xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้นายกฯ แจงปฏิรูปไม่ทราบรูปธรรม กระตุ้น ศก.ไม่ชัด แนะช่วยคนไร้กำลังซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” มอง “ประยุทธ์” แจงปฏิรูปกว้างๆ ไม่ทราบรูปธรรม ยอมรับผลงานมั่นคง แต่ไฟใต้คงท้าทาย ย้อนเปรียบ คสช.เป็นหมออาสาแต่ยังไม่มีคำตอบแก้ปัญหาก่อนรัฐประหาร ชี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ กังวลกระตุ้น ศก.ยังไม่ชัดเจน รวมถึงปัจจัยภายนอก แรงกดดัน การช่วยเหลือเกษตรกร ติงผุดลดหย่อนภาษีชอปปิ้งช่วยชาติกะทันหันไป ควรช่วยคนไม่มีกำลังซื้อมากกว่า

วันนี้ (24 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลว่า ตนเห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีการพูดถึงการเดินหน้าต่อไปในภาพใหญ่ว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำแล้วเดินไปข้างหน้าคืออะไร แต่สิ่งที่สังคมคาดหวังคือการปฏิรูป การทำอย่างไรให้การเมืองสงบเรียบร้อย กลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ไม่ย้อนกลับมาสู่ภาวะวิกฤต หลักการที่นายกฯ พูดคงไม่ได้เปลี่ยนจากเดิมยังคงให้ความสำคัญที่จะต้องปฏิรูป 6 ด้านกว้างๆ แต่ไม่ทราบว่ารูปธรรมแต่ละเรื่องคืออะไร ในแง่ของการเมืองก็เป็นการพูดในหลักการที่เราก็ฟังมาบ่อยว่าไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเป็นตัวเป็นอุปสรรคที่จะให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมนอกจากการยืนยันแนวคิด หลักคิด และกรอบเวลาต่างๆ ที่เคยพูดมาแล้ว

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงผลงานรัฐบาลด้านมั่นคงว่า ต้องยอมรับในแง่ของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และการใช้อำนาจในการเข้าไปขจัด หรือลดอำนาจอิทธิพลที่ไม่ถูกต้องต่างๆ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของรัฐบาลในสายตาของประชนในช่วงปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ส่วนปัญหาภาคใต้ก็ต้องรอดูความคืบหน้าต่อไป เพราะตนคิดว่าตัวเลขความรุนแรง หรือความถี่อาจจะลดลงก็จริง แต่ไม่ใช่ภาวะที่จะมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะแก้ไขปัญหาได้แล้ว ดังนั้นการที่จะแก้ปัญหาระยะยาวก็คงจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับรัฐบาลนี้ในการที่จะต้องทำต่อไป

ส่วนที่นายกฯ เปรียบ คสช.เป็นเสมือนหมออาสาที่เข้ามาดูแลอาการป่วยของประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในคำพูดนั้นก็ย้อนกลับไปที่ตัวเองเหมือนกันว่าได้ผ่าตัดอะไร ที่จะทำให้ผู้เล่นไม่เหมือนเดิม ตรงนี้เป็นรอยต่อที่มีความละเอียดอ่อนในหลายมิติมาก ไม่ใช่แต่เฉพาะผู้เล่นที่เป็นนักการเมือง ความจริงผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตยคือประชาชน ตรงนี้เราทำอะไรอย่างไรในการที่จะทำให้การใช้สิทธิ เสรีภาพก็ดี การมีส่วนร่วมในทางการเมืองก็ดี กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลก็ดีให้เจ้าของประเทศที่มันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่จะมาช่วยระงับ ยับยั้ง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับก่อน 22 พ.ค. ตรงนี้ที่คิดว่ายังไม่มีคำตอบ แล้วก็ต้องเป็นภาระหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะช่วยกันหาคำตอบ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะหมอ คนไข้ก็ต้องร่วมมือด้วย

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนผลงานด้านเศรษฐกิจตนยังกังวลอยู่ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลก็ยอมรับว่าจำเป็นจะต้องทำเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังมีปัญหา ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติมว่าจะทำในรูปแบบไหนอย่างไร และปมปัญหาที่ยังเป็นข้อจำกัดของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของปัจจัยภายนอก รวมทั้งแรงกดดันต่างๆ เช่น การบิน การประมง ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม หรือเรื่องของภัยแล้งที่บอกว่ายังอยู่ในกรอบที่จะขอความร่วมมือ หรือเรื่องเอาบริษัทเอกชนมาช่วยดูเรื่องพืชทดแทน ตนมองว่าไม่สามารถสร้างความมั่นใจว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ รัฐบาลต้องชัดเจนว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เพื่อให้เกษตรกรตัดสินใจได้ง่าย

ส่วนมาตรการลดหย่อนภาษีช้อปปิ้งช่วยชาติในช่วง 25-31 ธ.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเข้าใจในเจตนาของรัฐบาล แต่เป็นการออกมาตรการที่กระทันหันเกินไป และอยากให้ดูการช่วยเหลือคนที่ไม่มีกำลังซื้อมากกว่า เช่นกรณีสถานการณ์ข้าวตอนนี้ ภาคอีสานเดือดร้อนมากราคาข้าวตกต่ำ ตนยืนยันว่า นโยบายประกันรายได้ที่เคยทำน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจโดยธรรมชาติ ขณะที่มาตรการหักลดหย่อนภาษี คนที่จะได้ประโยชน์คือคนที่มีกำลังซื้อ แต่คนไม่มีกำลังซื้อก็ไม่สามารถช่วยได้ และคนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็มีจำนวนค่อนข้างน้อย คนที่มีรายได้ค่อนข้างจะต่ำลงไปก็ไม่อยู่ในฐานะที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ รายได้ไม่ถึงขั้นที่จะต้องเสียภาษีอยู่แล้ว

“ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในแง่ของการอยากให้คนใช้จ่ายมากขึ้น รัฐบาลควรหาทางเอารายได้ไปให้คนที่เขาไม่มีจะดีกว่าไปลดหย่อนให้คนที่เขามีอยู่แล้ว” นายอภิสิทธิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น