เพจ “ทีมอาสา ผู้ว่าฯ กทม” โพสต์เชื่อ “เรื่องราวต่าง ๆ กำลังผ่านไป แล้วเรื่องใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นแทน ขอให้คุณเชื่อมั่นใน “สุขุมพันธุ์” ด้าน “ทีมรองผู้ว่าฯ” ยังทำงานปกติ ย้ำ 3 ปี ปชป. ไม่เคยให้นโยบาย กทม. ยันรับฟังแต่คำสั่งผู้ว่าฯ ส่วน โฆษก กทม. โยนบอมม์ เมิน ปชป. แถลงขับออกพรรค เชื่อบีบ นายกฯใช้ม.44 ฟัน “ชายหมู” พ้นเก้าอี้ จับผิด มติพรรค หรือมติพวกพ้อง
วันนี้ (21 ม.ค.) มีรายงานว่า ภายหลัง นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวตัดขาดความรับผิดชอบระหว่างพรรคกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในการทำหน้าที่ ผู้ว่าฯ กทม.
นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะโฆษกประจำตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกมาเปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องพิจาณาว่าการแถลงข่าวของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ เป็นมติในนามของพรรค หรือเป็นเรื่องส่วนบุคคล เนื่องจากพรรคเป็นองค์กร มีกรรมการบริหารพรรคเพื่อขับเคลื่อนการทำงาน เพราะที่ผ่านมาที่ไม่สามารถติดต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ เพราะ ผู้ว่าฯ กทม. ติดภารกิจต่าง ๆ รวมทั้งงานสำคัญ ๆ กรณีนี้จึงไม่ทราบว่า ที่มาที่ไปของการแถลงข่าวของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คืออะไร แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีอุดมคติว่าทุกฝ่ายควรปฏิบัติตนภายใต้กฎหมาย ซึ่งหากมีการประชุมใด ๆ ก็จะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แล้วพรรคจะอธิบายกับสังคมได้อย่างไร เพราะมีคำสั่งการห้ามประชุมทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในฐานะเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคารพกฎหมายมาโดยตลอด เพราะต้องระวังสิ่งที่ส่อไปทางการเคลื่อนไหวในการละเมิดคำสั่ง คสช. ซึ่งที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็เคยกินข้าวมาด้วยกัน แต่เหตุผลที่ไม่ได้นัดหมายกัน ผมไม่ทราบ แต่จะถึงกลายเป็นประเด็นที่จะต้องขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์เลยหรือไม่” โฆษก กทม. กล่าว
โฆษก กทม. กล่าวต่อว่า โดยการทำงานตลอด7 ปี กทม. ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบจากทุกฝ่าย และได้ประสานกับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ซึ่งพรรคก็ได้รับการสนองอยู่แล้ว แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในปีสุดท้ายของการเป็นผู้ว่าฯ กทม. เป็นความต้องการให้นายกฯ ใช้มาตรา44 กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ หรือไม่ แต่ยังเชื่อการใช้อำนาจในดุลพินิจของนายกฯ
“อุดมการณ์ของผู้ว่าฯ กทม. ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังบอกกับทีมงานตลอดว่าการทำงานทางการเมืองต้องเดินไปในความถูกชอบและไม่ชอบ ทั้งกุหลาบ ขวากหนาม หรือกระเบื้อง แต่ ผู้ว่าฯ กทม. ไม่ตอบโต้ โดยบอกกับทีมงานเสมอว่าที่พรรค คือ พี่น้องของเราที่อยู่กันมา พรรคประชาธิปัตย์ก็มีบุญคุณ การกระทำอะไรก็ตามสุเดท้ายที่เจ็บปวดคือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะวันหนึ่งถ้าคนไป แต่พรรคยังต้องอยู่ ดังนั้น ในปีสุดท้ายผู้ว่าฯ กทม. จะเร่งรัดการทำงาน ในเรื่องอนาคตผู้ว่าฯ กทม. ก็บอกแล้วว่าอย่าห่วงผม ขอให้ทำงานให้ดีที่สุด” นายวสันต์ กล่าว และว่า ขณะนี้ผู้ว่าฯ กทม. อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในงานลงนามความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้อง (sister city) กับเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 18 - 22 ม.ค. 59 ตนเชื่อว่า ผู้ว่าฯ ก็จะกลับมาทำงานเช่นเดิม เพราะหลักการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คือ ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นก็ตาม
มีรายงานว่า ขณะที่ แฟนเพจ “ทีมอาสา ผู้ว่าฯ กทม” ได้โพสต์มีใจความว่า “เรื่องราวต่าง ๆ กำลังผ่านไป แล้วเรื่องใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นแทน ขอให้คุณเชื่อมั่นในตัวท่านผู้ว่าฯครับ” ส่วนแฟนเพจ “สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ที่อยู่ว่า กทม. ใช้พูดคุยกับคน กทม. ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับว่า ยังไม่รู้เรื่อง และยังไม่ได้อ่านรายละเอียดดังกล่าว ตนจะพูดอะไรต้องดูที่มาและสาระก่อน วันนี้ต้องลงพื้นที่ 500 ชุมชน จึงขออนุญาตและจะขอให้คำตอบในภายหลัง
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. บอกว่า ผู้บริหาร กทม. ทุกคน ได้ดำเนินการภายใต้กรอบคำสั่ง ข้อระเบียบของ กทม. ทุกขั้นตอน ประเด็นการเมืองที่เกี่ยวกับผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองอย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ กทม. จะพิจารณา แต่ขณะนี้ผู้ว่าฯ กทม. อยู่ระหว่างทำภารกิจที่ต่างประเทศ การออกมาแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารของ กทม. เพราะตลอด 3 ปี พรรคไม่เคยมีคำสั่งให้ตนทำอะไร หรือส่งคนมาสั่งให้ทำตาม เพราะดำเนินการตามระเบียบ นโยบายของผู้ว่าฯ กทม. มาโดยตลอด.