พท.สับเขียน รธน.หวังไม่ให้ผ่านประชามติ “เต้น” เชื่อผลสอบราชภักดิ์ กห.เหมือน ทบ.

อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หยันรัฐบาล 1 ปีไม่มีอะไรตื่นเต้น โวยปรองดองมาตรฐานไม่เหมือนกัน แถมปราบโกงยังมีปัญหาเรื่องอุทยานราชภักดิ์ สับเขียนรัฐธรรมนูญสวนทางประชาธิปไตย เชื่อหวังให้มีตำหนิเพื่อไม่ผ่านประชามติ จวกแย่กว่าของ กมธ.ยกร่างฯ ฉะโอนถอดถอนไปให้ศาลแย่กว่าเดิม บี้โพลสำรวจให้จริง อ้างเงินจำนำข้าวโอนให้ชาวนาหมด ไม่กังวลข้าวหายมีบริษัทรับผิดชอบ ด้าน “ณัฐวุฒิ” เชื่อกลาโหมแถลงกรณีราชภักดิ์เหมือนกองทัพบก แนะไปจ้อจุดเกิดเหตุ

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงผลงานรอบ 1 ปีของรัฐบาลว่า ตนมองว่าไม่มีอะไรเท่าไหร่ เพราะเป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดอยู่แล้วทุกสัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร สอดคล้องกับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสำนักงานสถิติแห่งชาติก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าประชาชนร้อยละ 90 ชื่นชมการทำงานของรัฐบาล แต่ตนอยากขอให้ดูข้อเท็จจริงกับสถานการณ์ปัจจุบัน หลายเรื่องสวนทางกับผลสำรวจความคิดเห็น ทั้งเรื่องความปรองดองที่มาตรฐานยังไม่เหมือนกัน เรื่องการปราบปรามทุจริตที่เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล แต่ยังมีปัญหาการใช้งบก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนสวนทางกับแนวทางประชาธิปไตยจึงขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง อย่ามองแต่ตัวเลขผลสำรวจความคิดเห็นเท่านั้น ขณะที่สำนักโพลต่างๆ ควรสำรวจความคิดเห็นที่สะท้อนความเป็นจริง มิฉะนั้นความหน้าเชื่อถือจะหายไป

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุจะดำเนินคดีต่างๆ ที่ค้างอยู่ให้ถึงที่สุดซึ่งรวมถึงคดีโครงการรับจำนำข้าว นายสามารถกล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง และเงินในโครงการก็ถูกโอนใส่บัญชีชาวนาทั้งหมด ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องข้าวหาย ประเด็นนี้ก็มีบริษัทที่รับผิดชอบอยู่แล้วตามข้อสัญญา จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่เป็นธรรม

นายสามารถยังกล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญโดยคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า มองเจตนาการเขียนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องการเขียนให้มีตำหนิเพื่อไม่ให้ผ่านประชามติ เพราะเขียนขัดต่อหลักประชาธิปไตยสากลมาตั้งแต่ต้น ร่างฉบับนี้ถือว่าแย่กว่าร่างฉบับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก ส.ว.ที่มาจากการสรรหา แม้ไม่มีอำนาจถอดถอน แต่กลับน่าเป็นห่วง เพราะให้อำนาจถอดถอนไปอยู่ที่ศาลซึ่งแย่กว่าเดิม ส่วนพรรคการเมืองเองถ้าไปให้ความเห็นเมื่อร่างแรกออกมาแล้วก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมไม่คัดค้านตั้งแต่ต้นซึ่งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยมีประเด็นชี้แจงในสิ่งที่เห็นต่างมาตลอดเพื่อหักล้างในสิ่งที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตย ทั้งนี้หากร่างแรกออกมาแล้วเราจะพิจารณาข้อดีข้อเสีย เพื่อชั่งน้ำหนักในแต่ละเรื่อง หากเห็นว่าไม่ไหวจริงก็จะต้องชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบต่อไป

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า แม้ว่าจะเป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมประกาศไว้ว่า การตรวจสอบทุจริตก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์จะเสร็จภายในสิ้นปี 58 แต่การกำหนดวันที่ 30 ธันวาคมเป็นวันแถลงนั้นแสดงเจตนาว่ารัฐบาลต้องการใช้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนใช่หรือไม่ สัญญาณแบบนี้พอคาดการณ์ได้ว่าผลสอบของกระทรวงกลาโหมคงออกมาทิศทางเดียวกับของกองทัพบก ถ้าเป็นเช่นนั้นเชื่อว่าหลังขึ้นปีใหม่รัฐบาลคงพบกับความจริงว่ากรณีอุทยานราชภักดิ์เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะใช้เทคนิคทางการเมืองมากลบเกลื่อนได้

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า เมื่อเลือกวันสิ้นปีเป็นวันแถลงข่าว ตนก็ขอเสนอให้ใช้วาระนี้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการเชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังการแถลง ณ สถานที่จริง บริเวณอุทยานราชภักดิ์ พร้อมทั้งนำเยี่ยมชมจุดต่างๆ ที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ด้วย เชื่อว่ารูปแบบนี้จะทำให้ทุกฝ่ายสัมผัสความจริงใจของรัฐบาลได้ ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลว่าตนจะแฝงตัวปะปนไปด้วย เพราะเมื่อผู้มีอำนาจไม่ให้ไปตนก็ไม่ไป แค่ตอนนี้นั่งดูข้อมูลที่มีคนไปรวบรวมมาก็เหมือนไปเดินอยู่ในอุทยานทุกวันอยู่แล้ว ตนจะรอฟังการแถลงข่าวโดยละเอียด หากมีข้อสงสัยจะนำข้อมูลที่มีอยู่มาตรวจสอบกับคำแถลงของคณะกรรมการอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่เล่นไม่เลิก แต่รัฐบาลต้องเข้าใจว่าถ้าไม่กระจ่างเรื่องนี้ก็ไม่จบง่ายๆ