โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยที่ประชุมสภากลาโหม อนุมัติปรับอัตราเงินเดือนทหารสัญญาบัตร -ประทวนบางชั้นยศ ให้เทียบเคียงข้าราชการพลเรือน กำชับให้เหล่าทพัพลงนามข้อตกลงระหว่างประเทศ ใช้หลักต่างตอบแทน เน้นความเท่าเทียม มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ดูแลความปลอดภัย และ บริการ พร้อมเชิญชวนส่งจดหมายให้กำลังใจทหารชายแดน
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน โดยปรับอัตราเงินเดือนขั้นสูงทั้งระดับนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารระดับประทวนบางชั้นยศ ให้เทียบเคียงกับข้าราชการพลเรือน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 58 เป็นต้นไป
พล.ต.คงชีพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำชับสั่งการให้ทุกหน่วยขึ้นตรงกลาโหมพิจารณาทบทวนแผนงานโครงการ ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดขับเคลื่อนงานที่เป็นวาระแห่งชาติ และงานสำคัญ ๆ ที่เป็นการวางรากฐานประเทศ โดยให้บูรณาการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันทั้งภายในกลาโหม และระหว่างกระทรวงให้มากขึ้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในกลุ่มงานที่เชื่อมโยงกัน และเป็นการลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน โดยยังคงเป้าหมายยึดโยงประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้เน้นความทั่วถึงและเป็นธรรมกับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยไม่เลือกปฏิบัติ
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านปัจจุบัน อยู่ในสถานะดีมาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางทหาร สืบเนื่องจากการพัฒนาสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือในกิจกรรมระดับต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือทางทหารกันมากขึ้น ในการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของภูมิภาค
“รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวกำชับเป็นนโยบาย ให้หน่วยขึ้นตรงกกระทรวงกลาโหมพิจารณาการประชุมเจรจา หรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศที่จะเกิดขึ้น โดยยึดหลักการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและลดความหวาดระแวงระหว่างกัน เน้นการได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน และใช้หลักต่างตอบแทนในการเจรจา โดยให้นำผลการเจรจามาดำเนินการให้เกิดผลทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ให้ส่งเสริมความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทั้งกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศเอเปก และประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ” พล.ต.คงชีพ กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่สิ้นเดือน ธ.ค. 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเต็มรูปแบบ ปัญหาความมั่นคงมีแนวโน้มสลับซับซ้อน และมีความเชื่อมโยงมากขึ้น รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กำชับถึงความพร้อมของทุกหน่วยงานของกลาโหมที่จะต้องตระหนักและให้ความสำคัญ ทั้งการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล และพัฒนาศักยภาพระบบงานและหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ต้องสามารถทำหน้าที่และบทบาทนำงานในความรับผิดชอบกลาโหมต่อกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจา เพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์ทั้งของประเทศและประชาคมอาเซียนตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป โดยเฉพาะการบูรณาการระบบงานชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในภูมิภาค
พล.ต.คงชีพ กล่าวอีกว่า กระทรวงกลาโหมโดยข้าราชการทหารทุกเหล่าทัพได้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่มอบให้กับประชาชน ในชื่อ “เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร” ในช่วงเวลาแห่งความสุขของประชาชน ที่ทุกคนจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวตลอดเทศกาลปีใหม่ โดยเราคำนึงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหมที่มีอยู่ และสามารถทำได้ตามกำลัง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มงานหลัก ได้แก่ งานการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน งานช่วยเหลือประชาชน และงานให้บริการต่าง ๆ
โดยของขวัญชิ้นที่ 1 ขอมอบการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ทหารได้ร่วมกันติดตามข่าวสารและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งชายแดนและภายในเมือง โดยกองกำลังป้องกันชายแดน และกองร้อยรักษาความสงบทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมร่วมกับตำรวจดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่จัดงานใหญ่ในทุกจังหวัด
ของขวัญชิ้นที่ 2 ขอมอบการดูแลช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกการสัญจรและความปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสียของพี่น้องประชาชน โดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดรับแจ้งเหตุร่วมกับตำรวจ จุดบริการหน้าหน่วยทหารตามเส้นทางหลวงทั่วประเทศ เพื่อการผ่อนคลายระหว่างเดินทาง (น้ำ ซ่อมรถ การแพทย์) เตรียมการและความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนจากภัยธรรมชาติและอุบัติภัยที่เกิดขึ้น (จัดชุดกู้ภัย ชุดบรรเทาสาธารณภัย) การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย ด้วยการเปิดหน่วยทหาร ให้การบริการ จำหน่ายสินค้าราคาถูก/ธงฟ้า โดยชุมชนรอบหน่วยทหาร
ของขวัญชิ้นที่ 3 ขอมอบความสะดวกสบายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ การเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในหน่วยทหารให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยพื้นที่เขตทหารมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีความหลากหลายทั้งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ การผจญภัย และกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งมีความปลอดภัยสูง และมีความเป็นมาตรฐาน เช่น โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (จปร.), ฐานทัพเรือสัตหีบ, อ่าวมะนาว ฯลฯ
นอกจากนั้น ยังจัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เพื่อดูแลความปลอดภัยและให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดยกองทัพเรือจัดกิจกรรมทำความสะอาดศาสนสถาน ทั้งวัดและมัสยิดกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนมาร่วมทำบุญปีใหม่ และสวดมนต์ข้ามปีได้อย่างสะดวกและมีความปลอดภัยร่วมกับครอบครัว
พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่พี่น้องประชาชนกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวในวันหยุดยาวแห่งช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังมีพี่น้องพวกเราบางส่วนที่เป็นทหาร เขาเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่เป็นรั้วของประเทศ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามป่าเขา เพื่อดูแลรักษาอธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์ตามแนวชายแดน ให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข มีความปลอดภัย อยากถือโอกาสนี้ เชิญชวนประชาชน ได้ร่วมส่งจดหมายหรือไปรษณียบัตร ไปตามกองกำลังป้องกันชายแดนทั่วประเทศ เพื่อให้กำลังใจทหาร ตำรวจตามแนวชายแดน ที่ต้องห่างไกลครอบครัวและกำลังทำหน้าที่เป็นรั้วประเทศ ท่ามกลางความเงียบ หนาว ดูแลรักษาอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้อยู่อย่างปกติสุข
โดยที่ตั้งหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน กองกำลังบูรพา ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว 27160, กองกำลังสุรสีห์ ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 71190, กองกำลังสุรนารี ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41330, กองกำลังเทพสตรี ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นราธิวาส 80310, กองกำลังผาเมือง 182/3 ถ.โชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50300, กองกำลังนเรศวร ค่ายวชิรปราการ ต.ไม้งาม อ.เมืองฯ จ.ตาก 63000