วกัน ถ้าประเทศชาติมันย่อยยับไปละก็อย่ามาโทษฉัน ผมพูดทุกอย่างรู้เรื่อง เพราะอ่าน สื่ออ่านกันบ้างไหมแล้วเจอบ้างหรือไม่สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำดีๆ ไว้ อ่านกันหรือเปล่า ตอบมาสิ”
เมื่อมาถึงจุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์เรียกหาโทรศัพท์เพื่อเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า “ขอสู้กันสักตั้ง ไม่รู้จะส่งกันมาทำไม ส่งมาเพื่ออะไร จะให้ฉันทำอะไร ถ้าคิดกันแค่นี้อย่ามาเป็นสื่อ ไปเป็นอะไรก็ได้ จะส่งมาทำไมวะ” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าเป็นเรื่องอะไรจึงทำให้นายกฯ โมโหได้ขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบโต้ทันทีว่า “โง่ ก็ไปหาเอาเอง คำตอบน่ะ พวกเธอฉลาดกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ฉันจะส่งให้คนที่มันไม่ฉลาดอ่าน เธอฉลาดแล้วไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องเสนอรูป เสนอภาพฉันก็ได้ มันไม่เกิดประโยชน์ การทำเพื่อชาติบ้านเมือง มันลำบากนักก็ไม่ต้องทำหรอกวะ ล้วง แคะ แกะ เกามันทุกเรื่อง ไม่ต้องมาตั้งกันอีกแล้ว เรื่องของทหาร เป็น ผบ.กับเขาหรือยังไง เป็นแก๊งนี้แก๊งนั้น มันบ้าหรือเปล่า”
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวระหว่างดูผลงานเลนส์เสริมสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นกล้องจุลทรรศน์แบบพกพาว่า “ผมไม่รู้เป็นอะไร คิดอะไรมามันผิดไปหมด” ก่อนที่จะเดินไปกลุ่มของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ที่นำคณะพร้อมศิลปินดารา อาทิ นายสุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว หรือ บี้ เดอะ สตาร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อเชิญชวนสวมสายรัดข้อมือ และลงนามในโปสเตอร์ “We Can. I Can.” รณรงค์ป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องใน “วันมะเร็งโลก ” ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ก.พ.ของทุกปี โดยนายกรัฐมนตรีได้เขียนข้อความรณรงค์ว่า ขอให้ทุกคนดูแลตัวเอง ตามคำแนะนำแพทย์และสาธารณสุข ไม่มีใครรักเรา ดูแลเราได้ดีที่สุดมากกว่าตัวเราเอง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายสุกฤษฎิ์ นักร้องที่มาร่วมงานในเช้าวันนี้ว่ารู้สึกเช่นไรที่เห็นนายกรัฐมนตรีมีอารมณ์ฉุนเฉียว บี้-เดอะสตาร์ กล่าวว่า “ก็รู้สึกตกใจครับ”
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเช้าของวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์เสียตั้งแต่ช่วงเช้าหลังจากได้อ่านหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำ โดยเฉพาะในส่วนของทหาร ถึงขนาดมอบหมายให้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีส่งข้อความข่าวมายังสื่อมวลชนในทำนองต่อว่าการทำหน้าที่ของสื่อและขอให้ยกระดับการทำหน้าที่ ทั้งนี้เมื่อสอบถามไปยังกลุ่มคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรรถึงสาเหตุที่ทำให้นายกรัฐมนตรีอารมณ์เสียเพราะอะไร ก็ได้รับการยืนยันว่ามาจากเรื่องรัฐธรรมนูญและการแต่งตั้งทหาร