หัวหน้าพรรคคนไทยฉะร่างรัฐธรรมนูญหมกเม็ดกลไก-เงื่อนไข ปิดทางแก้ไข ชี้การเพิ่มอำนาจให้องค์กรอิสระ เป็นการวางกับดักให้ คสช.ส่งคนตัวเองเข้ามาคุม ครอบงำฝ่ายการเมือง
นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานว่า ภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีส่วนใดเลยที่สะท้อนว่าประชาชนจะได้ประโยชน์โดยเฉพาะเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ทั้งด้านการศึกษาและสาธารณสุข ที่ไม่ได้รับเท่าที่ควรจะเป็น
ส่วนเรื่องกลไกป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และระบบตรวจสอบ ที่นายมีชัยพยายามโฆษณาว่ามีความเข้มแข็งนั้นก็เป็นการวางกับดัก และจ้องหาเรื่องฝ่ายการเมืองมากกว่า ด้วยการเพิ่มอำนาจให้กับองค์กรอิสระ มาครอบงำผู้แทนที่มาจากประชาชน ทั้งในเรื่องการบริหารงาน การใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนเรื่องการตรากฎหมายต่างๆ ในทางตรงกันข้ามกลับไม่มีส่วนใดที่มุ่งแก้ไขระบบราชการให้ดีขึ้นเลย
“การเพิ่มอำนาจให้องค์กรอิสระ ซึ่งขาดการยึดโยงจากประชาชน ก็เท่ากับการวางกับดัก ที่จะส่งคนของกลุ่มอำนาจปัจจุบันเข้าไปควบคุมครอบงำตัวแทนของประชาชนที่จะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องเพิ่มอำนาจให้องค์กรหรือหน่วยงานใด แค่บังคับกฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มแข็ง ไม่ปล่อยให้กฎหมายหย่อนยาน ต่อรองได้ ก็เป็นกลไกป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เข้มแข็งได้แล้ว”
นายอุเทนกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่เรื่องเปิดทางให้ คสช.สืบต่ออำนาจ หรือที่มาของ ส.ส.-ส.ว. หรือเรื่องการตามที่หลายฝ่ายวิจารณ์กัน เพราะไม่ว่า กรธ.ในความควบคุมของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะกำหนดกติกาอย่างไร เชื่อว่าพรรคและนักการเมืองก็คงต้องยอมรับ เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แต่ตนเป็นห่วงเนื้อหาที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ดูแล้วทำได้ยาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเตือนแล้วว่า การร่างรัฐธรรมนูญต้องไม่สร้างเงื่อนไขใดๆ ให้แก้ไขได้ยาก จะเขียนจะร่างแบบไหนก็ได้ แต่ต้องเปิดช่องให้สามารถแก้ไขได้โดยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะตามหลักสากลแล้ว รัฐธรรมนูญต้องร่างจากสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้น
“ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการประชามติและมีผลบังคับใช้ ขอตั้งชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับผูกขาดอำนาจ ที่มีการหมกเม็ดกลไกและเงื่อนไขจนทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่าย หรือทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”