อดีต ส.ส.ปชป. ปูดมาเฟียได้ประโยชน์นมโรงเรียนกว่า 1.4 หมื่นล้าน ครม.ให้ อสค.ผูกขาดอีก 2 ปี บริษัทนมบางแห่งได้ประโยชน์ แก้นมบูดไม่ได้ ย้อนไม่แก้ให้ได้ผลแบบหวย เผยบริษัทจีนนำเข้าแรงงานผิด กม.เพียบ พัทยามีเขมรลอบทำประมง บี้จัดการ จี้ตั้ง กก.สอบทุจริต สบพ.ฃื้อเครื่องบินแพง 33% อ้างโปรโมชันแต่ไร้เอกสาร แถมมีปัญหาค่าเช่าติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณเอไอเอส
วันนี้ (27 ธ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีการผูกขาดการจำหน่ายนมโรงเรียนว่า โครงการนมโรงเรียนเริ่มในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนมีนมดื่มอย่างน้อย 1 กล่องเมื่อไปโรงเรียน แต่ปัญหาในปัจจุบันคือมีการผูกขาดการจำหน่ายนมโรงเรียน มีมาเฟียได้ผลประโยชน์จากโครงการนี้ปีละ 14,000 ล้านบาท ต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้องค์การส่งเสริมโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ให้ได้สิทธิในการผูกขาดการจำหน่ายนมโรงเรียนต่ออีก 2 ปี รวม 28,000 ล้านบาท โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่เรียกร้องขอจัดซื้อนมโรงเรียนเอง เพราะเกิดปัญหานมบูดและไม่มีคุณภาพไปให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ การที่ ครม.อนุมัติให้ อสค.ผูกขาดต่ออีก 2 ปี ส่งผลให้บริษัทนมบางแห่งได้รับผลประโยชน์บาง ส่วนจะมีค่าหัวคิวหรือไม่ต้องถามผู้รับผิดชอบ การอนุมัติดังกล่าวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหานมบูดได้เลย เพราะไม่สามารถเปลี่ยนบริษัทส่งนมได้ เป็นจุดบอดที่ต้องมีการแก้ไข
“ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถแก้ไขปัญหาผูกขาดลอตเตอรี่ โดยสามารถที่จะกำจัดมาเฟียลอตเตอรี่ 5 รายออกไปได้ แต่มาเฟียนมทำไมรัฐบาลถึงไม่ดำเนินการอะไร และทำไมถึงไม่ใส่ใจเสียงเรียกร้องของเพื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่เรียกร้องขอจัดซื้อนมโรงเรียนให้กับนักเรียนลูกหลานของตนเองในแต่ละจังหวัด ผมไม่เห็นด้วยกับการผูกขาดการจัดซื้อนมโรงเรียนอีกต่อไป และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผูกขาด ในขณะที่เศรษฐกิจของเราเปิดเสรีอยู่ในขณะนี้” นายวัชระกล่าว
นายวัชระกล่าวถึงปัญหาแรงงานต่างชาติว่า ได้มีประชาชนร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า มีบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จากจีนนำเข้าแรงงานจีนโดยผิดกฎหมายไทย พร้อมทั้งจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับบางฝ่ายในระดับจังหวัด ปัจจุบันแรงงานจีนเหล่านี้มีอยู่เป็นจำนวนมากใน จ.บุรีรัมย์ ไม่น้อยกว่า 600 คน จ.นครราชสีมาไม่น้อยกว่า 800 คน และใน จ.กาญจนบุรี และ จ.สระแก้วกำลังมีการนำแรงงานจีนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ขอเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตรวจสอบและดำเนินการโดยด่วนเพื่อคุ้มครองแรงงานไทย เพราะจะทำให้คนไทยไม่สามารถทำงานในโรงงานดังกล่าวได้ เนื่องจากนำแรงงานจีนเข้ามาทำ
นายวัชระกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีประชาชนชาวพัทยาร้องเรียนมาว่ามีชาวกัมพูชาใช้เรือประมงแอบลักลอบไปจับปูและปลาในอ่าวพัทยาทุกวัน โดยมีนายทุนไทยให้ความร่วมมือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการจับกุม ตนจึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการด้วย เนื่องจากต้องการที่จะคุ้มครองสัตว์น้ำ และไม่ต้องการให้ชาวกัมพูชามาแย่งอาชีพคนไทยโดยไม่สนใจกฎหมาย
นายวัชระยังกล่าวถึงกรณีการทุจริตจัดซื้อเครื่องบินของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ว่า สบพ.ได้จัดซื้อเครื่องบินจากบริษัท ไดมอนด์ รุ่น DA40 CS ในปีงบประมาณ2556 เป็นจำนวน 3 ลำ ลำละ 12 ล้านบาทเศษ ปีงบประมาณ 2557 จำนวน ซึ่งพิจารณางบประมาณโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กลับราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นลำละ 16 ล้านบาทเศษ และซื้อเป็นจำนวน 3 ลำ ตนถามว่าเหตุใดราคาถึงแพงขึ้นกว่าเดิม 33 เปอร์เซ็นต์ หรือแพงขึ้นลำละ 4 ล้านบาทเศษ
นายวัชระกล่าวว่า สบพ.อ้างว่าปีงบประมาณ2556-2557เป็นราคาโปรโมชัน แต่ในการของบปีดังกล่าวนั้น กลับไม่มีคำชี้แจงในเอกสารขณะนั้นว่าเป็นราคาโปรโมชัน แสดงว่าข้อแก้ตัวของ สบพ.ไม่สามารถรับฟังได้ เป็นราคาที่แพงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการทุจริตโดยชอบด้วยกฎหมายใช่หรือไม่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะว่าอย่างไร และขอเรียกร้องให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ จะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ได้หรือไม่
นายวัชระกล่าวถึงกรณี สบพ.อนุญาตให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือเอไอเอส ติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมิได้รับอนุญาตจากกรมธนารักษ์ว่า ขณะนี้ปรากฏว่ากรมธนารักษ์ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 11 พ.ย. 2558 เรียกเก็บค่าปรับ ค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์กรณี สบพ.เอาไปจัดหาประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงผู้ว่าการ สบพ. กรณีที่ สบพ.อนุญาตให้เอไอเอสติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2545 ปรากฏว่าไม่มีการทำสัญญาเช่ากับสถาบันและกรมธนารักษ์ กรมธนารักษ์จึงทวงเงินค่าเช่าติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณดังกล่าวซึ่งรื้อถอนแล้วในเดือน ส.ค. 2558 รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 13 ปี 4 เดือน เป็นเงิน 4,396,060 บาท พร้อมทั้งค่าปรับอีกเป็นเงิน 810,324 บาท รวมเป็นเงินที่ สบพ.ต้องจ่ายแทนเอไอเอสทั้งสิ้น 5,206,384 บาท จึงสรุปได้ว่า ปัญหาที่ สบพ.มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ทำไมรัฐบาลไม่ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อสืบหาการทุจริตในหน่วยงานแห่งนี้ หรือว่ามีอะไรกัน เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่สำคัญมาก จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบการทุจริตในสถาบันอย่างจริงจัง