“วิลาศ” จวกรองผู้ว่าฯ กทม.ยัดเยียดเด็กเล่นดนตรีทั้งที่คณิต-อังกฤษต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่เคยสำรวจผลสัมฤทธิ์โครงการ ขู่ฝืนทำรับผิดชอบผลที่ตามมา แฉเขียนราคากลองชุดเกินจริง แขวะผู้ว่าฯ กทม.เลิกโครงการโตแล้วไม่โกง “องอาจ” ลุ้น คสช.ทบทวนคำสั่งห้ามพรรคประชุมเชือด “ชายหมู” ยัน หน.พรรคเตรียมหามาตรการเป็นรูปธรรม รับปล่อยนานกระทบคะแนนนิยมพรรค
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม.ด้านการศึกษา ยืนยันเดินหน้าโครงการดนตรีในโรงเรียน กทม.ต่อไป ภายหลังถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการล็อกสเปกในการจัดซื้ออุปกรณ์ดนตรีมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท โดยอ้างเหตุที่ต้องซื้ออุปกรณ์ให้ครบทุกโรงเรียนเพื่อความเท่าเทียมกันว่า ตนขอถามว่าตั้งแต่ทำโครงการพัฒนาศักยภาพทางดนตรีมา กทม.เคยมีการประเมินผลงาน หรือผลสัมฤทธิ์ของโครงการหรือไม่ ที่สำคัญโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 200 คนก็ซื้อเครื่องดนตรีแจกจ่ายยัดเยียดให้เขาโดยไม่เคยสำรวจความต้องการของผู้เรียน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ดนตรีครบชุด และยังไม่มีครูที่มีความรู้ในการสอน เพราะ กทม.ยอมรับเองโดยการของบเพิ่มอีก 114 ล้านเพื่ออบรมครูดนตรีใน 90 โรงเรียน โดยเฉพาะครูสอนเปียโน กว่าจะเรียนสำเร็จแต่ละคนต้องใช้เวลาและการสอน ต้องได้ครูที่มีประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการสอน จึงไม่ต้องถามเลยว่าจะมีนักเรียนเล่นได้โรงเรียนละกี่คน ตอบให้ได้ก่อนว่าเปียโนที่ให้ไปแต่ละโรงเรียนได้มีการใช้จริงหรือไม่ กี่เปอร์เซ็นต์ ความคุ้มค่าของงบที่มาจากภาษีประชาชนคุ้มกันหรือไม่ ก็เพราะคิดว่าโรงเรียนเอกชนมี กทม.ต้องมีตาม แต่ผลประเมินการเรียนของนักเรียน กทม.กลับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ กลับมาส่งเสริมดนตรีโดยทุ่มงบจำนวนมากหากจะทำต่อไปก็ทำได้แต่ก็ต้องพร้อมรับผิดชอบกับผลที่จะตามมาด้วย
“ผมขอยกรายการตัวอย่างการจัดซื้ออุปกรณ์ดนตรี แค่ 1 รายการ คือ กลองชุดไฟฟ้ายี่ห้อ Roland ซึ่งเป็นยี่ห้อรุ่นเดียวกันที่ กทม.ซื้อได้ในราคา 65,000 บาท แต่ผมทำเรื่องสอบราคาไปพบว่ามีราคาเพียง 38,400 บาทเท่านั้น หากซื้อในจำนวนมากก็จะได้ในราคาต่ำกว่านี้อีก แค่นี้ขอให้ชี้แจงมาก่อนว่าการหว่านงบซื้ออย่างนี้ หวังเงินทอนหรือประโยชน์อื่นใดหรือไม่ เมื่อเช้าเห็นนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส.กทม. โพสต์ใน line บอกว่าวันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะไปเปิด “โครงการโตแล้วไม่โกง” ผมฝากบอกว่ายกเลิกไปเถอะโครงการนี้ ถ้าใน กทม.ยังโกงกันแหลกลาญอย่างนี้จะทำต่อไปทำไม” นายวิสาศกล่าว
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กำกับดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากพรรคยื่นหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอเปิดประชุมหารือถึงการแก้ปัญหาการทุจริตใน กทม.ภายใต้การบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับจาก คสช.จะทบทวนการอนุญาตให้พรรคนัดประชุมหรือไม่ คงต้องให้เวลาเพราะเพิ่งส่งหนังสือไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา และติดวันหยุด อีกทั้ง คสช.กำลังแก้ปัญหาเรื่องอุทยานราชภักดิ์ จึงต้องรอต่อไป
ส่วนที่ยังมีอดีต ส.ส.พรรคทยอยออกมาเปิดเผยการทุจริตใน กทม.อย่างต่อเนื่อง นายองอาจกล่าวว่า นั่นคือเหตุผลที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคต้องการจะพบกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ให้เร็วที่สุด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงเกิดปัญหาแบบนี้ แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้พบกัน จึงต้องการให้มีการประชุมเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรให้เป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก คสช.ไม่อนุญาตให้จัดประชุมจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รองหัวหน้าพรรคกล่าวว่า ตนยังไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่รู้ว่าไม่ควรปล่อยปัญหาทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้คะแนนนิยมของพรรคตกไปเรื่อยๆ ทางหัวหน้าจึงต้องการให้รีบประชุมด่วน เราก็พยายามทำเต็มที่ไม่ได้นิ่งดูดาย อยากให้คน กทม.ใจเย็นรอดูสักนิด การที่เราพยายามติดต่อ คสช.เพื่อขอเปิดประชุมแสดงชัดเจนว่าเราไม่ได้นิ่งดูดาย แต่จะเป็นอย่างไรต้องว่าไปตามขั้นตอน
เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าพรรคจะมีการดำเนินการบางที่เป็นรูปธรรม นายองอาจกล่าวว่า เราก็พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ประชุมว่าจะคิดอย่างไรเพราะเป็นเรื่องส่วนรวม โดยเบื้องต้นจะประชุมระดับคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องถึงขั้นเรียกประชุมอดีต ส.ส.หรือไม่