อดีต ส.ส.ปชป.แนะ “ประยุทธ์” ต้องรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมวงการนมโรงเรียน มีคนรอประโยชน์อนุมัติต่ออายุผู้รับผิดชอบ แฉจ่ายเงินใต้โต๊ะกว่า 3 พันล้าน แนะให้องค์กรท้องถิ่นจัดการเชื่อไม่ซื้อนมบูดให้ลูกหลานตัวเอง หมดปัญหาถ้าราชการไม่ผูกขาด สะกิดถามอดีตประธาน อสค.หากอยากรู้ความจริง
วันนี้ (12 ต.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนที่นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางจะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติต่ออายุให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) เป็นผู้รับผิดชอบต่อไปอีก 2 ปีเป็นกรณีพิเศษ โดยมีงบประมาณปีละ 14,000 ล้านบาท รวม 28,000 ล้านบาทว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ต้องรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมวงการนมโรงเรียนที่มีคนรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการอนุมัติ ตนขอเรียกร้องต่อรัฐบาลว่าควรทบทวนเรื่องนี้ทันทีเพื่อผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้ใครหากินกับนมเด็กอีกต่อไป เงินใต้โต๊ะในโครงการนี้ปีละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากเปิดให้มีการแข่งขันการขายนมโรงเรียนอย่างเสรี ไม่มีการผูกขาดโดยมิลก์บอร์ดและอสค.ประเทศชาติก็จะประหยัดงบประมาณได้ปีละ 2,000-3,000 ล้านบาทเช่นกัน อย่าไปมององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแง่ร้ายว่าจะทุจริต เป็นการไม่ให้ความเป็นธรรมและไม่มีองค์กรส่วนท้องถิ่นองค์กรใดยอมจัดซื้อนมไม่มีคุณภาพหรือนมบูดไปให้ลูกหลานตนเองดื่มอย่างแน่นอน แต่ทางกลับกันการผูกขาดไว้ที่มิลก์บอร์ดมีใครรับประกันได้ว่าไม่มีการทุจริต
“มีบางคนเคยเรียกบริษัทนมให้มาที่กรุงเทพฯ รอเวลาจ่ายสดทันทีที่ ครม.มีมติอนุมัติในเรื่องนี้ แต่ผิดหวังมา 2 ครั้งแล้ว เพราะ ครม.ไม่อนุมัติ หน่วยข่าวกรองรายงานให้ทราบบ้างหรือไม่ ผมยืนยันว่ามีการชักเปอร์เซ็นต์กินค่าหัวคิวโครงการนมโรงเรียนจริง จนก่อให้เกิดปัญหานมไม่มีคุณภาพ นมบูดเน่า ปัญหาต่างๆ จะหมดไปถ้าไม่มีการผูกขาดโดยราชการ และรัฐบาลต้องดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้จริงจังและให้นักเรียนทั้งประเทศได้ดื่มนมโคแท้ๆ 100% มิใช่เอานมผงมาตีผสมน้ำให้นักเรียนเหมือนที่ผ่านมา”
นายวัชระกล่าวว่า ตนเชื่อในความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เคยประกาศห้ามข้าราชการชักเปอร์เซ็นต์แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว แต่ต้องระวังคนแอบกินนมเด็กที่อยู่ใกล้ๆ เพราะความโลภไม่เคยปรานีใคร หากนายกฯ ต้องการรู้ความจริงให้ถามอดีตประธานบอร์ด อสค.ที่เพิ่งลาออกไปเมื่อเร็วๆ นี้
