“ประยุทธ์” ประชุมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระราชินี ย้ำอย่าลืมประวัติศาสตร์ - ให้ฝ่ายกฎหมายดูพร้อมหารือ สนช. “มีชัย” ชงใช้ ม.44 ตั้งคณะทำงานปรองดอง รับไม่จำเป็นคงไม่เสนอมา ลั่นห้าม ปชป.ประชุมพรรค ย้อนจ้อสื่อยังไม่ได้เล่นงาน ส่วนเรื่องไฟ 39 ล้านให้ คกก.กฎหมายดู แจงชื่อ ขรก.ถูกสอบล็อตสามยังไม่ชี้ทุจริต มีกระบวนการต่อให้ความเป็นธรรม - ให้ สสส.ทำงานต่อ ปัดทำลายทุกระบบ แต่ต้องการให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจจาก ปชช.
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ว่า มีการพูดคุยในหลายเรื่อง ในเรื่องของโครงสร้างในการจัดงานและในส่วนของโครงการต่างๆ ก็เป็นหลักการไป เพื่อจะให้สร้างการรับรู้ให้มากยิ่งขึ้นในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำมาโดยตลอดจนถึงเวลานี้ สถาบันได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดินนี้มายาวนาน ฉะนั้นตนจึงอยากเรียนว่าเราอย่าลืมประวัติศาสตร์ เอาประวัติศาสตร์มาทำปัจจุบันและมองไปข้างหน้าอนาคตด้วย เพราะสิ่งที่เราในวันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์ในวันข้างหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ ห้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแต่งตั้งคณะทำงานสร้างความปรองดองว่า ก็ให้ฝ่ายกฎหมายได้หารือกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเรื่องดังกล่าวก่อน ซึ่งตนก็รับทราบในเรื่องนี้แล้ว ส่วนจะสามารถทำได้หรือไม่ ตนยังไม่รู้ตอนนี้ก็ให้ฝ่ายกฎหมายเขาว่ากันมาก่อน ตนก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา ซึ่งในส่วนของรัฐบาลก็มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดี๋ยวก็คงได้คุยกันมาว่ามีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไร
เมื่อถามว่า ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มี ส่วนตัวไม่มีอะไร ในเรื่องความปรองดองผมบอกแล้วไงว่ามันต้องมีการปรองดอง มีคณะกรรมการปรองดองที่จะทำในระยะเริ่มต้น ไม่ได้หมายความว่าจะไปนิรโทษกรรมอะไร เอาคนเข้ามาสู่กระบวนการปรองดองว่ามีใครบ้าง แล้วกฎหมายมันอยู่ที่ไหน ผิดกฎหมายอะไร ตรงไหนหรือเปล่า ก็ต้องไปดูและกลั่นกรองกันอีกที แล้วจึงไปสู้ขั้นตอนต่อไปว่าจะทำอย่างไรกันต่อ ถ้าไม่เริ่มตรงนี้มันไปไม่ได้หรอกมันก็อาจมีความจำเป็นนะ ถ้าไม่จำเป็น ท่านคงไม่เสนอมา เดี๋ยวจะทางทำให้ แต่เดี๋ยวก็จะหาว่าไม่เป็นธรรมอีก อะไรก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น หาว่าไม่เป็นธรรมทุกเรื่อง”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมที่จะขอเปิดประชุมพรรคเป็นกรณีพิเศษเพื่อพิจารณาโครงสร้างพรรคว่า “ก็ยังไม่ให้ไง ไม่ให้ประชุม” เมื่อถามย้ำว่า เขาขอประชุมเพื่อปรับโครงสร้างพรรคเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ๋อ หรอ แล้วที่ไอ้มาพูดปากเปล่าตามสื่อต่างๆ ผมยังไม่ได้เล่นงานเลยนะ”
เมื่อถามถึงเรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการประดับไฟตกแต่งที่ลานคนเมือง 5 ล้านดวง มูลค่า 39.5 ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ให้คณะกรรมการด้านกฎหมายว่ากันไป”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการออกคำสั่ง คสช.ครั้งที่ 1/2259 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติมครั้งที่ 3 จำนวน 59 รายชื่อเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาว่า รายชื่อที่ออกมานั้นยังไม่ได้ชี้ว่าเป็นการทุจริต แต่เป็นเรื่องของการแจ้งข้อมูลมาและเพื่อให้เกิดความสะดวกในการสอบสวน เมื่อเสร็จแล้วก็จะมี 2 อย่าง คือ ให้เจ้ากระทรวงหรือผู้บังคับบัญชาตามต้นสังกัด ซึ่งตอนนี้เป็นการตรวจสอบก่อนเพราะมีกฎหมายกติกาอยู่แล้ว หากทำผิด ก็จะนำไปสู่กระบวนการอื่นๆ ต่อไป เช่น ความผิดทางอาญาหรืออะไรก็ว่าไป แต่ในบางกรณีถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวเป็นการส่งเรื่องโดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสตง.เราก็ให้ความเป็นธรรม
เมื่อถามถึงรายชื่อในองค์กรกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 7 คนนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการตรวจสอบข้อมูลมาเพื่อดำเนินการการ แต่ตนก็ยังให้ สสส.ทำงานต่อไป อะไรที่เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมาก ก็ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ไม่ใช่มุ่งหวังจะไปทำลายทุกอย่าง ทุกระบบมันไม่ใช่
“ผมต้องการให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนด้วยเท่านั้นเอง ผมไม่ได้ว่าผิดหรือถูก ก็ต้องตรวจสอบการต่อไปเพียงแต่ว่าถ้ายังอยู่ตรงนั้นมันตรวจสอบไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ไม่ขัดขวางการตรวจสอบและให้โอกาสผู้ที่อยู่ในรายชื่อได้มีการเตรียมตัว เตรียมหลักฐานข้อมูลของเขาเอง อย่าเพิ่งว่าผิดหรือถูก เพิ่งไปให้ร้ายเขาขนาดนั้น” นายกฯ กล่าว