“ประยุทธ์” ประชุมน้ำถกปริมาณน้ำต้นทุนที่มี จ่อทำแผนที่น้ำใหม่ สร้างการรับรู้ ปชช.ร่วมมือรบ.ประหยัดน้ำทุกภาคส่วน ย้ำปัญหาตั้งสังฆราชต้องแก้ให้ได้ ขออย่าเหมารวม ศก.ตกเพราะ รบ. เล็งซื้อยางราคาสูงอีกนิด ยกงานวิจัยมาขยายสัดส่วนใช้ยางทำถนนเพิ่ม ย้อน “เทือก” เอาเงินไหนหนุนราคา กก.ละ 60 บ. ยันไม่หารือใครทั้งนั้น ย้ำยางเกินความต้องการชดเชยหมดไม่ได้ ลั่นไม่อยากใช้อำนาจบาตรใหญ่
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2559 ว่า ในที่ประชุมได้มีการสรุปถึงน้ำต้นทุน โดยตนได้สอบถามถึงปริมาณน้ำที่มีทั้งในเขื่อนและนอกเขื่อน รวมถึงอ่างเก็บน้ำทั้งหมด เราได้จัดทำแผนที่น้ำใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้น สร้างการรับรู้ให้มากขึ้น และขณะนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ใช้น้ำทั้งเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องบริหารจัดการน้ำให้มากที่สุด และร่วมมือกับรัฐบาลในเรื่องการใช้น้ำอย่างประหยัด ตนเข้าใจดีว่าไม่สามารถที่จะไปสั่งได้ แต่อยู่ที่จิตสำนึกของทุกคนที่จะทำอย่างไร เมื่อปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อยกว่าทุกปี ซึ่งภาคการเกษตรมีความจำเป็นในการใช้น้ำอยู่
“ถึงเราจะชี้แจงอย่างไร ต้องเห็นใจเกษตรกรที่มีปัญหาเรื่องการเช่าที่ คืออย่างไรคนเหล่านี้ต้องปลูก เพราะถ้าไม่ทำอะไร เจ้าของที่ก็จะให้คนอื่นเช่า นี่คือสิ่งที่จะต้องสร้างจิตสำนึก ส่วนเรื่องราคาก็เกี่ยวพันกับการใช้หนี้สิน นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาภายใน ไม่ใช่ว่าทุกคนเรียกร้องให้ปล่อยน้ำ ให้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ผมไม่ได้อยากไปยุ่งในรายละเอียดขนาดนั้น มันจำเป็นต้องรื้อทั้งระบบ เพราะฉะนั้นต้องมีผลกระทบบ้าง การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ง่ายๆ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ของประเทศไทย สืบเนื่องจากในช่วงเช้าของวันที่ 11 ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เดินทางมายื่นหนังสือพร้อมกับรายชื่อประชาชน 3 แสนรายชื่อ ที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อคัดค้านการเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราช โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ผมบอกแล้วว่าให้ไปแก้กันให้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้ ผมก็เสนอชื่อให้ไม่ได้”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหาราคายางตกต่ำว่า วันนี้อย่ามาพูดโดยรวมว่า รัฐบาลนี้ทำเศรษฐกิจได้ไม่ดี เศรษฐกิจตก ต้องดูว่าเศรษฐกิจตกจากปัจจัยอะไร เศรษฐกิจมีกี่ภาคส่วน และที่ผ่านมาความเข้มแข็งแต่ละภาคส่วน กิจกรรมต่างๆ มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเตรียมการหรือเปล่า ต้องไปดูตรงนั้น
“ผมกำลังแก้ไข และเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต กำลังทำอยู่ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวยางหรือผลผลิตอื่นๆ แต่ปรากฏว่าโดนโจมตีตลอดเวลาว่าทำไมแก้ไม่ได้สักที ผมอยากถามว่าใครที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ถ้ายังปล่อยโครงสร้างให้เป็นแบบเดิม มันก็จะเจอแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ เรากำลังแก้อยู่ ทุกอย่างกำลังเกิด วันนี้เรื่องยางขอให้สบายใจ ผมกำลังเริ่มทั้งหมด เพื่อจะจัดกระบวนการขึ้นมา กระบวนการหนึ่งเพื่อรับซื้อยางในราคาที่สูงขึ้นมาหน่อย อาจจะพอใจหรือไม่พอใจ ผมยังไม่ทราบ แต่รัฐบาลและ คสช.จะรับซื้อเอง เพื่อนำไปสู่กระบวนการผลิต ไม่ออกไปขายที่อื่น จะเข้าสู่กระบวนการผลิตซึ่งมีโรงงานที่เราได้ส่งเสริมเอสเอ็มอีไว้ โดยให้ผลิตสินค้าจากวัตถุดิบยาง เป็นรายได้เริ่มต้น ฉะนั้นตรงกลางจะประกอบไปด้วยโรงงานผู้ประกอบการ การทำถนนลาดยางที่มีส่วนผสมของยาง ผมไม่อยากใช้คำว่าทำแล้วไม่คุ้ม แต่จะคุ้มหรือไม่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ในเรื่องถนนที่ใช้ยางพารา เราได้ทำที่ภาคใต้ไปแล้ว 37 เส้นทาง ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ และวันหน้าจะดูว่าทำอย่างไรให้ใช้ยางพารามากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ที่การวิจัยพัฒนาด้วย ส่วนที่มีข่าวในเว็บไซต์ต่างๆ ที่ระบุว่ามีการผูกหัวคิวยางมะตอย ตนสั่งรื้อหมดแล้ว แต่จะใช่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ต้องไปดู