xs
xsm
sm
md
lg

อวยกันจนเวอร์ ระวังพารัฐบาล-ลุงตู่เข้ารกเข้าพงพังก่อนกำหนด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


แม้ว่าจะเป็นแบบหลากหลายอารมณ์กับผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่ปรากฏผลออกมาว่าชาวบ้านมีความพึงพอใจและมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สูงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียกว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่คนไทยเทใจให้

เป็นผลสำรวจที่แถลงโดย พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 ธันวาคม ก่อนการแถลงผลงานหนึ่งปีของรัฐบาลเพียงหนึ่งวัน โดยระบุว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานต่อที่ประชุมถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 2,700 คนทั่วประเทศ พบว่าประชาชนร้อยละ 88.2 ติดตามข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล โดยผ่านช่องทรายการคืนความสุขมากที่สุด ร้อยละ 85.2 และประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ทราบถึงการดำเนินการในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ร้อยละ 92 มีความพึงพอใจผลการดำเนินงานที่ผ่านมา 3 ลำดับแรก ได้แก่ การควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล การจัดสวัสดิการเพื่อพี่น้องประชาชน การแก้ไขปัญหายาเสพติด ขณะที่ประชาชนร้อยละ 98.9 มีความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

แม้ว่าจะอ้างถึงหน่วยงานสำรวจอย่างสำนักงานสถิติแห่งชาติ ถือเป็นหน่วยงานสำรวจมาตรฐาน หลายเรื่องที่ผ่านมา เช่นเรื่องการสำรวจสัมมโนประชากร แต่กับการสำรวจความพึงพอใจต้อผลงานรัฐบาลในคราวนี้ที่ผลความพึงพอใจออกมาสูงปรี๊ดจนน่าตกใจ เพราะเมื่อพิจารณาจากอารมณ์และความเป็นจริงที่ประสบมาด้วยตัวเองก็ต้องบอกว่า “เวอร์” เกินไป

เพราะเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับผลสำรวจจากสำนักอื่นๆ ตลอดหลายสัปดาห์ ที่มักมีการเปิดเผยผลสำรวจออกมาอย่างต่อเนื่องแทบทุกสัปดาห์ตัวเลขก็ไม่เคยพุ่งสูงปรี๊ดแบบนี้เลย

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากผลงานจริง และอารมณ์จริงที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ภายใต้ “อำนาจพิเศษ” ที่มีอยู่ก็ต้องบอกว่าให้ “สอบผ่าน” และแน่นอนว่าคะแนนในเรื่องความหวัง ความพึงพอใจก็ต้องลดน้อยกว่าตอนเหตุการณ์หลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 อย่างแน่นอน

หากพิจารณาในประเด็นอ่อนไหวอย่างเรื่องปากท้อง ค่าครองชีพประจำวัน มองในมุมไหนก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ชาวบ้านจะพึงพอใจกันแบบเต็มร้อย ไม่เชื่อก็ลองไปถามชาวสวนยางพาราที่ราคายางมีแต่ต่ำลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดีขึ้น ถามชาวสวนปาล์มที่ราคาตกต่ำ รวมไปถึงไปถามชาวนาดูสิว่าราคาข้าวตอนนี้สูงขึ้นหรือยัง

นี่คือความเป็นจริง เป็นความรู้สึกจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่ความพึงพอใจ ความชอบใจจะเพิ่มสูงขึ้นขนาดนั้น ขนาดพุ่งไปถึงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ถือว่าเกินเหตุ ไม่สมเหตุสมผล และอย่าได้แปลกใจที่เมื่อผลสำรวจแบบดังกล่าวออกมาทำให้สื่อตะวันตกของอเมริกาอย่างสำนักข่าวเอพี นำไปโจมตีเหน็บแนมทันทีในทำนองว่า “ผลสำรวจแบบนี้ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอในเกาหลีเหนือและอิรักในยุคของซัดดัม ฮุสเซน”

ความหมายก็คือ ประเทศไทยในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ภายใต้บรรยากาศเผด็จการเบ็ดเสร็จ ชี้นกเป็นไม้ โดยเปรียบกับสองประเทศเผด็จการสุดโต่งดังกล่าว แม้จะรู้ว่าสื่อพวกนี้มันจ้องจิกกัดมีวาระซ่อนเร้นจากผลประโยชน์ที่ปัจจุบันหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ทุกอย่างไม่มั่นคงเหมือนเดิมต้องต่อรองกันใหม่ จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างแรงกดดันเพื่อต่อรอง แต่ขณะเดียวกันเมื่อเกิดรายการอย่างที่เห็นขึ้นมามันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาที่คอยจ้องอยู่แล้วก็ดิสเครดิตถล่มเพิ่มเติมเข้ามาอีก

อย่างไรก็ดี หากพูดถึงเรื่องผลสำรวจที่ออกมาแบบเวอร์ดังกล่าว มันก็คงไม่ถึงกับทำให้รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องซวนเซหรือสั่นสะเทือนมากไปกว่าเดิม เพียงแต่ต้องการสะท้อนให้เห็นว่า ภายใต้บรรยากาศเบ็ดเสร็จแบบนี้มักจะมีรายการ “เลีย” ออกมาให้เห็นจนเกินจริงและหากผู้นำหลงเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องระรื่นหวานหูแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งน่ากลัว และที่สำคัญประสบการณ์ที่เคยเห็นก็คือ “ผู้นำ” ที่หลงงมงายไปกับเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่ก็ไปไม่รอด จบไม่สวยแทบทุกราย

ดังนั้น สิ่งที่ต้องการนำเสนอไปถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามความเป็นจริงก็คือเวลานี้แม้ว่าผลงานและความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมก็ต้องบอกว่าสอบผ่าน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับความจริงเช่นเดียวกันว่าความศรัทธาเริ่มลดลงกว่าเดิมแล้ว มีบางส่วนเริ่มระแวงสงสัยตั้งคำถามกันบ้างแล้วว่า “ทำเพื่อใครกันแน่” มีความมุ่งมั่นปฏิรูปตามความต้องการของชาวบ้านหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงแค่ลักษณะ “สมบัติผลัดกันชม” หรือไม่ ซึ่งระยะหลังมีพฤติกรรมหลายอย่างน่าสงสัย โดยเฉพาะในแวดวงคนรอบข้างมันช่างน่าสงสัยจริงๆ!
กำลังโหลดความคิดเห็น