ผู้จัดการรายวัน360 - ร้องตำรวจให้ดำเนินคดีทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ในคดีหมิ่นสถาบันฯ ม.112 ขณะที่ "พล.อ.ประยุทธ์" ห่วงกระแสต้านกระทบความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ หลังทููตมะกันถ่ายรูปคู่แกนนำเสื้อแดง-ผู้ก่อการร้าย ด้านสื่อมะกันย้ำอาจเป็นชนวนประท้วงหน้าสถานทูต ขณะที่ "นิวยอร์กไทม์ส” ฉบับตีพิมพ์ในไทยวางแผงวันนี้ โดนปฎิเสธการพิมพ์จากโรงพิมพ์ตะวันออกอีกติดๆกันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ หลังพยายามนำเสนอข่าวพาดพิงสถาบันต่อเนื่อง
วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม นายสนธิยา สวัสดี ตัวแทนสมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทย (สปท.) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. เพื่อยืนหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ นายกลิน ทาวน์เซนต์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กรณีออกมาแสดงความคิดเห็นถึงบทลงโทษจำคุกแก่ผู้หมิ่นประมาทสถาบันฯ ตามมาตรา 112 ในงานเสวนาสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยนายสนธิยานำเอาบทความที่ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง โพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยมาให้พนักงานสอบสวนไว้ใช้เป็นหลักฐานประกอบคำพิจารณา
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ต้องการให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ถอดเทปถ้อยคำที่ทูตสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยภายในงานเสวนาดังกล่าว และตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้จัดงานดังกล่าวว่ามีจุดประสงค์แอบแฝงหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทมาตรา 112 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป
โดยเบื้องต้น พ.ต.อ.ณษ ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนสั่งการให้พนักงานสอบสวนกก.1บก.ป. เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
นายกฯ หวั่นกระทบสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนไทยที่มีต่อท่าทีการแสดงออกของนายกลิน เดวีส์ หลังจากมีการเผยแพร่ภาพถ่ายของนายกลิน เดวีส์ ร่วมกับแกนนำ นปช. โดยเฉพาะภาพร่วมกับนายแพทย์เหวง โตจิรากร แกนนำ นปช. ที่ยังคงมีคดีก่อการร้ายติดตัว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ภายในของไทย และแนวทางการบริหารประเทศให้แก่มิตรประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำเสมอว่ารัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อความสุขสงบของสังคมไทย โดยใช้อำนาจอย่างรัดกุมที่สุด
"ทุกครั้งที่องค์กรระหว่างประเทศ หรือมิตรประเทศแสดงความห่วงในต่อสถานการณ์ในประเทศไทย หากเป็นการแสดงความเป็นห่วงใยบนหลักการสากลโดยสุจริตเที่ยงธรรม รัฐบาลไทยก็จะน้อมรับความเห็นเหล่านั้นทุกครั้ง แต่หากเป็นการแสดงความเห็นหรือท่าทีที่มิได้วางอยู่บนหลักการที่เป็นกลางอย่างแท้จริงหรือโน้มเอียงไปยังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งด้วยอคติส่วนตัว หรือจากความไม่รู้ ย่อมนำความไม่สบายใจมาสู่คนไทย และอาจสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งนายกฯ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นไม่ว่ากับประเทศใด"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า