นายกฯ และหัวหน้า คสช. เผยที่ประชุม ครม.หารือการขับเคลื่อนงานรัฐบาล แย้มลงงบ 4 หมื่นล้านลง 7 หมื่นหมู่บ้านแห่งละไม่เกิน 5 แสน ผ่านกองทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ยันทำอย่างโปร่งใส ให้ชาวบ้านเสนอโครงการมา สั่งทำอินโฟกราฟิกให้เข้าใจง่ายขึ้น ระบุใช้ ม.44 ปลดล็อกผังเมืองให้อุตสาหกรรมขึ้น แต่ทำได้หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับผล EIA และ EHIA ด้วย โวยไม่ร่วมรับผิดชอบอะไรกันเลย อะไรได้เอาหมด ไล่ไปหาใครทำชาติวุ่น
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งเรื่องของงบประมาณต่างๆ ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และได้สั่งการให้มีการแก้ไขปัญหาที่ตัดขัดไปแล้ว นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พูดคุยถึงการใช้จ่ายงบประมาณผ่านกองทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็ง เนื่องจากโครงการกองทุนหมู่บ้านตำบลละ 5 ล้านบาทนั้นมีปัญหาขั้นตอนทางราชการ ซึ่งโครงการนี้ได้ทยอยทำอย่างเต็มที่ และระหว่างนี้จะมีงบอีกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ลงไปยัง 7 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้หมู่บ้านละไม่เกิน 5 แสนบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งผ่านกองทุน โดยประชาชนสามารถเสนอโครงการเข้ามาได้ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันจะทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส สิ่งสำคัญในวันนี้คือกระบวนการสร้างความเข้าใจต่อประชาชน โดยภาครัฐและประชาสังคมต้องมาช่วยกันดู
“วันนี้ผมจะให้ทำเรื่องของอินโฟกราฟิก ให้ประชาชนเห็นและเข้าใจได้ง่ายขึ้น อินโฟกราฟฟิกเป็นเรื่องของรายละเอียด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เห็นทิศทางว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องการประชาสัมพันธ์ก็ได้ตั้งโฆษกกระทรวงแล้ว เพื่อให้ประชาสังคม ประชาชนร่วมมือกับเรา เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการประชุมใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช.2 ฉบับ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.โดยฉบับแรกให้ยกเว้นการบังคับใช้ผังเมืองรวมในกิจการบางประเภท ประกอบด้วย 1. โรงไฟฟ้า 2. โรงผลิตก๊าซซึ่งมิใช่ก๊าซธรรมชาติ ส่งหรือจำหน่วยก๊าซ 3. โรงงานปรับปรุงคุณภาพของรวม (โรงบำบัดน้ำเสีย/เตาเผาขยะ) 4. โรงงานคัดแยกและฝังกลบ 5. โรงงานเพื่อการรีไซเคิล ว่าเขาปลดล็อกในบางเรื่องเพื่อให้มันทำได้ เพราะผังเมืองเดิมมันมีการแบ่งโซนสีเขียว สีเหลือง บางที่มันทำอุตสาหกรรมไม่ได้ แต่ถ้าไม่ทำอุตสาหกรรม ตรงนั้นมันก็ไม่มีที่ทางให้ทำ แต่จะทำได้หรือไม่ได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณารายงาน EIA (การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) EHIA (การคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแผนงานหรือโครงการที่มีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน) ไม่ผ่านก็ไม่ให้ทำ เท่านั้นเอง
“ให้มันรู้บ้างว่ากฎหมายขั้นตอนนั้นเป็นอย่างไร ไม่ใช่ทำไอ้นี่เพื่อไอ้นี่ มันไม่ช่สูตรสำเร็จแบบนั้นหรอกนะ รู้หรือไม่ว่าการตั้งโรงงานต้องผ่านกี่กลไก ผ่านกี่กฎหมาย รู้หรือไม่ วันนี้ปลดล็อกผังเมืองเก่า มันออกมากี่ปีแล้วล่ะ กฎหมายผังเมืองทำมา 8 ปีแล้ว เพิ่งมาเสร็จสมัยผมนี่แหละ ไอ้ที่เหลืออีกไม่รู้กี่ 10 จังหวัดที่ออกมาเนี่ย ยังต่อต้านกันอีก ผมก็ไม่เข้าใจ แล้วจะเอาอะไรกันอีก ผมทำให้ท่านแล้วไม่ยอมท่านไม่ยอมรับ จะอยู่กันแบบเดิมก็แล้วแต่ท่าน จะบอกผมไม่รับผิดชอบก็ไม่ได้ ผมรับผิดชอบมาเต็มที่แล้ว แต่ท่านไม่ยอมรับผิดชอบอะไรกับผมเลย อะไรได้ท่านเอาหมด อะไรนิดหน่อย เอาละ ด่ารัฐบาล ด่าผม ประเทศไทยมันเป็นอะไรกัน แล้วใครมันทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไปหาให้เจอ ใช่ผมหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว