โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ ห่วงการจราจรขาเข้ากรุง ย้ำชาวบ้านวางแผนเดินทางให้ดี ขับตามกฎ สั่งเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ เตือนรถสาธารณะ หากขับเร็วจะเสี่ยงอุบัติเหตุ ขู่ถ้าเกิดเรื่องโทษหนักถึงขั้นปิดกิจการชั่วคราว
วันนี้ (3 ม.ค.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ทยอยเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ จะเป็นวันเริ่มเปิดทำงานวันแรกในปีศักราชใหม่ ทำให้ปริมาณรถบนถนนค่อนข้างหนาแน่น และสะสมเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะ ถ.มิตรภาพ และ ถ.พหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนจากภาคเหนือและภาคอีสานใช้สัญจรเข้ากรุงเทพฯ โดยพบว่าในบางจุดมีผู้ขับขี่ไม่เคารพกฎจราจรวิ่งแซงขึ้นในช่องทางเดินรถด้านซ้าย ส่งผลให้เมื่อถึงคอขวดยิ่งทำให้รถเคลื่อนตัวช้าลงไปอีก
“นายกฯ ได้ติดตามสภาพการจราจรมาโดยตลอดในช่วง 3 - 4 วันนี้ เนื่องจากเป็นห่วงประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ซึ่งมีจำนวนมากในช่วงเทศกาล โดยฝากย้ำให้พี่น้องประชาชนวางแผนการเดินทางให้ดี อาจใช้เส้นทางสายรองเพื่อลดปริมาณรถในถนนสายหลัก ขับรถตามกฎจราจร ไม่ขับเร็ว หากง่วงหรือเมาต้องไม่ขับรถเช่นเดียวกับที่ย้ำเตือนมาโดยตลอด เพราะประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงนี้มากทุกปี” พลตรี สรรเสริญ กล่าว
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับ ซึ่งจะแตกต่างจากขาไปที่ประชาชนส่วนหนึ่งออกเดินทางตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ขากลับคนส่วนใหญ่มักจะเลือกกลับในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างคล่องตัวและปลอดภัย
“ฝากเตือนไปยังผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถตู้โดยสารที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้โดยสารจำนวนมาก โดยขณะนี้พบว่ามีการขับรถเร็วเกินกำหนด เพราะต้องการทำรอบแข่งกับเวลา ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกรมการขนส่งทางบกจะลงโทษสถานหนักต่อทั้งพลขับและผู้ประกอบการ โดยยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่ รวมทั้งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ หรือสั่งปิดกิจการเป็นการชั่วคราว” พลตรี สรรเสริญ กล่าว