เพราะมันเป็นระบบที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นระบบการค้าขายโดยเสรี ก็จะมีนายทุนเป็นผู้ประกอบการไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่ใช่ประเทศเสรี ถ้าไปรื้อสั่งไม่ได้คงไม่ใช่ ประเทศเราเป็นประเทศเสรีทางการค้าการลงทุน ต้องดูกฎหมายและหลักการของประเทศด้วย อย่าใช้ความรู้สึกอย่างเดียว เรื่องยางกำลังแก้วันนี้พรุ่งนี้ให้ได้ ถ้าเราสามารถที่จะนำยางไปใช้ในประเทศได้ เช่น ปูพื้นทำถนน ทำสระน้ำ หุ่นยางสำหรับฝึกนักเรียนแพทย์พยาบาล และทำถุงมือ ตรงนี้มีวิจัยทั้งหมดแล้ว แต่ไม่เคยมีใครเอาออกมาทำ รัฐบาลนี้จะทำแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยจะเร่งรัดให้ได้ และนี่คือระยะที่หนึ่งเพื่อยกระดับให้สูงขึ้น เพราะยังมีเวลาอีก 3 เดือนก่อนปิดฤดูกาลผลิต ตรงนี้ต้องแก้ปัญหาให้เขาก่อน ถ้าดีขึ้นก็จะไปสู่การส่งออกในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่ใช่ส่งแต่ยางดิบไปตลอด ราคายางที่รัฐบาลกำลังพยายามทำอยู่ จะได้ข้อสรุปในวันนี้พรุ่งนี้และถือว่าอยู่ในระยะที่หนึ่ง
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ แถลงว่าไม่ยอมรับมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล พร้อมกดดันให้มีการพยุงราคาอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ช่างเขาสิ แล้วจะเอาอะไรมาอุ้ม เอาเงินที่ไหน ถามมาสิ เงินที่ไหน ตอบมา เรากำลังจะสร้างระบบ ไม่เอาระบบใช่หรือไม่ จะให้อุ้มแบบนี้ทุกอันเลยใช่ไหม ไปหาเงินมาให้ผม ผมไม่ได้ใจร้าย ที่เข้ามาเพราะสงสารคนเหล่านี้ ไม่ได้เข้ามาเพื่อจะเอาเป็นเอาตายกับเขา เขาก็อย่ามาเอาเป็นเอาตายกับผม”
เมื่อถามว่า นายสุเทพต้องการคุยเรื่องดังกล่าวกับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “คุยทำไม เขามีหน่วยงานอยู่แล้ว ก็ไปคุยสิ คุยกับผมเดี๋ยวก็มีปัญหาอีก จะหาว่าผมไม่คุยกับคนนี้ แต่ไปคุยกับนั้น อยากให้เข้าใจ และสื่ออย่าไปเขียนให้เกิดความวุ่นวาย” เมื่อซักต่อว่าจะหารือกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เนื่องจากเคยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่หารือกับใครทั้งนั้น เขาทำอะไรได้สำเร็จ ตอบมา ทำได้อย่างไรถามสิ เอาเงินที่ไหน ไปทำให้ราคายางสูงขึ้น ผมไม่แลกเปลี่ยน เพราะเป็นคนละวิธีการกับผม ใช้เงินเท่าไหร่เล่า แล้วทำให้วิธีการปลูกพืชมันผิดหรือไม่ ปลูกยางเยอะขึ้นหรือไม่ วันนี้ผลิตยางได้ปีละ 4.1ล้านตัน ใช้จริงได้ 1.4 ล้านตัน ที่เหลือ 3 ล้านตันขายหมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาชดเชย 3 ล้านตันที่ว่า ต้องคิดแบบนี้ ถ้าคิดแต่ว่าจะชดเชย เดี๋ยวผมให้ก็ได้ ซื้อไปสักกิโลกรัมละ 120-200 บาท แต่จะเอาไปให้ใคร สุดท้ายก็เน่าอยู่ในคลัง ให้เข้าใจบ้าง”
ถามต่อว่า ที่ระบุว่ารัฐบาลจะรับซื้อเองนั้น ได้กำหนดราคาแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยัง แต่กำลังคุยกันอยู่ กำลังทำกันอยู่ เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้” ถามต่อว่าจะคุยกับผู้ประกอบการยางพารารายใหญ่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “มาทำไม เขาจะซื้อไหมเล่า เห็นใจเขา ซื้อไปแล้วเขาจะไปทำอะไร จะขายต่อหรือ แล้วจะขายให้ใคร สมมุติว่าซื้อของราคา 20 บาท แต่ต้องซื้อในราคา 40 บาท คุณจะซื้อหรือไม่ เขาต้องแบกรับภาระหรือไม่ ทั้งนี้ ให้เกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยให้ผู้ประกอบการเข้ามาช่วยส่งเสริม “
เมื่อถามว่าต้องการให้ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวรอก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ช่างเขาสิ อยากเคลื่อนไหวก็เคลื่อนไป ผมก็จะทำของผมไป อย่าสร้างความเดือดร้อนก็แล้วกัน ผมไม่อยากใช้อำนาจบาตรใหญ่กับใคร ให้รู้บ้าง ว่าอะไรคือกฎหมาย วันนี้ผมไม่ทำอะไรอยู่แล้ว แต่กฎหมายคือกฎหมาย วันหน้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้รู้สึกกดดัน เพราะกดดันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ไม่ต้องมาถามผม เรื่องกดดันไม่กดดัน” ถามต่อว่า ชาวสวนยางบางส่วนเริ่มโค่นต้นยางขายแล้ว นายกฯ กล่าวว่า “เมื่อจำเป็นต้องโค่นก็โค่นไป ผมไม่ได้ให้รอ ก็แล้วแต่ แต่อย่าไปพูดอะไรให้มันวุ่นวาย” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าหลังการให้สัมภาษณ์ยังได้กระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ด้วย