อดีต ส.ส.ปชป.มอง สนง.สถิติฯ อ้างผลสำรวจ ปชช.มีคะแนนนิยมรัฐบาลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์อันตราย ชี้ผลโพลไม่น่าเชื่อถือกับภาวะ ศก.แบบนี้ เตือน รบ.เชื่อจะเดินหลงทาง ติง “อรรถวิชช์” ต้องดูตามเนื้อผ้าเหตุให้คะแนนรัฐเต็มร้อย ฉะนายกฯ อำนาจล้นแต่ไม่ปราบโกง ปฏิรูปประเทศตรงไหน จี้เร่งแก้ปัญหาปากท้องก่อน ชี้ รบ.ยังไม่เข้าถถึงจิตใจคนชนบท
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถึงกรณีที่สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจว่าประชาชนมีคะแนนนิยมรัฐบาลถึงร้อยละ 99.5 ว่า ตรงนี้เป็นอันตราย และไม่น่าจะสำรวจอย่างกว้างขวางและครอบคลุมเพียงพอในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ยางราคาตกต่ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พืชผลการเกษตรราคาตกต่ำแต่อาหารแพง แก๊สหุงต้มแพง ตัวเลขดังกล่าวจึงไม่น่าเชื่อถือเพราะไม่อยู่บนฐานของข้อเท็จจริง เป็นการเชลียร์รัฐบาลที่เกินพอดี ย่อมส่งผลลบต่อรัฐบาลในระยะยาว
“ทางที่ดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีควรสั่งให้สำนักงานสถิติแห่งชาติทำการสำรวจใหม่ด้วยกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่าเดิมให้หายข้องใจกันไปเลย แต่ถ้ารัฐบาลเชื่อและยอมรับตัวเลขนี้ รัฐบาลกำลังจะเดินหลงทาง ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี” นายวัชระกล่าว
ส่วนกรณีที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ออกมาให้คะแนนรัฐบาล 100 คะแนนเต็ม เป็นความเห็นส่วนตัวตามรสนิยมของเขา ตนยืนยันว่าเท่าที่คุยกับอดีต ส.ส.ปชป.ไม่มีใครให้คะแนนเต็มร้อยเหมือนเขา เพราะคนที่ให้คะแนนเต็มร้อยรัฐบาลทหารได้ถ้าไม่เพี้ยนก็สอพลอเท่านั้น นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องพิจารณาตามเนื้อผ้าจะหลับหูหลับตาเชลียร์แบบพวกที่มาจากการแต่งตั้งไม่ได้
ส่วนเรื่องการปราบปรามการคอร์รัปชันและการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสูงสุดในประวัติศาสตร์ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ไม่กล้าปฏิรูปตำรวจ จัดการการทุจริตก็ไม่จริงจัง สนช.ทุจริตยาปราบศัตรูพืชก็ปล่อยเฉย สบพ.ซื้อเครื่องบินแพงจาก 12 ล้านเป็น 16 ล้านก็วางเฉย ประชาชนกว่าจะได้แต่ละบาทก็ยากเย็น สนช., สปท.นั่งกินเงินเดือนราชการ 2 ที่ เป็นการปฏิรูปประเทศตรงไหน แค่เริ่มต้นก็เห็นแก่ตัวแล้ว หากจะปฏิรูปประเทศควรเลิกความเห็นแก่ตัวที่แม่น้ำ 5 สายก่อน ถ้าทำไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์ จะกลับไปเลี้ยงหลานทั้งคณะก็คงไม่มีใครว่า
“แต่ขณะนี้ใคร่ขอร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้ก่อน เพราะอาสาเข้ามาแล้วคนทั้งประเทศคาดหวังจากท่านสูง ผมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในภาคอีสานและภาคเหนือว่า กำนันและผู้ใหญ่บ้านจำนวนมากยังมีอคติอยู่เช่นเดิม โดยนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดใส่เกียร์ว่างทำเป็นแกล้งตายเหมือนแกนนำเสื้อแดง ตรงนี้หากกลไกของกระทรวงมหาดไทยล้มเหลว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย น่าจะนั่งเรือเหาะไปนอนบ้านกำนันในภาคอีสาน หรือภาคเหนือ ดูบ้างว่าอากาศหนาวเหน็บเพียงใด รัฐบาลชุดนี้ยังเข้าไม่ถึงจิตใจประชาชนในชนบท จึงเป็นช่องว่างให้พวกเผาบ้านเผาเมืองเป่าหูประชาชนเหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้”