คนไทยทราบดีว่าที่ผ่านมาความวุ่นวายในประเทศมีต้นตอมาจากคนกลุ่มใด แต่อาจเป็นเรื่องใหม่ ความรู้ใหม่ของทูตคนดังกล่าว ดังนั้น หากมีความประสงค์จะรับทราบเรื่องราวใดๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รัฐบาลจะให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้อธิบายชี้แจงจนครบถ้วนในทุกมิติ โดยไม่ควรที่จะใช้วิธีเสาะแสวงหาข้อมูลเองโดยปราศจากความเข้าใจเรื่องราวของประเทศไทยที่ถูกต้อง เพราะอาจถูกชี้นำโดยกลุ่มคนที่มีจุดประสงค์เคลือบแฝงได้
** สื่อมะกันหวั่นเป็นชนวนประท้วงหน้าสถานทูต
นายไมเคิล ยอน ผู้สื่อข่าวอิสระสัญชาติสหรัฐฯ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวในหัวข้อ “Thailand: Nok Sek with US Ambassador Glyn Davies” หรือ “ประเทศไทย : นกแสกกับท่านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กลิน เดวีส์” โดยระบุว่า “นกแสกคือหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่อยู่ทางซ้ายของภาพ ดูจากภายนอกอาจจะไม่รู้ว่าเธอคือหัวหน้าผู้ก่อการร้าย แต่เธอมีสิทธิมีเสียงอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงไม่น้อย พวกเขาระเบิดผู้คน ยิงใส่ผู้คน แล้วก็โฮ่ร้องเฉลิมฉลอง ผมเองยังเกือบถูกระเบิด RPG ที่พวกเขายิง (ระเบิดยิงถูกห้องพักที่เหนือจากห้องพักของผมไป 3 ชั้น) เอกอัครราชทูตของเรา ชาวสหรัฐฯ ไม่ควรจะไปถ่ายภาพร่วมกันกับนกแสก แล้วทำไมท่านถึงไปอยู่ที่เดียวกันงานเดียวกันกับนกแสกได้? ถึงจุดนี้ ไม่แน่ใจว่าจะช่วยอะไรท่านได้ เว้นเสียแต่ว่าท่านจะมีคำตอบที่ฟังดูเข้าท่าดีมากๆ ภาพถ่ายลักษณะนี้ สามารถเป็นชนวนนำไปสู่การประท้วงที่หน้าสถานทูตได้”
*** งดตีพิมพ์“นิวยอร์กไทม์ส”เป็นครั้งที่สอง
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า วานนี้(3ธ.ค.) โรงพิมพ์ได้ตรวจสอบพบข่าวในหนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชันแนล นิวยอร์ก ไทม์ส ในไทยฉบับที่จะตีพิมพ์เพื่อวางจำหน่ายในวันนี้(4ธ.ค.)มีพาดหัวข่าวและเนื้อหาข่าวที่เป็นประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงของไทยอีกครั้งจึงสั่งให้งดพิมพ์ข่าวดังกล่าวเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นฉบับก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชันแนล นิวยอร์ก ไทม์ส ได้ว่าจ้างโรงพิมพ์ตะวันออกเป็นผู้พิมพ์ซึ่งในสัญญาให้อำนาจการพิจารณาเนื้อหาข่าวแก่ผู้พิมพ์หรือโรงพิมพ์สามารถปฎิเสธไม่ตีพิมพ์ได้หากตรวจสอบพบว่า พาดหัวข่าว หรือ เนื้อหาข่าว กล่าวถึงเรื่องที่อ่อนไหว ส่อไปในทางผิดกฎหมายไทยโดยก่อนหน้านี้ ฉบับวันอังคารที่ 1 ธ.ค.2558 หนังสือพิมพ์ชื่อดังของสหรัฐฯถูกปฎิเสธการพิมพ์มาครั้งหนึ่งแล้วโดยปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่างเปล่าแทน และพิมพ์เนื้อหาระบุว่า มีการพาดพิงประเด็นอ่อนไหว และมีสิทธิไม่เผยแพร่ภาพดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสม
ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมฺส์ โดยนายไอลีน เมอร์ฟีย์ โฆษกของนิวยอร์กไทม์ส ระบุว่า พื้นที่ว่างเปล่าที่เกิดขึ้นกับหนังสือพิมพ์เป็นการตัดสินใจของโรงพิมพ์ตะวันออก โดยได้รับแจ้งว่าจะไม่พิมพ์ข่าวดังกล่าว และ ยืนยันว่า ทางหนังสือพิมพ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