ทัวร์จีนไม่พอ! “ประวิตร” เล็งขน “ทหารจีน” ฝึกร่วมผสมทางเรือ-อากาศ

โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย “ประวิตร” หนีบ “อุดมเดช” ไปเยือนจีน กระชับสัมพันธ์กลาโหมจีน เผยให้ความสำคัญรักษาความเป็นศูนย์กลางอาเซียน เล็งเพิ่มฝึกผสมระหว่างกองทัพอากาศและทางทะเลตามที่ฝ่ายจีนเสนอ

วันนี้ (9 เม.ย.) พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระหว่างวันที่ 8 - 10 เม.ย. ว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ได้นำคณะ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ ตัวแทนผู้บัญชาการทหารอากาศ รวมทั้ง รมช.ต่างประเทศ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดย พล.อ.ฉาง ว่าน ฉวน มนตรีแห่งรัฐ และ รมว.กลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังจากนั้น ได้หารือราชการร่วมกัน โดย พล.อ.ฉาง ได้กล่าวถึงการเสด็จฯเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 3 - 6 เม.ย. ที่ผ่านมา มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบและครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ไทย - จีน ซึ่งพระองค์ท่านมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจีนเป็นอย่างดี เป็นความภูมิใจและประทับใจของชาวจีนอย่างมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้ความสัมพันธ์ไทย - จีน มีความแนบแน่นกันเหมือนครอบครัวเดียวกัน

ในขณะเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า ปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่มีความเชื่อมโยง ซับซ้อน และรุนแรงมากขึ้น ประชาคมระหว่างประเทศต่างตระหนักถึงความจำเป็นในการผลักดันความร่วมมือเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา กองทัพไทยได้เตรียมการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพให้มีความสามารถที่หลากหลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความมั่นคง ความมั่งคั่งและความยั่งยืนของชาติเป็นหลัก นโยบายของไทยต่อความมั่นคงในภูมิภาค คือ การสนับสนุนการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางทหาร ควบคู่ไปกับการขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค ให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ในกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงแและการเชื่อมโยงในภูมิภาค

ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทย - จีน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเเป็นอย่างดี มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำในทุกระดับและมีการยกระดับความสัมพันธ์ในการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่รอบด้าน มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายดำเนินงานความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกระทรวงกลาโหมของไทย กับกระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐประชาชนจีน (Sino - Thai Defence and Security Consultation) ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญ ที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการฝึกผสมระหว่างกองทัพอากาศ และการเพิ่มความร่วมมือการฝึกผสมทางทะเลให้มากยิ่งขึ้นตามที่ พล.อ.ฉาง เสนอมานั้น ทางไทยโดยกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กำลังพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการ

ทั้งนี้ พล.อ.ฉาง ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของกองทัพไทยในการเข้ามาแก้ปัญหาเสถียรภาพและสันติภาพภายในประเทศ ความพยายามที่ผ่านมาของรัฐบาลส่งผลให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างเด่นชัด ประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด เสมือนพี่น้องกัน ไม่ว่าสถานการณ์ภายในของไทยจะเป็นอย่างไร จีนให้ความสำคัญที่จะพัฒนายุทธศาสตร์ของภูมิภาคร่วมกัน เราพยายามที่จะเพิ่มบทบาทความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นในทุกๆ ด้าน ผลของการไปเยือนไทยที่ผ่านมา เราได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการแลกเปลี่ยนการฝึกและความร่วมมือทางทหาร ความร่วมมือกันส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกันระดับพหุภาคี และในขณะเดียวกัน ก็ได้นำคณะผู้นำระดับสูง และ ผบ. เหล่าทัพ ไปเยือนไทยและประชุมร่วมกันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับต่างๆ จีนสนับสนุนให้ไทยมีบทบาททางบวกของการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค ความสัมพันธ์ไทย - จีน ยังมีศักยภาพมากต่อการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง โดยการสร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนและยกระดับความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์ทะเลจีนใต้ที่จีนมีความเป็นกังวลนั้น ไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนในการยึดมั่นความร่วมมือกันเพื่อแสวงหาหนทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธี สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยการพูดคุย เพื่อนำไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญมั่นคงของภูมิภาคร่วมกัน หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้นำคณะเข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.อ.สวี ฉี่ เลี่ยง รองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้นำเรียนผลการหารือกับ พล.อ.ฉาง ให้ทราบ